SMIT มาเร็ว ไปเร็ว

สภาแมงเม่า : ดร.สมชาย

 

คุณจตุพร จากรามอินทรา กรุงเทพฯ พูดถึงเรื่องราวอันแสนหวานของหุ้น SMIT หรือ บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน)  ซึ่งเป็นหุ้นตัวนี้ให้ผลตอบแทนในรูปเงินปันผลมากถึง 5% จึงกลายเป็นหุ้นที่น่าซื้อเก็บไว้ในพอร์ตมากๆ  แต่หลังจากนั้นผลการดำเนินงานก็ขึ้นๆ ลงๆ อย่างน่าตกใจ ซึ่งทำให้ราคาหุ้นแกว่งตัวตามไปด้วยอย่างมีนัยสำคัญ จนเพื่อนไล่ผมให้ไปศึกษาข้อมูล ก่อนจะพูดว่า อย่ามองแค่ปันผลเยอะ..ไม่เช่นนั้นเขาก็ซื้อเอาปันผลกันทั้งโลกแล้ว สรุปสุดท้ายบอกให้ผมเลิกสนใจหุ้นที่หมดโปรโมชั่น เพราะมันไม่มีคุณค่าอะไรให้น่าจดจำ อาจารย์เชื่อแบบนี้ไหมครับ

 

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่า การลงทุนในตลาดหุ้นย่อมมีความเสี่ยง นักลงทุนควรใช้วิจารญาณก่อนเข้าลงทุน และควรคำถึงความเสี่ยงที่จะได้รับควบคู่กันไป!

เหมือนกับการลงทุนในหุ้น SMIT หรือ บริษัท สหมิตรเครื่องกล จำกัด (มหาชน) คือตัวอย่างของหุ้นที่บอกให้รู้ว่า ธุรกิจมีทั้งช่วงขาขึ้น และมีทั้งช่วงขาลง จึงต้องมองการลงทุนเป็นรอบๆ อย่าเหมารวมสถานการณ์ของธุรกิจจะดีขึ้นอย่างบูรณาการเป็นอันขาดนะครับ

เนื่องจากข้อมูลในตลาดหุ้นมีการรายงานตัวเลขในปี 40 ก็เกิด “วิกฤติต้มยำกุ้ง” ถัดมาในช่วงปี 50 ก็เกิด “วิกฤติแฮมเบอร์เกอร์” ขณะที่ปี 60 คาดการณ์กันว่า อาจเกิด “ไครซิสดราก้อน” ซึ่งเป็นการตอกย้ำให้นักเล่นรู้ว่า หุ้นมีขึ้น..หุ้นมีลง นักลงทุนที่ดีต้องปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์

ฉะนั้นเมื่อมองดูผลประกอบการปี 60 นักลงทุนจะเห็นว่า สถานการณ์ของบริษัทดูเหมือนจะดีขึ้นกว่าปี 58 แต่เมื่อดูรายละเอียดลึกๆ จะเห็นว่า ผลงานก็พอๆ กับในปี 57 และเมื่อเทียบกับปี 56 จะเห็นว่า ต่ำกว่ามาตรฐานที่ควรเป็นอย่างมากนะครับ

ข้อมูลข้างต้นจึงเหมือนเป็นการย้ำเตือนคำพูดของเพื่อนคุณ จตุพร ว่า ให้เลิกสนใจหุ้น SMIT เพราะมันไม่ก่อประโยชน์ในการลงทุนแม้แต่นิดเดียว สู้เอาเวลาที่มีอยู่ไปค้นหาหุ้นตัวไหนที่เหมาะกับการลงทุนในช่วงนี้ดีกว่านะครับ

เนื่องจากการเคลื่อนไหวในช่วง 4 ปีที่ผ่านมาเป็นลักษณะลงลูกเดียว การเด้งขึ้นเที่ยวนี้คงมีแพทเทิร์นเหมือนกับในอดีตที่เป็นลักษณะ “มาเร็ว ไปเร็ว” ซึ่งส่งผลให้คนเล่นต้องพร้อมตัดใจ หากไม่ต้องการติดดอย!

ถ้าทำไม่ได้เหมือนกับที่อาจารย์แนะนำ ก็อย่าเข้าไปเสี่ยงดีกว่านะครับ

…

กราฟประกอบข่าว Aspen, ราคาปิด ณ วันที่ 12 เม.ย.60