TFI จะรุ่งไหม?
ข้อมูลตรงนี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องแยกแยะตั้งแต่เริ่มต้นว่า ธุรกิจแต่ละบริษัทอาจเหมือนกันก็จริง แต่วิธีการบริหารงานอาจไม่เหมือนกัน รวมทั้งการศึกษาของผู้บริหารที่ดูค่อนข้างดีกว่าคนอื่น ก็ไม่ใช่เครื่องมือที่บอกให้นักลงทุนรู้ว่า บริหารงานเก่งหรอกครับ
สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย
ชายนิรนาม จากบางกะปิ กรุงเทพฯ เล่าให้อาจารย์ฟังว่า ตัวเองติดหุ้น TFI หรือ บริษัท ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) ไว้ที่ราคา 2 บาทกว่าๆ ที่ซื้อหุ้นเพราะมีความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัทดังกล่าว เนื่องจากบริษัทที่ทำงานอยู่เป็นลูกค้าของ TFI บวกกับเจ้าของคือ คุณประยุทธ์ มหากิจศิริ ซึ่งเป็นนักเรียนนอก และเป็นดร.หลายสถาบันในประเทศไทย รวมทั้งเป็นนักศึกษาชั้นสูงหลายสถาบัน แต่ทำไมหุ้นของ TFI จึงถูกมากเมื่อเทียบกับ บริษัท เอ.เจ.พลาสท์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJ ซึ่งประกอบธุรกิจเหมือนกัน นอกจากนี้ยังเห็นคุณประยุทธ์ ขยายธุรกิจไปอีกหลายกิจการ จึงอยากให้คุณประยุทธ์ใส่ใจดูแลหุ้นหน่อย และช่วยเห็นใจผู้ถือหุ้นรายย่อยด้วย จึงขอให้อาจารย์ช่วยวิเคราะห์หุ้น TFI สิทธิ์รุ่งเรืองหรือไม่?
ข้อมูลตรงนี้เป็นเรื่องที่นักลงทุนต้องแยกแยะตั้งแต่เริ่มต้นว่า ธุรกิจแต่ละบริษัทอาจเหมือนกันก็จริง แต่วิธีการบริหารงานอาจไม่เหมือนกัน รวมทั้งการศึกษาของผู้บริหารที่ดูค่อนข้างดีกว่าคนอื่น ก็ไม่ใช่เครื่องมือที่บอกให้นักลงทุนรู้ว่า บริหารงานเก่งหรอกครับ
เนื่องจากผลชี้วัดดังกล่าวมันอยู่ที่ตัวเลขกำไรในบรรทัดสุดท้ายออกมาสวยงามขนาดไหน?
ยิ่งตัวเลขดังกล่าวอยู่ในทิศทางที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทุกปี ยิ่งผลักดันให้หุ้นตัวนั้นได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นกองในทันที พร้อมกับเกิดความคาดหวังว่า ในปีถัดไปจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม
น่าเสียดายที่หุ้น TFI หรือ บริษัท ไทยฟิล์มอินดัสตรี่ จำกัด (มหาชน) ไม่ได้ข่ายดังกล่าวแม้แต่นิดเดียว เพราะบริษัทโชว์ตัวเลขขาดทุนแดงโร่เป็นประจำ ถึงแม้ในบางปีจะกลับมาทำกำไรได้บ้าง แต่ก็เป็นตัวเลขที่น้อยเกินไปอยู่ดี ส่งผลให้ราคาหุ้นขยับเขยื้อนไปไหนได้ไม่ไกล
โดยเรื่องนี้ดุได้จากงบการเงินด้านล่างที่แสดงให้เห็นว่า TFI ไม่มีทางที่จะขึ้นมาเป็นหุ้นทางเลือกในอนาคต เพราะในช่วงที่ทุกอย่างเฟื่องฟูสุดๆ ตัวเลขกำไรก็ไม่เปรี้ยงปร้างเหมือนกับอีกบริษัทหนึ่งที่คุณอ้างถึง และทำให้มูฟเม้นท์ของการลงทุนย้ายไปอยู่ที่หุ้น AJ ในทันทีไงหล่ะครับ
วันนี้อาจารย์ถึงไม่เชื่อว่า TFI จะกลายเป็นไข่ทองคำ เพราะมันผ่านการพิสูจน์กันมาแล้วหลายรอบ จึงไม่มีความจำเป็นต้องพิสูจน์อะไรอีกต่อไป ส่วนเรื่องราคาหุ้นที่ต่ำเรียดดินในเวลานี้ ยังมีโอกาสถีบตัวขึ้นอีกไหม?
อาจารย์ขอตอบว่า น่าจะมีโอกาสถีบตัวขึ้นได้อีก เพราะเมื่อดูจากกราฟราคาหุ้นพบว่า ในช่วง 5 – 6 ปีที่ผ่านมานั้น ราคาหุ้นพยายามเด้งกลับไปที่ 2 บาทเป็นประจำ และในช่วงต้นปีที่ผ่านมาก็ทำได้ดีสุดแค่วิ่งขึ้นไปแถว 1.45 บาท จึงทำให้เชื่อว่า ในช่วงปลายปีน่าจะเห็นหุ้นเด้งขึ้นแบบไม่มีเหตุผลอีกรอบครับ
ปัญหามีอยู่แค่ว่า นักลงทุนรอได้หรือเปล่า? และหากไม่มีปรากฎการณ์ดังกล่าว นักลงทุนจะทำอย่างไร?
ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ตัวนักลงทุนต้องค้นหาคำตอบด้วยตนเอง!
…
กราฟประกอบคอลัมน์ : Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 31 มี.ค.60