ไว้ใจได้กา

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

 

*ดูเหมือนสถานการณ์ของ “ลม ฟ้า อากาศ” น่าจะแปรปรวนต่อไปอย่างไม่มีกำหนด ทำให้สาวน้อยร่างบางอย่าง “โมนิก้า” ต้องเตรียมตัวรับมือกับสถานการณ์ดังกล่าวด้วยการ “ยืด อก พก ถุง”..อุ๊ย.. “ยืด อก พก ร่ม” ตลอดเวลา เฉกเช่นเดียวกับสถานการณ์ของตลาดหุ้นที่ทำท่าจะไปได้ไม่ไกล พอเอาเข้าจริงๆ กลับทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง แต่บางวันก็อ่อนปวกเปียกเป็นมะเขือเผาซะอย่างนั้น!

*ประเด็นเหล่านี้ทำให้แมงเม่าหลายก๊กลงความเห็นเหมือนกันว่า การทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,576.72 จุด บวกไป 6.22 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.89 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นการดันหุ้นเพื่อปิดบัญชีมากกว่า หรือที่ทุกคนเรียกกันติดปากว่า window dressing นั่นเอง! เพราะเมื่อเหลือบดูมูลค่าการซื้อขายที่ค่อนข้างเบาบาง บวกกับนักลงทุนสถาบันเคาะกันแบบเปาะๆ แปะๆ มันทำให้เชื่อเช่นนั้นจริงๆ นะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้ถึงทำให้นักลงทุนเกิดอาการหวั่นใจตลอดเวลา เพราะมีหุ้นขนาดใหญ่ไม่กี่ตัวที่ยืนระยะได้ค่อนข้างดี ส่วนที่เหลือก็ออกอาการติ๊ดชึ่งกันอย่างถ้วนหน้า ขณะที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กก็เล่นกันแบบฉาบฉวย ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนในจังหวะนี้ขึ้นอยู่กับความไวเป็นหลัก ซึ่งทำให้ประเด็นอื่นไม่มีความหมายอีกต่อไปในทันทีแบบนี้ มันเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้นสำหรับคนที่รักสนุกนะจะบอกให้

*เหมือนกับเผือกร้อนชิ้นใหม่อย่าง APX มันทำให้ผู้คนที่เกี่ยวข้องก่นด่ากลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ถนัดเรื่องเกมหุ้นกันยกใหญ่ เพราะแต่ละตัวที่ถูกเอ่ยถึงยังไม่ได้แสดงความรับผิดชอบอะไรเลย มิหน่ำซ้ำ..ยังออกมาโบ้ยความผิดให้เป็นของอีกฝั่งหนึ่งแบบหน้าด้านๆ “โมนิก้า” ถึงมองว่า เรื่องนี้มันมั่วซั่วกันมาตั้งแต่ต้นเรื่อง ปลายเรื่องถึงกลายเป็นเหตุการณ์ฝนตกขี้หมูไหล คนอะไรมาพบกันไงล่ะค่ะ

*เมื่อความชัดเจนในการทำธุรกิจยังเป็นที่กังขา บวกกับกระแสข่าวลือเม้าท์กันหนาหูขึ้นมาเรื่อยๆ คนที่ตกเป็นจำเลยสังคมอย่างเลี่ยงไม่ได้อย่างเจ้าของเก่า “เฮียสวัสดิ์”  กับคนทำแผนอย่าง “มาชานลี” จึงถูกขึงผืดประจานบนโลกออนไลน์อย่างหนักหน่วง ส่วนกลุ่มของ “เสี่ยปู่” ที่ควงแขนมากับ “เสี่ยจึง” ก็ใช่ว่าจะรอดจากปากเหยี่ยวปากกา เพราะตกเป็นผู้ต้องสงสัยในคดีทุบหุ้นเหมือนกัน วันนี้ถึงต้องมาไล่ถามจากปากคนเหล่านี้ทีละคนว่า หุ้นร่วงมาปิดที่ 0.73 บาท ลบไป 0.23 บาท หรือลงไป 24% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 840 ล้านบาท ใช่ฝีมือคุณอ่ะเปล่า?

*เหมือนกับกรณีของ KTB กลายเป็นแม่สายบัวรอเก้อจนได้แบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจเป็นอย่างยิ่ง  เพราะเมื่อดูจากความตั้งใจในการชำระหนี้ของลูกหนี้อย่าง AQ ก็มีแผนการเงินที่ค่อนข้างชัดเจนพอสมควร แต่เมื่อดูเหตุผลที่สำนักงาน ก.ล.ต. นำมาเป็นข้ออ้าง ก็เป็นเรื่องที่พอเข้าใจได้เหมือนกัน ความซวยเลยตกมาอยู่ที่เจ้าหนี้อย่างช่วยไม่ได้ วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 20.30 บาท ลบไป 0.30 บาท หรือลงไป 1.50% ด้วยมูลค่า 1.90 พันล้านบาท มันเป็นผลกระทบสั้นๆ แต่ถ้าดูยาวๆ ยังมีสตอรี่ดีๆ บิวด์ให้หุ้นขึ้นอีกนะคะ

*โพสิชั่นดังกล่าวคล้ายคลึงกับกรณีของ TMB มีแรงเทขายออกมาเรื่อยๆ จนทิศทางของหุ้นโค้งตัวลงค่อนข้างชัดเจน จนสุดท้ายมาปิดที่ระดับ 2.36 บาท ลบไป 0.02 บาท  ด้วยมูลค่า 162 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตอันตรายสำหรับคนที่คิดจะช้อนซื้อหุ้นเก็บไว้ เพราะแนวรับถัดไปอยู่ที่ระดับ 2.30 บาท หากเอาไม่อยู่ก็จะต้องไปลุ้นแถว 2.20 บาทกันเลยทีเดียว..ทางที่ดีควรรอให้หุ้นเด้ง แล้วค่อยซื้อจะดีกว่านะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BLAND กำลังพยายามสร้างฐานแนวรับใหม่ที่บริเวณ 1.80 บาท “โมนิก้า” มองเป็นจังหวะของการทยอยสะสมหุ้นเก็บไว้ในพอร์ต เพราะของมันเห็นกันทนโท่ว่า ยังมีทีเด็ดที่ไม่ได้ออกมาโชว์อีกเยอะ บวกกับหุ้นผ่านกระบวนการทดสอบมาระยะหนึ่ง ส่งผลให้การยืนปิดที่ระดับ 1.81 บาท บวกไป 0.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 140 ล้านบาท ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี เพราะหุ้นกำลังเตรียมตัวขึ้นไปหายอดเดิมที่บริเวณ 1.95 บาทไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ BEM วิ่งรับข่าว ครม.เคาะอย่างเป็นทางการให้เดินรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยายแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงต้องหันไปมองยอดเก่าที่บริเวณ 8 บาทในทันที เพราะของมันเห็นกันเต็มลูกตาว่า แวลูของหุ้นจะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ บวกกับหุ้นเพิ่งขึ้นมายืนอยู่ที่ 7.60 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่า 1.36 พันล้านบาท จึงเหลือแก๊ปให้วิ่งอีกเยอะพอสมควรเจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นที่มาจากความเชื่ออย่าง GL ยังเป็นช็อตที่นักเล่นต้องใช้วิจารณญาณมากพอสมควร เพราะเรื่องที่ซุกไว้ใต้พรมเริ่มปูดออกมาทีละช็อต และการที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่าง ตลท. กับ ก.ล.ต. ค่อนข้างอุบไต๋เงียบเชียบแบบนี้ “โมนิก้า” ฟันธงได้ทันทีว่า กำลังรวบรวมข้อมูลอะไรบางอย่าง หากไม่มีอะไรจริงๆ ป่านนี้ออกมาพูดเยอะกว่านี้แล้วแน่ๆ ส่งผลให้การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 25.75 บาท บวกไป 1.55 บาท หรือขึ้นไป 6.40% ด้วยมูลค่า 2.21 พันล้านบาท ย่อมเป็นเรื่องของคนที่ชอบเสี่ยงโดยตรงนะจ๊ะ