ใจกล้า..มือถึง
*ขอเรียนตามตรงว่า “โมนิก้า” เป็นสาวมั่นที่ชอบแส่ไปเสียทุกเรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องที่เม้าท์ให้ฟังในแต่ละวัน ล้วนเกี่ยวข้องกับผู้คนในแวดวงตลาดเงินและตลาดทุน จึงเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ซึ่งเห็นได้จากปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่มักแสดงบทบาทเกินหน้าเกินตา จนแทบจะส่งเข้าประกวดชิงรางวัลออสการ์ดารานำฝ่ายชาย และดารานำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมได้เลยเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ขอเรียนตามตรงว่า “โมนิก้า” เป็นสาวมั่นที่ชอบแส่ไปเสียทุกเรื่อง ซึ่งแต่ละเรื่องที่เม้าท์ให้ฟังในแต่ละวัน ล้วนเกี่ยวข้องกับผู้คนในแวดวงตลาดเงินและตลาดทุน จึงเป็นเรื่องที่ผู้คนให้ความสนใจอย่างล้นหลาม ซึ่งเห็นได้จากปฏิกิริยาของคนรอบข้างที่มักแสดงบทบาทเกินหน้าเกินตา จนแทบจะส่งเข้าประกวดชิงรางวัลออสการ์ดารานำฝ่ายชาย และดารานำฝ่ายหญิงยอดเยี่ยมได้เลยเจ้าค่ะ
*งานนี้ใครจะว่าอะไรก็ช่างหัวมันเถอะ! เพราะเดี๊ยนก็เป็นแบบนี้มาตั้งนานแล้ว และยืนยันจะทำหน้าที่แบบนี้ต่อไป เพราะลำพังหวังพึ่ง ตลท. – ก.ล.ต. ให้ช่วยคลายความสงสัยของสังคม ก็คงมีแต่เสียง แบะ..แบะ..แบะ ซึ่งมันไม่ช่วยให้บรรดาแมงเม่าเกิดความรู้สึกอบอุ่นใจแต่อย่างใด และยังไม่ได้เป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์กับใครเลยทั้งสิ้นแบบนี้ไงเล่า..เดี๊ยนถึงต้องขอเผือกต่อไป..อิอิอิ
*ประกอบกับข้อมูลที่สังคมต้องการ กับข้อมูลของคนที่อยากพูด มันไม่เคยมาบรรจบกันได้สักที! “โมนิก้า” ถึงต้องเป็นตัวกลางในการแจกแจงรายละเอียดที่เกิดขึ้น ซึ่งเหมือนกับเหตุการณ์ที่ TKN โดนเทขายอย่างหนักหน่วงมาระยะหนึ่ง แต่สุดท้ายก็มีมือดีเข้ามาโอบอุ้มหุ้นไว้สุดตัว หุ้นถึงเด้งจากจุดต่ำสุดของวันที่ 22.30 บาท วิ่งขึ้นมาปิดที่ 23.10 บาท ลบไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 890 ล้านบาท มันแสดงถึงมีปัญหาบางอย่างซ่อนอยู่แน่ๆ นะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับขบวนการที่แฝงตัวอยู่ใน TSF มองจากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นโปรเจ็กต์ขายฝันหลอกคนไปตายอย่างแน่นอน “โมนิก้า” ถึงไม่ชอบใจที่เห็นคนบางคนพยายามมาปั่นราคาหุ้น เพื่อเอาเงินไปต่อยอดการทำระยำตำบอน จึงอยากฝากเตือนไปถึงผู้อยู่เบื้องหลังให้ระวังสิ่งที่ทำไว้จะย้อนคืนสนอง หลังหุ้นรูดลงมาปิดที่ 0.34 บาท ลบไป 0.05 บาท หรือลงไป 12.80% เพราะอีเมี้ยนปากมากอย่างฉันเชื่อในเรื่อง “กฎแห่งกรรม” และของแบบนี้ “ไม่เชื่อ อย่าลบหลู่” นะคะ
*คล้ายคลึงกับกรณีของ KOOL ถูกพิษข่าวลือโจมตีอย่างแสนสาหัส จนผู้บริหารต้องออกมาแจกแจงเรื่องภาษีด้วยตนเอง “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของการตกบันไดพลอยโจร และทั้งหมดก็เกิดการสื่อสารข้อมูลกับนักลงทุนไม่สม่ำเสมอ ส่งผลให้ผู้คนทั่วไปเอาข่าวหนึ่งไปปนกับอีกข่าวหนึ่ง บวกกับมีผู้ถือหุ้นใหญ่เทขายหุ้นออกมา ทุกอย่างเลยประเดประดังไปหมด ล่าสุดดูเหมือนทุกคนจะเข้าใจเหตุการณ์ หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 4.52 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 420 ล้านบาท ส่วนจะไปได้ไกลขนาดไหน? ขึ้นอยู่กับแรงซื้อนะจ๊ะ
*เหมือนกับกรณีของ AOT ทุกคนต่างรู้ดีว่า หุ้นตัวนี้มีดีอย่างไร? และมูลค่าหุ้นเพิ่มขึ้นทุกปีขนาดไหน? แต่กลับทำใจไม่ได้เมื่อเห็นหุ้นย่อตัวลงมาหนักๆ จึงพลาดโอกาสซื้อของดีราคาถูกเป็นประจำ ล่าสุดหุ้นลงมาปิดที่ 41 บาท ลบไป 0.25 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.45 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่น่าช้อนซื้อสุดๆ เพราะหุ้นมีโอกาสเด้งกลับไปทดสอบ high เดิมที่ระดับ 42 บาทอีกครั้งนะซี
*เช่นเดียวกับกรณีของ CPF หากมองในมุมของกระแสเก็งกำไร “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่น่าสนใจไม่ใช่น้อย เพราะสาเหตุที่หุ้นร่วงหล่นระเนระนาดมันเกิดจากแอ็กซิเดนต์บางอย่าง บวกกับหุ้นทรุดตัวลงมาที่ฐานเก่าเป็นวันแรก จึงเป็นจังหวะของการซื้อเพื่อลุ้นเด้ง ขณะที่วานนี้หุ้นยืนปิดที่ 26.25 บาท ลบไป 1 บาท หรือลงไป 3.70% ด้วยมูลค่า 2.24 พันล้านบาท มันน่าสนใจไม่ใช่น้อยนะเนี่ย
*ส่วนในรายของ JAS ก็เป็นหนึ่งรายที่ “โมนิก้า” เฝ้ามองพฤติกรรมการฟื้นตัวอย่างเป็นลำเป็นสันมาระยะหนึ่ง และเมื่อส่องกล้องลงไปดูใกล้ๆ จะเห็นความสามารถในการทำกำไรที่ดีขึ้น ส่งผลให้ตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมามีแรงซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนรักษาฐานแนวรับ 8 บาทได้อย่างเหนี่ยวแน่น วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.80 บาท บวกไป 0.15 บาท ด้วยมูลค่า 580 ล้านบาท มันเป็นจังหวะตามน้ำก็เท่านั้นเอง
*สำหรับในรายของ BDMS หลังจากไปชุบตัวมาใหม่ และตรงกับสเป็กของพวกไวกว่าแสง ยิ่งได้รับความสนใจมากเป็นพิเศษ แถมในบางวันราคาหุ้นพุ่งพรวดพราด และหยุดน็อกไปดื้อๆ ก็มีให้เห็นบ่อยครั้งแบบนี้ ยิ่งเป็นที่โปรดปรานสำหรับนักลงทุนที่ชอบมีชีวิตผาดโผน จึงไม่ต้องแปลกใจที่วานนี้สวนกระแสขึ้นมาปิดที่ 20.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 2% ด้วยมูลค่า 715 ล้านบาท ถือว่าไม่แพงเกินไปสำหรับหุ้นมาเร็วเคลมเร็วนะจะบอกให้
*เช่นเดียวกับในรายของ SIRI พยายามผงกหัวขึ้นอีกรอบ ท่ามกลางผลงานที่แจ่มสุดๆ “โมนิก้า” ย่อมหันมาดูหุ้นตัวนี้ด้วยความสนใจที่ล้นปรี่ เพราะเมื่อดูการซื้อขายบนค่า P/E ที่ระดับ 8.80 เท่า โดยราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.12 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 1.90% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาท แถมเป็นการเทคตัวขึ้นวันแรก โดยมีเป้าหมายอยู่ที่ 2.20 บาท ไม่ลองเสี่ยงดูสักตั้งแล้วจะเสียใจนะคะ
*ส่วนตัวที่น่ากังวลใจสุดๆ ในยามนี้ “โมนิก้า” กลับมองไปที่ AU หลังราคาหุ้นเทคตัวขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งที่บางกระแสพูดกันว่า หมดโปร! ย่อมเป็นเกมที่ต้องระมัดระวังในการลงทุนมากยิ่งขึ้น เพราะเคยเห็นกันมาแล้วว่า หุ้นที่มีลักษณะโอเวอร์แวลูเยอะๆ มักยืนระยะได้ไม่นานสักเท่าไหร่ ขณะที่ราคาหุ้นวานนี้พุ่งขึ้นมาปิดที่ 9.95 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 120 ล้านบาท เดี๊ยนบอกได้แค่ว่า ถ้ากล้าก็ตามไปดูแล้วกัน!