หุ้นไตรมาส 1/60
ตลาดหุ้นไทยผ่านพ้นไตรมาส 1/60 ไปแล้ว
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
ตลาดหุ้นไทยผ่านพ้นไตรมาส 1/60 ไปแล้ว
มีตัวเลขสำคัญๆ มาให้อ่านกันเล่นๆ ครับ
ดัชนีสิ้นปี 2559 ปิดที่ 1,542 จุด ส่วนวันที่ 31 มี.ค.60 ดัชนีหุ้นไทยปิดที่ 1,575 จุด หรือปรับเพิ่มขึ้นมา 33 จุด เปลี่ยนแปลงเพียง 2.08%
แต่หากดูจากตัวเลขดัชนีย้อนหลัง 6 เดือน (ต.ค.59–มี.ค.60) ดัชนีหุ้นไทยเพิ่มขึ้นมา 6.20%
ในช่วง 3 เดือนแรกปี 60 หรือไตรมาส 1 ดัชนีปรับขึ้นมาปิดสูงสุดที่ระดับ 1,591 จุด เมื่อวันที่ 26 ม.ค.60
ทว่า ในวันนั้น ดัชนีขึ้นไปสูงสุดของปี 60 ที่ระดับ 1,600 จุด แต่ยืนไม่ได้
จึงลงมาปิดที่ระดับดังกล่าว คือ 1,591 จุด
ส่วนดัชนีลงมาปิดต่ำสุดที่ 1,530 จุด เมื่อวันที่ 13 มี.ค.60 ซึ่งเป็นช่วงที่นักลงทุนต่างชาติ หรือฟันด์โฟลว์ขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยมาต่อเนื่องหลายวันทำการ
ในด้านของฟันด์โฟลว์ช่วง 3 เดือนแรก มียอดสุทธิ 6,287 ล้านบาท
แต่หากย้อนกลับไปดูตัวเลขของเดือนก.พ.60 ฟันด์โฟลว์ขายสุทธิออกมา 3,746 ล้านบาท (ม.ค.-ก.พ.60 ซื้อสุทธิ 2,451 ล้านบาท)
ต่างชาติมีการขายออกมาต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงกลางเดือนก.พ.-ถึงกลางเดือนมี.ค.60 ทำให้ยอดขายสุทธิออกมากว่า 1 หมื่นล้านบาทในขณะนั้น
ก่อนจะกลับมาซื้อสุทธิต่อเนื่องกันกว่า 11 วัน ในช่วงปลายมี.ค.60
และทำให้ 3 เดือนแรก นักลงทุนต่างชาติยังคงยอดซื้อสุทธิได้ครับ
กลุ่มหุ้นที่นักลงทุนต่างชาติสนใจมากสุดนั้น
จากการพูดคุยกับนักวิเคราะห์พบว่า อยู่ในกลุ่มธนาคารพาณิชย์ เช่น KBANK, BBL และ KTB
การเข้าซื้อหุ้น KTB ของต่างชาติ สร้างความน่าสนใจให้กับนักลงทุนและนักวิเคราะห์
เพราะก่อนหน้านี้นั้น ต่างชาติไม่ค่อยสนใจหุ้น KTB มากนัก
และก็น่าจะเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้หุ้น KTB ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากสิ้นปี 59 ค่อนข้างสูง และโดดเด่นสุดในกลุ่มธนาคาร
สิ้นปี 2559 หุ้น KTB ปิดที่ระดับ 17.70 บาทต่อหุ้น ส่วนเมื่อวันที่ 31 มี.ค.ปิด 20.40 บาทต่อหุ้น
หรือมีการเปลี่ยนแปลงเพิ่มขึ้น 15.25%
ใครถือหุ้นตัวนี้ไว้ตั้งแต่ปลายปีก่อนหน้านี้ ป่านนี้ก็คงกระเป๋าตุง พุงปลิ้นกันไป
ที่น่าสนใจเพิ่มเติมคือ หุ้นขนาดกลางเช่น TISCO TCAP และ KKP ต่างตกอยู่ในเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติด้วยเช่นกัน จากก่อนหน้านี้ไม่ค่อยจะสนใจลงทุนมากนัก
TCAP นั้น มีปัจจัยหนุนจากสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ติดมาจาก “แบงก์นครหลวงไทย” หรือ SCIB
TISCO ก็มีปัจจัยหนุนจากการเข้าซื้อพอร์ตรายย่อยจากแบงก์สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และล่าสุด แบงก์ชาติก็อนุมัติธุรกรรมดังกล่าวแล้ว
ส่วน KKP เป็นหุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลเด่นมาก เกือบๆ 9-10%
ทั้ง 3 ธนาคาร นักวิเคราะห์มองตรงกันว่า ปีนี้ผลประกอบการจะโดดเด่น เพราะไร้การตั้งสำรองหนี้ฯ พิเศษ
เพราะในปี 2558 มีการตั้งไว้ในระดับค่อนข้างสูงแล้ว
หุ้นอีกกลุ่มที่ต่างชาติสนใจคือ ค้าปลีก
พระเอกในกลุ่มก็ต้องยกให้ CPALL เขาล่ะ โดยสบช่องในช่วงที่ราคาตกลงมา ทยอยสะสมเข้าพอร์ตมาเรื่อยๆ
CPALL นั้น ราคาหุ้นจากสิ้นปี 59 มาถึงสิ้นมี.ค.60 ปรับลง 3.2%
และก็ยังมีหุ้นในกลุ่มพลังงาน และสื่อสาร
ส่วนตัวเลขสำคัญอื่นๆ ของตลาดหุ้นไทย เช่น มูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด หรือมาร์เก็ตแคปอยู่ที่ 15.49 ล้านล้านบาท
พี/อี ปัจจุบัน 17.38 เท่า และ P/BV 1.93 เท่า
อัตราผลตอบแทนเฉลี่ย 3.13%
ทางด้านการระดมทุนมีหุ้นเข้า SET จำนวน 2 หุ้น คือ ASAP และ RPH
ส่วนหุ้นที่เข้าในตลาด mai มีจำนวน 4 ตัวคือ SE, ETE, MGT และล่าสุดคือ D
เมื่อเดือนก่อนหน้านี้ ผมเคยถามผู้บริหารระดับสูงของสำนักงาน ก.ล.ต. เขาบอกว่าในปีนี้น่าจะมีหุ้นไอพีโอเข้ามาจะค่อนข้าสูงแน่นอนคือ 45 ตัว
แต่หากบริษัทที่ยื่นไฟลิ่งเข้ามาและไม่ค่อยมีกำไรแก้ไข
ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะมีไอพีโอถึง 50 ตัว