แววมันออก!
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นอะไรที่ไม่ยากเกินคาดเดา และไม่ง่ายที่จะทำให้ทุกคนมีกำไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน ส่งผลให้การเข้าลงทุนในช่วงหลังยังเป็นลักษณะ “ลงซื้อ ขึ้นขาย” พร้อมกับกำหนดกรอบการเล่นค่อนข้างสั้นจู๊ดจู๋แบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมองกรอบการวิ่งในเที่ยวนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพราะมันเป็นเกมสำหรับนักเล่นที่พร้อมกระโจนใส่เมื่อมีโอกาสไงล่ะค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยเป็นอะไรที่ไม่ยากเกินคาดเดา และไม่ง่ายที่จะทำให้ทุกคนมีกำไรติดไม้ติดมือกลับบ้าน ส่งผลให้การเข้าลงทุนในช่วงหลังยังเป็นลักษณะ “ลงซื้อ ขึ้นขาย” พร้อมกับกำหนดกรอบการเล่นค่อนข้างสั้นจู๊ดจู๋แบบนี้ “โมนิก้า” ถึงมองกรอบการวิ่งในเที่ยวนี้ไม่มีอะไรซับซ้อนซ่อนเงื่อน เพราะมันเป็นเกมสำหรับนักเล่นที่พร้อมกระโจนใส่เมื่อมีโอกาสไงล่ะค่ะ
*คิดง่ายๆ ก็คือ วันก่อนดัชนียังทำท่าพักเพื่อไปให้เห็นกันเต็มตา แต่เอาเข้าจริงกลับวิ่งปรู๊ดขึ้นไปถึง 1,584.73 จุด ก่อนจะโรยตัวลงมาปิดที่ 1,579.88 จุด บวกไปแค่ 4.91 จุด ด้วยมูลค่า 5.17 หมื่นล้านบาท ถือเป็นเกมที่ทุกคนต้องเริ่มเปิดหน้าเล่นอีกครั้ง และตัวที่บิวด์อารมณ์ในจังหวะนี้คงหนีไม่พ้นเรื่อง window dressing อีกตามเคย ซึ่งทำให้หุ้นหลายตัวบนกระดานกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งไงล่ะจ๊ะ
*วานนี้ถึงเห็นหุ้นบลูชิพชั้นนำกระตุกขึ้นกันอย่างพร้อมเพรียง ซึ่งทำให้เดี๊ยนมั่นใจขึ้นไปอีกขั้นหนึ่งว่า ดัชนีน่าจะขึ้นมายืนเหนือ 1,580 จุด ต่อจากนั้นจะถีบตัวขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,600 จุด แต่ในระหว่างทางที่กำลังจะไปถึงยอดด้านบน น่าจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาทดสอบกำลังใจมากพอสมควร บวกกับฝรั่งตาน้ำข้าวทุ่มเงินซื้อหุ้นคนเดียวไปกว่า 1 หมื่นล้านบาท มันทำให้เชื่อว่า วันนี้จะเล่นกันต่อแน่ๆ เจ้าค่ะ
*ประเด็นนี้ดูได้จากการเคลื่อนตัวของ TRUE แอบปรับตัวขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 6.75 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 1.64 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของโพสิชั่นการลงทุนเวียนมาบรรจบอีกรอบ จึงกลายเป็นหุ้นที่ฝรั่งลุยซื้อแบบสุดซอยอีกครั้ง ความหวังที่จะได้เห็นราคาหุ้นขึ้นไปยืนแถว 7 บาท ถึงไม่ใช่การเพ้อฝันตอนกลางวันแสกๆ อีกต่อไปค่ะ
*เหมือนกับในรายของ CBG สามารถสังเกตได้ทันทีว่า ฝรั่งมาทีไร..หุ้นแรงทุกที วานนี้ถึงเห็นหุ้นขึ้นมาปิดที่ 62.75 บาท บวกไป 4.25 บาท หรือขึ้นไป 7.30% ด้วยมูลค่า 1.44 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูแบบไม่มีข้อแม้ หรือคิดจะโหนกระแสในช่วงนี้ นี่เป็นจังหวะที่ดูดีมากสุดจังหวะหนึ่ง แถมหุ้นเพิ่งเริ่มขยับออกจากฐานเป็นวันแรกแบบนี้..เคาะรัวๆ ได้เลยนะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ BDMS เผลอแป๊บเดียวหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 21.30 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 570 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า เมื่อหุ้นลงมาถึงจังหวะที่ไม่มีคนสนใจ มักมีการไล่ราคาหุ้นขึ้นแบบเงียบๆ เป็นประจำ และนี่คือตัวอย่างของหุ้นที่กำลังฟอร์มตัวเป็นขาขึ้นแบบเต็มตัว ยิ่งมองย้อนกลับไปเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนที่หุ้นยืนอยู่แค่ระดับ 19.80 บาท ยิ่งทำให้เชื่อว่า หุ้นกำลังจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 22.30 บาทอีกรอบนะคะ
*ส่วนในรายของ ORI กระชากขึ้นแรง 2 วันติดต่อ ก่อนจะมาปิดที่ระดับ 12.70 บาท บวกไป 1.50 บาท หรือขึ้นไป 13.40% ด้วยมูลค่า 280 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นผลมาจากความชัดเจนในเรื่องการทำกำไร นักเล่นถึงให้แวลูสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับโฟกัสไปที่เรื่องผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ปี 60 มากเป็นพิเศษ เพราะจะมีผลต่อราคาหุ้นในกระดานโดยตรงนะซี
*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขออนุญาตพูดถึงหุ้นลิสซิ่งสีเทา GL เพิ่มเติมอีกนิดหน่อย เพราะการชี้แจงเพิ่มเติมที่ออกมาในแต่ละชุด กลายเป็นข้อมูลที่มัดตัวเองแบบดิ้นไม่หลุดกันเลยทีเดียว แถมเมื่อนำข้อมูลดังกล่าวไปถามนักบัญชีว่า ข้อมูลปล่อยกู้แบบนี้ มีการจัดตั้งบริษัทแบบนี้ เห็นแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้าง? ทุกคนตอบเป็นเสียงเดียวกันว่า เรื่องนี้ต้องมีเบื้องหลังอะไรอีกแน่ๆ หุ้นถึงถูกเทขายตลอดเวลา จนลงมาปิดที่ 22.60 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 3.40% ด้วยมูลค่า 1.44 พันล้านบาท เดี๊ยนบอกได้ทันทีว่า ผลทุกอย่างจะออกมาแสดงในไตรมาส 1 จ้า!
*ประเด็นข้างต้นสอดรับกับสถานการณ์ของหุ้น ITD หลังหุ้นถูกรินออกมาเรื่อยๆ จนท้ายสุดมาปิดที่ระดับ 4.78 บาท ลบไป 0.04 บาท ด้วยมูลค่า 183 ล้านบาท พร้อมกับทำจุดต่ำสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง ก็คงมาจากผลงานไม่เข้าตากรรมการ แรงเทขายถึงยังไม่หมดลงสักที บวกกับสตอรี่ในช่วงหลังๆ ไม่ค่อยมีอะไรน่าตื่นเต้นเร้าใจเหมือนก่อน จึงเริ่มตกอยู่ในสภาพของหุ้นที่โลกลืมแล้วนะคะ
*ส่วนที่ลืมไม่ได้อย่าง APX ถูกปูข่าวด้วยแหล่งชุมนุมนักปั่นน่องเหล็ก ชีวิตก็เลยไม่สวยงามเหมือนเช่นคนอื่นๆ เพราะชาวหุ้นรู้กันเป็นอย่างดีว่า พวกนี้ชอบหักหลังกันเป็นประจำ วันนี้ถึงไม่รู้ว่า ใครเป็นคนกดหุ้นลงมาปิดที่ 0.77 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 7.20% ด้วยมูลค่า 340 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องอันตรายสำหรับคนที่จะเข้าไปตะลุมบอนในเที่ยวนี้ เพราะแรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำเจ้าค่ะ
*ตรงกันข้ามกับในรายของ ETE วิ่งกลับขึ้นมาปิดที่ 3.84 บาท บวกไป 0.42 บาท หรือขึ้นไป 12.30% ด้วยมูลค่า 117 ล้านบาท แถมเป็นการปิดบวกแบบสุดติ่งกระดิ่งแมวเป็นครั้งแรกในรอบเดือนครึ่ง น่าจะหมายถึงแรงเทขายเริ่มสะเด็ดน้ำแล้วจริงๆ จึงมีแรงซื้อกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นอย่างคึกคัก บวกกับกูรูหลายสำนักมองราคาหุ้นไม่ต่ำกว่า 5 บาท วันนี้ถึงน่าตามไปดูอีกสักรอบนะคะ