หุ้นขึ้นแรงเดือนมีนาคม
ในช่วงเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยคงเคลื่อนไหวผันผวน เนื่องด้วยมีปัจจัยภายนอกคอยกดดันเป็นระยะๆ อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน แต่ก็ยังดีที่ในช่วงครึ่งหลังของเดือน นักลงทุนต่างชาติหวนกลับเข้ามาซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวเล็กน้อยจากช่วงเดือนที่ผ่านมา
เส้นทางนักลงทุน
ในช่วงเดือนมีนาคม 2560 ที่ผ่านมา ดัชนีตลาดหุ้นไทยคงเคลื่อนไหวผันผวน เนื่องด้วยมีปัจจัยภายนอกคอยกดดันเป็นระยะๆ อีกทั้งยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน แต่ก็ยังดีที่ในช่วงครึ่งหลังของเดือน นักลงทุนต่างชาติหวนกลับเข้ามาซื้ออย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ตลาดหุ้นฟื้นตัวเล็กน้อยจากช่วงเดือนที่ผ่านมา
โดยภาพรวมดัชนีตลาดหุ้นตลอดทั้งเดือนบวกเล็กน้อย เพราะวันที่ 28 ก.พ.60 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,559.56 จุด ขณะที่ 31 มี.ค.60 ดัชนีปิดที่ระดับ 1,575.11 จุด ปรับขึ้น 15.55 จุด หรือขึ้นไป 1%
นับว่าภาพรวมของตลาดหุ้นไทยยังอยู่ในทิศทางที่เป็นบวก แม้ว่ายังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุนก็ตาม
ส่วนในกรณีของหุ้นรายตัว พบว่า มีหุ้นที่ปรับตัวขึ้นเหนือดัชนีตลาดจำนวน 199 บริษัท ซึ่งข่าวหุ้นไม่สามารถเสนอให้นักลงทุนเห็นทั้งหมดได้ ดังนั้น ขอรวบรวมหุ้นที่ปรับตัวขึ้นร้อนแรง (เกิน 20%) มาให้นักลงทุนเชยชม ได้แก่ GREEN, ECL, SPI, GIFT, PCSGH, AMATAV และ TWPC ตามลำดับ นับว่าการปรับตัวขึ้นของบางบริษัทเกินความคาดหมาย
ตัวแรก บริษัท กรีน รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน) หรือ GREEN โดยราคาหุ้นวันที่ 28 ก.พ.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.23 บาท ขณะที่วันที่ 31 มี.ค.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.76 บาท เพิ่มขึ้น 0.53 บาท หรือเพิ่มขึ้น 43.09% ด้วยราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นอันเป็นผลจากผู้บริหารเข้าเก็บหุ้น ประกอบกับการเข้าเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคขาขึ้น
ตัวสอง บริษัท ตะวันออกพาณิชย์ลีสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ECL โดยราคาหุ้นวันที่ 28 ก.พ.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.86 บาท ขณะที่วันที่ 31 มี.ค.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 2.56 บาท เพิ่มขึ้น 0.70 บาท หรือเพิ่มขึ้น 37.63% เป็นการเข้าเก็งกำไรตามสัญญาณเทคนิคที่เป็นขาขึ้น
ตัวสาม บริษัท สหพัฒนาอินเตอร์โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPI โดยราคาหุ้นวันที่ 28 ก.พ.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 31.25 บาท ขณะที่วันที่ 31 มี.ค.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 41.50 บาท เพิ่มขึ้น 10.25 บาท หรือเพิ่มขึ้น 32.80% รับผลบวกจาก SPI จะรับโอนกิจการทั้งหมดของบริษัท เพรซิเดนท์โฮลดิ้ง จำกัด (PH) ซึ่งประกอบธุรกิจให้เช่าระยะยาวยานพาหนะและเครื่องจักรและธุรกิจลงทุนโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น ซึ่งรวมถึงหุ้นที่ PH ถือในบริษัทที่ประกอบธุรกิจหลักด้านอาหาร ได้แก่ บมจ.ไทยเพรซิเดนท์ฟูดส์ (TF) และบมจ.เพรซิเดนท์ไรซ์โปรดักส์ (PR) และบมจ.เพรซิเดนท์ เบเกอรี่ (PB) มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 7.92 พันล้านบาท
ตัวที่สี่ บริษัท แกรททิทูด อินฟินิท จำกัด (มหาชน) หรือ GIFT โดยราคาหุ้นวันที่ 28 ก.พ.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 5.95 บาท ขณะที่วันที่ 31 มี.ค.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 7.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.75 บาท หรือเพิ่มขึ้น 29.41% เป็นการเข้าเก็งกำไรในช่วงราคาหุ้นมีทิศทางขาขึ้น อานิสงส์จากการคาดว่าทิศทางของกำไรเปรียบเทียบเป็นรายไตรมาส มีแนวโน้มจะสร้างสถิติสูงสุดใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง จากฐานรายได้ผลิตภัณฑ์กลุ่ม HPC สินค้าอุปโภคหลักในชีวิตประจำวันที่มีความมั่นคง
ตัวที่ห้า บริษัท พี.ซี.เอส.แมชีน กรุ๊ปโฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ PCSGH โดยราคาหุ้นวันที่ 28 ก.พ.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 5 บาท ขณะที่วันที่ 31 มี.ค.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 6 บาท เพิ่มขึ้น 1.05 บาท หรือเพิ่มขึ้น 21% ซึ่งอาจเป็นเพราะภาพรวมของบริษัทยังดี โดยเฉพาะธุรกิจในปี 60 ที่หลายฝ่ายมองว่าอุตสาหกรรมยานยนต์มีทิศทางที่ดีขึ้น ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป จากมาตรการรถยนต์คันแรกที่ครบกำหนด ทำให้ลูกค้ากลุ่มนี้กลับมาซื้อรถมากขึ้น และน่าจะส่งผลดีต่อบริษัทฯ ส่วนธุรกิจนอกกลุ่มยานยนต์ ก็เริ่มรับรู้รายได้เข้ามาในปีนี้
ตัวที่หก บริษัท อมตะ วีเอ็น จำกัด (มหาชน) หรือ AMATAV โดยราคาหุ้นวันที่ 28 ก.พ.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 6.95 บาท ขณะที่วันที่ 31 มี.ค.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 8.35 บาท เพิ่มขึ้น 1.40 บาท หรือเพิ่มขึ้น 20.14% ซึ่งรับผลบวกจากมุมมองที่ดีขึ้นต่อแนวโน้มธุรกิจนิคมฯ ในเวียดนาม ด้วยยอดขายที่ดิน 125-250 ไร่ต่อปี (มีพื้นที่ขายทั้งหมด 2,249 ไร่ ซึ่ง 49% เป็นพื้นที่ที่พัฒนาแล้ว) ในช่วงปี 2560-2562 จาก 74 ไร่ในปีก่อน รวมไปถึงต้นทุนการเงินที่ต่ำกว่าคาด
ตัวที่เจ็ด บริษัท ไทยวา จำกัด (มหาชน) หรือ TWPC โดยราคาหุ้นวันที่ 28 ก.พ.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 9.75 บาท ขณะที่วันที่ 31 มี.ค.60 ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 11.70 บาท เพิ่มขึ้น 1.95 บาท หรือเพิ่มขึ้น 20% ซึ่งเป็นการเข้าเก็งกำไรเมื่อมีข่าวดีว่าในปี 60 บริษัทเดินทัพมุ่งหน้าสู่ CLMV ขึ้นแท่นเป็นผู้นำในธุรกิจแป้งมันสำปะหลัง วุ้นเส้น และเส้นก๋วยเตี๋ยว พร้อมเตรียมทุ่มงบลงทุน มูลค่า 1,000-2,000 ล้านบาท หวังรุกขยายฐานกำลังการผลิต เพิ่มรายได้ในอนาคต
ข้อมูลหุ้นข้างต้นเป็นเพียงตัวอย่างหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรงช่วงเดือนมีนาคม 2560 เท่านั้น ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความชื่นชอบของนักลงทุน