เด้งสู้
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงลมเพลมพัดเป็นอะไรที่สนุกมากๆ เพราะเกิดรายการยื้อยุดชุดกระชากตลอดทั้งวัน บวกกับดัชนีมีอาการแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบ ย่อมทำให้เห็นว่า การเข้าลงทุนในเที่ยวนี้ยังต้องอาศัยความไวเป็นที่ตั้งเหมือนเดิม และกลยุทธ์ที่ใช้ในเที่ยวนี้ยังเป็นลักษณะ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” เพราะดัชนีจะมีลักษณะเหวี่ยงตัวรุนแรงมากขึ้นนั่นเอง
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงลมเพลมพัดเป็นอะไรที่สนุกมากๆ เพราะเกิดรายการยื้อยุดชุดกระชากตลอดทั้งวัน บวกกับดัชนีมีอาการแกว่งตัวไปมาทั้งในแดนบวกและแดนลบ ย่อมทำให้เห็นว่า การเข้าลงทุนในเที่ยวนี้ยังต้องอาศัยความไวเป็นที่ตั้งเหมือนเดิม และกลยุทธ์ที่ใช้ในเที่ยวนี้ยังเป็นลักษณะ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” เพราะดัชนีจะมีลักษณะเหวี่ยงตัวรุนแรงมากขึ้นนั่นเอง
*ประเด็นตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” มองเรื่องการลงทุนแต่ละช็อตหลังจากนี้เป็นแบบ sideway up ซึ่งจะมีการเทขายหุ้นทำกำไรออกมาเป็นระยะ อีกทั้งหุ้นต้องฝ่าแนวต้านแต่ละจุดขึ้นไปให้ได้เสียก่อน ต่อจากนั้นค่อยวาดฝันถึงการขึ้นไปทดสอบ 1,600 จุด เดี๊ยนถึงมองการขึ้นมาปิดที่ 1,583.82 จุด บวกไป 2.96 จุด ด้วยมูลค่า 3.72 หมื่นล้านบาท เป็นช็อตที่นักเล่นต้องเจาะรายตัวมากขึ้นเจ้าค่ะ
*เนื่องจากหุ้นหลายตัวที่ทำท่าหงอยๆ เหมือนจะพักฐานยาวเป็นเดือน เผลอแป๊บเดียววิ่งขึ้นมาพรวดพราดแบบไม่รู้ตัว ขณะที่หุ้นบางตัวอุตส่าห์ฟอร์มตัวค่อนข้างดี สุดท้ายกลับจอดไม่ต้องแจวแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ทำให้ผู้เล่นต้องตื่นตัวตลอดเวลา เพราะช็อตนี้เป็นการกลับเข้ามาเล่นของกองทุนตัวแสบ ผสมกับปอบผีฟ้าก็ทุ่มสุดตัวเหมือนกันนะซี
*เรื่องนี้ถึงสอดคล้องกับการเคลื่อนตัวของพ่อดอกมะลิ JAS อุตส่าห์นอนสลบเป็นเวลากว่า 2 สัปดาห์ วานนี้กลับพุ่งขึ้นมาปิดที่ 8.85 บาท บวกไป 0.35 บาท หรือขึ้นไป 4.10% ด้วยมูลค่า 725 ล้านบาท “โมนิก้า” ถึงมองเป็นช็อตของการกลับเข้ามาเล่นรอบใหม่ จึงไม่จำเป็นต้องอิดออดอะไรอีกต่อไป เพราะรอบก่อนไล่ราคาขึ้นมาถึง 9.35 บาท ต่อจากนั้นก็ตัวใครตัวมัน..อิอิอิ
*เมื่อหุ้นแม่แรงได้ใจขนาดนี้ หุ้นลูกซึ่งเป็นทีเด็ดของพวกวัยมันอย่าง JAS-W3 ถึงกระชากขึ้นมาปิดที่ 4.90 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 8.90% ด้วยมูลค่า 222 ล้านบาท ก็ขอตามกระแสขึ้นมาด้วยคน ส่งผลให้การขึ้นของหุ้นลูกในวันนี้ขึ้นอยู่กับแม่จะไปแรงขนาดไหน! หากยึดตามสมมุติฐานเก่าครั้งก่อน รอบนี้มีสิทธิ์ขึ้นไปถึง 5.55 บาทอีกรอบ..จริงหรือไม่ รอดูแล้วกันเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ BANPU เห็นกันแจ่มแจ้งแดงแจ๋ว่า นี่เป็นหุ้นที่กองทุนตัวแสบ “เล่นเอง ชงเอง กินเอง” การทะยานขึ้นของหุ้นถึงเป็นแบบวูบๆ วาบๆ คอนข้างมีแพทเทิร์นแน่นอนตายตัว ซึ่งเห็นได้จากตั้งแต่ต้นปี 59 หุ้นขยับขึ้นลงในกรอบ 18.80-20.50 บาทมาทั้งหมด 4 ครั้งด้วยกัน ล่าสุดเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 20.80 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 3.40 พันล้านบาท มันส่อเค้าจะเข้าอีหรอบเดิมนะจ๊ะ
*ส่วนที่ดูเหมือนจะผิดแผกแหวกแนวขึ้นมานิดหนึ่ง “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปยังหุ้นบ้านแสนสิริ SIRI ทะยานขึ้นมาทำ new high ในรอบ 2 ปี 5 เดือน ที่ระดับ 2.16 บาท บวกไป 0.04 บาท ด้วยมูลค่า 612 ล้านบาท อาจเป็นจังหวะที่เรียกเสียงฮือฮาได้เยอะพอสมควร แต่ประวัติเก่าเคยเห็นมาก่อนแล้วว่า ช่วงที่หุ้นพีคสุดๆ ต่อจากนั้นก็รูดลงมาเป็นปี จำได้ไหมเอ่ย?
*ส่วนหุ้นน้องใหม่อย่าง ASAP ถูกดันขึ้นมาปิดที่ 4.28 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 258 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของเกมหุ้นที่ทุกคนคุ้นเคยเป็นอย่างดี จึงไม่มีความจำเป็นต้องคาดหวังอะไรมากนัก เพราะเที่ยวนี้เขายังใช้สูตรเกมบุก ทุกอย่างเลยดูสวยงามไปหมด แต่หลังจากนั้นคงหายหน้าหายตาไปเหมือนกับรุ่นพี่ๆ ที่ทำธุรกิจรถเช่ากระมั้ง!
*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอต่อกันที่การขายฝันของหุ้น MCOT กันสักนิดหนึ่งดีกว่า! เพราะดูเหมือนการทวงความยิ่งใหญ่ในเที่ยวนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะทุกวันนี้ก็เห็นกันอยู่แล้วว่า เรตติ้งใครมาอันดับหนึ่งในเรื่องละคร หรือเรตติ้งอันดับหนึ่งในเรื่องบันเทิง เดี๊ยนถึงอยากถามว่า ช่องนี้จะเอาอะไรไปสู้กับเขา? ในเมื่อมันเห็นกันทนโท่ว่า แพ้ตั้งแต่อยู่ในมุ้งนะซี
*เช่นเดียวกับในรายของ ITD ออกอาการกระเสาะกระแสะมาเป็นเวลานาน จนเดี๊ยนมองไม่เห็นโอกาสฟื้นตัวทางธุรกิจจะเกิดขึ้นในเร็ววัน หุ้นถึงมีสุขภาพทรุดโทรมลงตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงไม่เข้าใจบางคนมาตั้งแง่เรื่องคำพูดคนปากมากอย่างอีฉัน ก็ของมันเห็นกันทนโท่ว่า มีปัญหา ก็ต้องบอกว่า มีปัญหา จะบอกให้ดีได้อย่างไร? หรือถ้าดีจริง วานนี้หุ้นไม่ร่วงลงมาปิดที่ 4.80 บาท ลบไป 0.02 บาท ด้วยมูลค่า 162 ล้านบาทหรอกค่ะ
*เหมือนกับในรายของดาวรุ่งผีพุ่งไต้ SIMAT เห็นกันมาแล้วหลายรอบในช่วงระยะเวลาหลายปีว่า มาแล้วก็ไป! ช่วงนี้เป็นจังหวะต้องเข้าทำ ก็ต้องโหนกระแสกันไปก่อน บวกกับช่วงนี้เป็นจังหวะของหุ้นไซส์จิ๋วพอดี วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.50 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4.65% ด้วยมูลค่า 78 ล้านบาท เดี๊ยนมองเป็นเรื่องของการลุยกันสุดตัวแล้วล่ะค่ะ