ตื่นตูมหุ้นแบงก์
กำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ของธนาคารกรุงไทย หรือ KTB แม้จะมากกว่าที่โบรกฯ คาดการณ์ไว้เล็กน้อย
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
กำไรสุทธิไตรมาส 1/60 ของธนาคารกรุงไทย หรือ KTB แม้จะมากกว่าที่โบรกฯ คาดการณ์ไว้เล็กน้อย
แต่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL ถือว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์จากโบรกฯ หลายแห่ง ต่างมองตรงกันครับ
นั่นคือในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2560 หนี้เสียของแบงก์พาณิชย์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง คือ KBANK BBL SCB และ KTB จะยังคงมีอัตราเพิ่มขึ้น
ทว่าการเป็นการเพิ่มแบบชะลอตัว
และตัวเลขหนี้เสียจะเริ่มนิ่งๆในช่วงไตรมาส 3/60
และหลังจากนั้นจะค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้น
แต่วานนี้ หลังจากกรุงไทย แจ้งตัวเลขสำคัญทางการเงินออกมา
นักลงทุนไม่ได้ดูเพียงแค่กำไรสุทธิเท่านั้น
แต่เหลือบไปเห็นตัวเลขหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 9.5 พันล้านบาทในไตรมาส 1/60 และส่งผลให้เอ็นพีแอลเพิ่มขึ้นมาจากระดับ 3.89% ในไตรมาส 4/59 ขึ้นมาเป็น 4.28%
ประเด็นคือว่า นักลงทุนอาจมองว่า หาก KTB ไม่ตั้งสำรองสำหรับหนี้เสียให้ครอบคลุมในไตรมาส 1
ก็อาจต้องขยับไปตั้งในไตรมาส 2 แทน
และนั่นอาจส่งผลต่อตัวเลขกำไรสุทธิที่จะปรับลดลงได้ในปี 2560
แต่เท่าที่ดูจากตัวเลขประมาณการของโบรกฯ วานนี้
ต่างยังคงเป้าหมายกำไรสุทธิของ KTB ไว้ไม่ได้เปลี่ยนแปลงแบบมีนัยสำคัญ
เช่น บล.ทรีนีตี้ ยังคงคาดการณ์กำไรปี 60 ของ KTB ไว้ที่ระดับ 3.35 หมื่นล้านบาท
บล.โกลเบล็ก ก็มองเช่นกันว่า กำไรในไตรมาส 1 ของ KTB คิดเป็น 25% ของการประมาณการกำไรสุทธิในปีนี้ ซึ่งอยู่ที่ 3.36 หมื่นล้านบาท
บล.เคทีบี (ประเทศไทย) มองเช่นกันว่า หนี้เสียของ KTB จะเริ่มดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนวันนี้ ทั้ง KBANK BBL และ SCB จะแจ้งผลประกอบการของไตรมาส 1/60
มีนักวิเคราะห์แนะนำว่า ไม่ค่อยอยากให้นำ 3 แบงก์ ไปเปรียบเทียบกับ KTB หรือนำมาเปรียบเทียบกันทั้งหมดในกลุ่ม 4 แบงก์ใหญ่
เพราะการบริหารหนี้เสีย หรืองบการเงินของแต่ละธนาคารจะมีวิธีการแตกต่างกัน
และการขายหุ้นออกไปก่อน อาจเป็นการเสียโอกาส
หรือการ “ขายหมู” ได้
บล.เคจีไอ พูดถึงหนี้เสียของกลุ่มธนาคารพาณิชย์ไว้ก่อนหน้านี้
มีการระบุว่า ธนาคารส่วนใหญ่ก็ยังคาดว่า NPL ใหม่จะยังคงเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
และทำให้ธนาคารยังต้องคง credit cost ไว้ในระดับสูงต่อไปในไตรมาส 1/60
KTB ให้ข้อมูลว่า (ก่อนแจ้งงบ Q1) มีสินเชื่อกล่าวถึงเป็นพิเศษในไตรมาสก่อนบางส่วนกลายมาเป็น NPL
ขณะที่ของ BBL สินเชื่ออุตสาหกรรมกลายมาเป็น NPL เพิ่มขึ้น
และจากการที่ NPL พลิกมาเป็นขาขึ้นในปี 2559 ทำให้ บลจ.เคจีไอฯ คาดว่า NPL จะเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 4% จากไตรมาส 4/59 หรือ 12% จากไตรมาส 1/59
นั่นทำให้ทำให้ธนาคารยังคงรักษาระดับ Credit cost ในไตรมาส 1/60เอาไว้เท่ากับเมื่อครึ่งปีหลังปี 2559
ผมพูดคุยกับนักวิเคราะห์มาเพิ่มเติม
เขาบอกว่า ราคาเป้าหมายของหุ้นแบงก์ใหญ่ ได้นำเรื่องของหนีเสียที่คาดว่าจะเกิดขึ้นเพิ่มเข้ามาคำนวณไว้แล้ว
จึงไม่ใช่เรื่องน่าตื่นเต้น หรือเป็นเซอร์ไพรส์เชิงลบ
หุ้น BBL นั้น นับจากสิ้นปี 2559 มาถึงวานี้ ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแล้ว 15%
และวิ่งขึ้นมาอย่างมากในช่วงที่มีกองทุนจากต่างประเทศ เข้ามาซื้อหุ้นเพิ่ม หลังจากมีรูปมเพิ่มใน NVDR เมื่อช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์
ส่วนวันนี้ จะมีการขึ้นเครื่องหมาย XD เพื่อจ่ายเงินปันผล 4.50 ต่อหุ้น
และอาจทำให้ราคาหุ้นย่อลงมาอีกได้
ส่วนหุ้น KBANK นับจากสิ้นปี 2559 ราคาหุ้นปรับขึ้นมา 4.8% แต่จริงแล้วก่อนหน้านี้ หรือในช่วงกลางเดือนก.พ.60 ราคาหุ้นเคยขึ้นมาปิดที่ 198 บาท ต่อหุ้น
หลังจากนั้น จึงมีแรงขายทำกำไรออกมา
รวมถึงการการขายของนักลงทุนต่างชาติในช่วงต้นเดือนมี.ค.ที่ผ่านมาด้วย
และ SCB ราคาหุ้นปรับจากสิ้นปี 2559 ขึ้นมา 5.26% โดยวานนี้ราคาหุ้นปิดที่ 160 บาท
แต่วันก่อนหน้านี้ ราคาหุ้นขึ้นไปสูงสุดของปีที่ระดับ 165 บาท ในช่วงก่อนหยุดนาววันสงกรานต์
SCB จะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 24 เม.ย.เพื่อจ่ายเงินปันผล 5.50 บาทต่อหุ้น และก่อนหน้านี้ ได้จ่ายระกว่างกาลไปแล้ว 1.50 บาทต่อหุ้น
รวมเป็นจ่ายเงินปันผลทั้งปี 7 บาทต่อหุ้น