เล่นขายขนม?
*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องสบายๆ หลังจบเทศกาลสงกรานต์ เพื่อทำให้นักเล่นเกิดอาการฮึกเหิม เพราะก่อนวันหยุดยาวมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่อารมณ์ของนักเล่นไม่ได้สนใจเรื่องในตลาดหุ้นมากนัก ส่งผลให้ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียงอยู่ในเฉพาะกลุ่มคนที่รู้ทัน “เล่ห์สน กลใน” พร้อมกับตั้งคำถามมากมายใส่หน่วยงานหน้าด่านอย่างตลาดหลักทรัพย์ฯ กันยกใหญ่เจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*เดิมที “โมนิก้า” ตั้งใจจะพูดถึงเรื่องสบายๆ หลังจบเทศกาลสงกรานต์ เพื่อทำให้นักเล่นเกิดอาการฮึกเหิม เพราะก่อนวันหยุดยาวมีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมาย แต่อารมณ์ของนักเล่นไม่ได้สนใจเรื่องในตลาดหุ้นมากนัก ส่งผลให้ประเด็นดังกล่าวกลายเป็นที่ถกเถียงอยู่ในเฉพาะกลุ่มคนที่รู้ทัน “เล่ห์สน กลใน” พร้อมกับตั้งคำถามมากมายใส่หน่วยงานหน้าด่านอย่างตลาดหลักทรัพย์ฯ กันยกใหญ่เจ้าค่ะ
*เนื่องจากเรื่องดังกล่าวเกี่ยวข้องกับแมงเม่าโดยตรง และยังกระทบกับจิตวิทยาในการลงทุนอีกด้วย “โมนิก้า” ถึงต้องขอแส่เรื่องดังกล่าวด้วยคน เพราะมันเป็นของที่คุ้นเคยกันเป็นอย่างดี แถมการเข้าลงทุนในเที่ยวนี้เป็นเกมที่แลกกันหมัดต่อหมัด ย่อมทำให้เดี๊ยนเชียร์มวยรองกันแบบสุดตัว วันนี้จึงขอสวมวิญญาณเป็นนักล่าพ่อมดหมอผีสักหน่อย เพราะมันเป็นเรื่องที่ประเทืองปัญญาพะยะค่ะ
*ประกอบกับมีผู้รู้มากหน้าหลายตาพูดถึงพฤติกรรมของคนที่เข้ามากอบโกยเงินจากตลาดหุ้นแบบสุดซอย ต่อจากนั้นก็ทำตาแบ๋วเพื่อตบตาชาวหุ้นว่า ทุกอย่างทำไปเพื่อประโยชน์ของมวลมหาชน “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องตลกขบขันสิ้นดี เพราะของมันเห็นกันเต็มตาอยู่แล้วว่า ทำเพื่อเงินกันทั้งนั้น จึงอย่าเสียเวลาพูดอ้อมค้อมอะไรอีกเลย เพราะแค่อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้วนะคะ
*เหมือนกับกรณีของหุ้น GL ถือฤกษ์งามยามดีก่อนวันสงกรานต์ออกข่าวในทำนองว่า กลุ่มไซปรัสชำระหนี้เงินกู้ล่วงหน้าพร้อมกับดอกเบี้ยให้กับ GLH เป็นที่เรียบร้อยโรงเรียนปลาดิบ ทำให้ราคาหุ้นกระดี๊กระด๊าด้วยการวิ่งขึ้นไปปิดที่ 23.40 บาท บวกไป 1.60 บาท หรือขึ้นไป 7.40% ด้วยมูลค่า 1.17 พันล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างหน่อมแน้มเกินไปหน่อย เพราะมันเป็นการพูดความจริงครึ่งเดียวเจ้าค่ะ
*พฤติกรรมการออกข่าวลักษณะนี้แหละ คือตัวแปรสำคัญที่ทำให้พวกอ่อนพรรษาเจ็บตัวมานักต่อนัก เพราะเนื้อหาของข้อความดังกล่าวบอกแค่ว่า นี่เป็นการชำระคืนเงินต้นแค่บางส่วน ซึ่งดูตามท้องเรื่องที่เกิดขึ้นเหมือนเป็นการแก้เกมแบบวันต่อวัน หลังจากโดนหน่วยงานอย่าง ตลท. กับ ก.ล.ต. ไล่บี้ข้อมูลอย่างหนักหน่วง “โมนิก้า” ถึงกล้าพูดเต็มปากเต็มคำว่า เขาเอาตายแน่ๆ เพราะพฤติกรรมมันส่อไปในทางไม่ดีน่ะสิ
*เช่นเดียวกับในรายของ “เสี่ยเจริญ” วันนี้มีผู้รู้จากทั่วสารทิศร่วมกันแชร์ข้อมูลกันมากมาย ซึ่งทุกฝ่ายเห็นพ้องต้องกันว่า ทำไมธรรมาภิบาลของผู้บริหารไทยถึงตกต่ำจนน่าใจหาย ก็ของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ราคาทำเทนเดอร์ฯ ต่ำกว่าราคาหุ้นของกองทุนอสังหาริมทรัพย์ TRIF TRIH และ TRIC ทำไมยังเดินหน้ายื่นทำคำเสนอแบบนั้น จึงกลายเป็นมูลเหตุให้ทุกคนช่วยกันขุดคุ้ยข้อมูลกันอุตลุดไงล่ะค่ะ
*โดยหนึ่งในประเด็นที่ทำให้ “โมนิก้า” รู้สึกตื่นเต้นสุดๆ มันอยู่ที่วาระซ่อนเร้นของการทำดีลดังกล่าว ว่ากันว่า เรื่องนี้มันสืบเนื่องมาจากอภิมหาเงินลงทุน 1.20 แสนล้านบาท โครงการ One Bangkok ซึ่งเป็นการพลิกโฉมที่ดินหัวถนนวิทยุ หวังก้าวสู่การเป็นแลนด์มาร์คระดับโลก จึงต้องมีการขยับสินทรัพย์บางอย่างเพื่อความคล่องตัวในการหาเงินมาใช้ในอนาคตพะยะค่ะ
*จริงเท็จประการใดไม่มีใครรู้? แต่ที่รู้จากพรายกระซิบที่ไปแฝงตัวอยู่ในประเทศสิงคโปร์เล่าให้ฟังว่า หากนำเอาสินทรัพย์มูลค่า 8 หมื่นล้านบาทกลับไปเป็นของเจ้าสัวได้ ก็จะสามารถนำสินทรัพย์ไปตึ๊งเพื่อขอกู้เงินทำโครงการยักษ์ได้สบายๆ แถมยังมีข่าวพูดกันหนาหูว่า อาจมีอ็อปชั่นนำกองทุนทั้ง 3 กองไปตั้งกอง REIT อีกด้วยซ้ำ “โมนิก้า” ถึงเชื่อเหลือเกินว่า เมื่อมีเงินนำหน้า อะไรก็ขวางไม่อยู่ ไม่เชื่อถามคนในตลาดหุ้นดูก็ได้!..งานนี้จึงเป็นการตอกย้ำว่า ใครอยากได้เงินก็เข้าตลาดหุ้นแล้วกัน…อิอิอิ
*ไหนๆ พูดเรื่องหนักๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอแวะไปดูหุ้น KWG เพื่อทำให้เห็นว่า เมื่อสตอรี่ของหุ้นออกมาตามแผนที่วางไว้ ก็ถึงบทไล่ราคากันแบบสุดติ่งกระดิ่งแมว งานนี้ถึงเป็นอีกวันที่หุ้นขึ้นมาปิดที่ 3.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 13.80% ด้วยมูลค่า 312 ล้านบาทแบบง่ายดาย ยิ่งมีคนชี้ช่องว่า หุ้นเทรดบนค่า P/E 10 เท่า ยิ่งทำให้นักเล่นท่องคาถา ชิตังเม..โป้ง..รวย กันถ้วนหน้าเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ APX ถือเป็นเผือกร้อนที่เหมาะสำหรับคนที่ชอบอะไรเสี่ยงๆ เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้ไม่มีอะไรผิดแผกไปจากเดิมสักเท่าไหร่? บวกกับกลุ่มนักปั่นน่องเหล็กยังถือหุ้นกันยั้วเยี้ยไปหมด จึงไม่มีอะไรที่เชื่อถือได้สักอย่าง! แถมรายการหักหลังพร้อมจะเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาแบบนี้ เดี๊ยนขอถามหน่อยว่า การขึ้นมาปิดที่ 0.65 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 6.60% มันเป็น “ยอดดอย” หรือ “ตีนดอย”