เปิดหุ้นบลูชิพ! ค่า P/E-P/BV ต่ำกว่าตลาด

ในภาวะปัจจุบันของตลาดหุ้นนั้น ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์ที่โดนกดดัน จากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีที่ยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ หลังจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกไปแล้วออกมาดีกว่าคาด แต่กลับมีความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เพิ่มขึ้น


เส้นทางนักลงทุน

ในภาวะปัจจุบันของตลาดหุ้นนั้น ยังอยู่ในช่วงสถานการณ์ที่โดนกดดัน จากความกังวลสถานการณ์ความตึงเครียดในคาบสมุทรเกาหลีที่ยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งเป็นประเด็นที่ต้องติดตามอย่างต่อเนื่อง รวมถึงปัจจัยภายในประเทศ หลังจากกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ประกาศผลประกอบการไตรมาสแรกไปแล้วออกมาดีกว่าคาด แต่กลับมีความกังวลเรื่องปัญหาหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยังขาดปัจจัยใหม่สนับสนุน ทำให้ดัชนีตลาดหุ้นไทยอาจจะดูซึมๆ และนักลงทุนต่างชาติอิงทางด้านขายมากกว่า โดยเฉพาะแรงเทขายออกมาในหุ้นกลุ่มขนาดใหญ่นั่นเอง ทำให้หุ้นหลายตัวราคาอ่อนตัวลงมาต่ำพอสมควร แต่อาจจะไม่ถูกมาก

ดังนั้น “ข่าวหุ้นธุรกิจ” จึงนำข้อมูลของหุ้นบลูชิพที่หุ้นมีราคาถูกในความหมายที่ว่า ค่า P/E ยังต่ำกว่าตลาดหรือประมาณ 17.32 เท่า และค่า P/BV ไม่ถึงของตลาดประมาณ 1.93 เท่า ซึ่งเชื่อว่าจะเป็นหุ้นที่จับจ้องของนักลงทุนสถาบันในประเทศ และนักลงทุนต่างชาติ ที่มีโอกาสหวนเข้ามาไล่ซื้อในอนาคต เนื่องจากหุ้นกลุ่มเหล่านี้จะมีพื้นฐานแข็งแกร่ง

นั่นก็คือ  กลยุทธ์การลงทุนในหุ้นถูก ที่ยังเหลืออยู่บ้างในตลาดหลักทรัพย์!!

สำหรับหุ้นบลูชิพที่มีค่า P/E และ P/BV ต่ำกว่าของตลาด (นำข้อมูลจาก ณ วันที่ 26 เม.ย.60) ได้แก่ SPRC ค่า P/E อยู่ที่ 6.29 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.31 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 9.38%, TOP ค่า P/E อยู่ที่ 7.38 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.47 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 5.86%, PSH ค่า P/E อยู่ที่ 8.25 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.38 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 2.73%

KTB ค่า P/E อยู่ที่ 8.53 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.01 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 4.37%, TCAP ค่า P/E อยู่ที่ 8.96 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 0.95 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 4.32%, BCP ค่า P/E อยู่ที่ 9.45 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.14 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 5.50%, IVL ค่า P/E อยู่ที่ 10.77 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.96 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 1.82%

BBL ค่า P/E อยู่ที่ 10.80 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 0.91 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 3.61%, KKP ค่า P/E อยู่ที่ 10.84 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.49 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 8.45%, KBANK ค่า P/E อยู่ที่ 11.02 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.38 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 2.16%, SCB ค่า P/E อยู่ที่ 11.14 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.59 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 3.53%, IRPC ค่า P/E อยู่ที่ 11.46 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.37 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 4.22%

PTT ค่า P/E อยู่ที่ 11.77 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.46 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 4.10%, TMB ค่า P/E อยู่ที่ 11.94 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.17 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 2.68%, CPF ค่า P/E อยู่ที่ 13.96 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.52 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 3.58% และ EGCO ค่า P/E อยู่ที่ 14.05 เท่า ขณะที่ค่า P/BV อยู่ที่ 1.43 เท่า และอัตราส่วนเงินผลตอบแทน 2.93%

ทั้งนี้ กลยุทธ์ในการเลือกลงทุนในหุ้นที่มีราคาถูก ดูจากค่า P/E และ P/BV ต่ำ ถือว่าเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับการตัดสินใจในการลงทุนกับสภาวะของตลาดที่ดูไม่ดี

Back to top button