รัฐทหารถูกทุกข้อ
สถานการณ์รอบสัปดาห์ ที่มีข่าวขัดแย้งหลายด้าน ถ้านำมาร้อยเรียงกัน จะเห็นจุดร่วมอยู่อย่าง นั่นคือรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐ ยืนกรานถูกทุกเรื่อง รัฐบาลทำเพื่อชาติบ้านเมือง ตัดสินใจอะไรประชาชนต้องยอมรับตำรวจทหารก็ล้วนเป็นคนดี อย่าข้องใจการปฏิบัติหน้าที่
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
สถานการณ์รอบสัปดาห์ ที่มีข่าวขัดแย้งหลายด้าน ถ้านำมาร้อยเรียงกัน จะเห็นจุดร่วมอยู่อย่าง นั่นคือรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐ ยืนกรานถูกทุกเรื่อง รัฐบาลทำเพื่อชาติบ้านเมือง ตัดสินใจอะไรประชาชนต้องยอมรับตำรวจทหารก็ล้วนเป็นคนดี อย่าข้องใจการปฏิบัติหน้าที่
รัฐบาลทำถูกหมด ตั้งแต่การตัดสินใจซื้อเรือดำน้ำ (โทรมาตอนนี้ ลดทันที) 2 แถม 1 ทั้งที่ต้องทำงบขาดดุล 4.5 แสนล้าน ชาวบ้านกำลังหวาดผวา กลัวรัฐบาลรีดภาษี ดุสิตโพลล่าสุด 46.83% เชื่อว่าข่าวเก็บภาษีเกี่ยวข้องกับข่าวรัฐบาล “ถังแตก”
แต่ดูท่าที กองทัพที่เป็นรัฐบาลก็จะเอาเรือดำน้ำให้ได้ ไม่สนใจลดงบกลาโหมที่เพิ่มจาก 85,936 ล้านในปี 49 มาเป็น 214,347 ล้านในปี 60
เท่านั้นไม่พอ ยังอนุมัติงบ 300 ล้านซื้อลิขสิทธิ์จัดโมโตจีพีที่บุรีรัมย์ ซึ่งนักการเมืองปากห้อยได้ประโยชน์เต็มๆ แต่รัฐบาลมั่นใจมากว่าจะไม่มีใครกล้าครหา
ปลายสัปดาห์ ท่านผู้นำยังออกทีวี “ขอความร่วมมือ” NGO อย่าทำตัวเป็นอุปสรรคการพัฒนา อย่าเป็นจระเข้ขวางคลอง ปิดหูปิดตาคัดค้านตลอดเวลา ซึ่งคงจะหมายถึงการคัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหิน อ้าว ก็ท่านยอมให้ศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมใหม่ไม่ใช่หรือ แล้วไปว่าเขาทำไม
เพียงไม่ทราบท่านได้ข่าวที่สระแก้วหรือเปล่า คณะครู 4 โรงเรียนจะนำเด็กเดินรณรงค์คัดค้านการก่อสร้างโรงงานคัดแยกขยะพิษ กากอุตสาหกรรม และสิ่งปฏิกูล ก็โดนทหารห้าม อ้างว่าเข้าข่ายชุมนุมในที่สาธารณะ
ท่าทีเหล่านี้ ระวังจะทำให้คนรู้สึกว่า โครงการอะไรที่รัฐบาลทหารกับภาคธุรกิจเจรจาต้าอ่วยกันได้แล้ว ประชาชนคัดค้านไม่ได้เลย มีหน้าที่ต้องยอมรับและเชื่อฟังเท่านั้น
อ๊ะอ๊ะ จะไม่พูดเรื่องดีบ้างหรือ ม.44 รัดเข็มขัดเซลฟีโชว์ไม่ 2 มาตรฐาน แต่เดี๋ยวนะครับ กรมการขนส่งทางบกเพิ่งกำหนดให้รถส่วนบุคคลรถแท็กซี่ติดเข็มขัดทุกที่นั่งเมื่อปี 2554 นี้เอง รถที่ไม่มีจะทำไง ยิ่งกว่านั้น ยังบังคับรถกระบะไม่ให้นั่งด้านหลัง ทั้งที่ชาวบ้านนั่งกันทั่วไปในชนบท มิพักต้องพูดถึงห้ามนั่งรถกระบะเล่นสงกรานต์ ซึ่งงานกร่อยแน่นอน
ใช่เลยนี่เป็นเรื่องดี แต่มีผลกระทบกว้างขวางมาก เอาง่ายๆ รัฐบาลเลือกตั้งไม่มีทางทำได้ เพราะยังต้องแคร์ความรู้สึกประชาชน ถ้าจะทำ ก็ต้องวางมาตรการค่อยเป็นค่อยไป
แต่รัฐทหาร มองในแง่ดีก็คงรู้สึกเหมือน “พ่อปกครองลูก” เห็นประชาชนเป็นเด็ก ไม่รู้จักดูแลตัวเอง ตัดสินใจเองไม่ได้ จึงต้องใช้อำนาจบังคับ ต้องตัดสินใจให้ สิ่งไหนดีไม่ดี เป็นประโยชน์ไหมกับบ้านเมือง “คุณพ่อ” รู้มากกว่ารู้ดีกว่า อย่ามาวุ่นวาย อยู่เฉยๆ อยู่ในโอวาท อย่าหือ เดี๋ยวจะสร้างบ้านเมืองที่เจริญรุ่งเรืองให้
ไม่แปลกเลยเพราะทหารมีอำนาจมา 3 ปี ในยุคที่สังคมอับจน ไม่เห็นอนาคต ตกอยู่ใต้อำนาจบังคับที่มีแต่คนเชียร์ จนทหารรู้สึกฮึกเหิมเหมือนพยัคฆ์ลำพอง หลงไปว่าตนเองเก่งกว่า ดีกว่า รักชาติกว่าคนอื่น
แต่ทหารจะรู้ตัวไหมว่าเป็นความสำคัญผิด และถ้ายิ่งทำอะไรโดยไม่แคร์ความรู้สึกใครเลย ก็ยิ่งสำคัญผิด แบบที่เกิดคดีวิสามัญฆาตกรรมแล้วใช้ถ้อยคำ “ถ้าเป็นผม อาจกดออโต้ไปแล้วก็ได้” ไม่ว่าใครถูกใครผิด ก็เหมือนราดน้ำมันบนกองไฟ
ระวังนะครับ ถือตัวว่าถูกทุกอย่างถ้าถูกจับผิดเข้าบ้าง จะเป็นไง