IFEC เริ่มเน่า
ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP หรือพักการซื้อขายมาร่วม 5 เดือนแล้ว
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
ถูกขึ้นเครื่องหมาย SP หรือพักการซื้อขายมาร่วม 5 เดือนแล้ว
ผ่านมาถึงวันนี้ IFEC หรือ บมจ.อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น ยังคงเป็นบริษัทที่เหมือนถูกสาปแช่งต่อไป
ปัญหาระหว่าง “หมอวิชัย” หรือ นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ และ “เสี่ยอ๋า” นายสิทธิชัย พรทรัพย์อนันต์ ที่ภายหลังเปลี่ยนมาขัดแย้งกับ เสี่ยทวิช เตชะนาวากุล ยังคงดำเนินต่อไป
ล่าสุดคือการเลือกตั้งกรรมการที่ครบวาระ 3 คน
ทั้ง 3 คนเป็นคนของฝั่งเสี่ยทวิช
ผลการเลือกตั้งที่ออกมา คนของเสี่ยทวิชกลับมาได้เพียง 2 คน คือ พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ และ นายปริญญา วิญญรัตน์
ส่วนของหมอวิชัย เข้ามาได้เพิ่มอีก 1 คน คือ นายธีติพันธ์ เทพผดุงพร
นายธีติพันธ์ เป็นคนจากกลุ่มเทพผดุงพร ที่ถือหุ้น IFEC ราว 5.45% และนับเป็นกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่อันดับ 2 ใน IFEC
มีการลือกันว่ากลุ่มเทพผดุงพร หรือกลุ่มกะทิชาวเกาะนั้น ให้การสนับสนุนฝั่งหมอวิชัย
ส่วนจะมีเงื่อนไขอันใดต่อกันหรือไม่นั้น ไม่ทราบจริงๆ
แต่ฝั่งของหมอวิชัย ก็บอกว่า กลุ่มเทพผดุงพร เป็นกลุ่มที่วางตัวเป็นกลาง ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด หรือพอจับความได้ว่า คล้ายๆ กับเป็นอัศวินขี่ม้าขาวเข้ามาช่วยแก้ปัญหาความขัดแย้งของผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 กลุ่ม
ว่ากันไปนั่น
แน่นอนว่า เมื่อผลเลือกตั้งออกมาแบบนี้
นั่นเท่ากับว่า คนของฝั่งหมอวิชัยก็จะเป็น 4+1 หรือ 5 คนนั่นแหละ
ส่วนของเสี่ยทวิช ลงมาเหลือ 4 คน
ทว่าการเลือกตั้งคราวนี้ ยังไม่จบลงง่ายๆ
นั่นเพราะในที่ประชุมผู้ถือหุ้นวันนั้น มีการคัดค้านวิธีการเลือกตั้งที่ฝั่งเสี่ยทวิชมองว่า ผิดรูปแบบ และแปลกประหลาด
เสี่ยทวิช ไม่เห็นด้วยกับวิธีการลงคะแนนเสียงแบบสะสม (Cumulative Voting)
เหตุผลก็คือ มองว่าไม่เป็นไปตามข้อบังคับของบริษัท (IFEC)
และไม่ชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งเป็นมติที่ไม่ได้ปฏิบัติตามหรือฝ่าฝืนต่อข้อบังคับบริษัท และฝ่าฝืน พ.ร.บ.บริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ.2535
พร้อมกับยื่นเรื่องต่อกระทรวงพาณิชย์เพื่อคัดค้านการแต่งตั้งกรรมการ
รวมถึงแจ้งเรื่องไปยังสำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดเหลักทรัพย์ด้วย
สมมุติว่า หากข้อเรียกร้องของเสี่ยทวิชได้ผล
ก็จะทำให้ IFEC ต้องมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อเลือกกรรมการใหม่อีกครั้ง
นับจากต้นปี 2560 IFEC มีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นแล้วจำนวน 3 ครั้ง เป็นการประชุมวิสามัญ 2 ครั้ง และสามัญประจำปีอีก 1 ครั้ง
ใครติดหุ้น IFEC อยู่ เข้าใจว่า น่าจะเบื่อหน่ายเต็มทน
ก่อนหน้านี้ ฝั่งเสี่ยทวิช ก็มีการฟ้องหมอวิชัย อยู่แล้วในหลายเรื่องทั้งคดีอาญา และคดีตามกฎหมายอื่นๆ
ส่วนฝั่งหมอวิชัย เอง ก็เดินสายให้สัมภาษณ์สื่อทั้งหนังสือพิมพ์ และทีวี ซึ่งบริษัทที่ปรึกษาและประชาสัมพันธ์ มีการใช้คอนเน็คชั่น หรือวิธีการอย่างอื่นปูทางให้
ยังไม่รวมถึงการซื้อพื้นที่สื่อในรูปแบบ Advertorial
แต่ไม่ว่าจะใช้พื้นที่ของสื่อมากเท่าไหร่ โฆษณามากแค่ไหน แต่อย่าลืมว่า เรื่องที่ผิดก็คือผิดอยู่ดี และเรื่องที่ถูกก็คือถูก ซึ่งคนในวงการเขาสัมผัสเองได้
จะว่าไปแล้วหลักการง่ายๆ ของการถือหุ้นโดยทั่วไป ซึ่งแน่นอนว่า(กลุ่ม)ใครถือหุ้นใหญ่สุด
บุคคลนั้นก็ย่อมมีอำนาจในการบริหารงาน(มากสุด)
ไม่อย่างนั้นจะถือหุ้นใหญ่ไปทำไมล่ะ
หากลงทุนเพียง 10 บาท แต่จะบริหารงานเท่ากับคนใส่เงิน 100 บาท
ปัญหาความวุ่นวายก็ย่อมเกิดขึ้น
เข้าใจว่า ทั้ง สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ ก็จับตาเรื่องของ IFEC มาโดยตลอด
ที่ผ่านมา ก็มีการส่งหนังสือเตือนจากสำนักงาน ก.ล.ต.ไปยังหมอวิชัย อยู่หลายครั้ง เกี่ยวกับการให้ปฏิบัติไปตามกรอบของกฎเกณฑ์ต่างๆ ที่วางไว้
ด้านปัญหาภายในนอกจากความขัดแย้งของกลุ่มผู้ถือหุ้นใหญ่แล้ว
พนักงานเอง ก็เริ่มไม่มั่นใจกับอนาคตของ IFEC
และผ่านมาถึงวันนี้ IFEC ก็ยังคงไม่ส่งงบการเงินไตรมาส 4/59 หรือของปี 2559
ยังไม่รวมปัญหาหนี้ตั๋วบี/อี และหุ้นกู้ รวมมูลค่าผ่านมาถึงตอนนี้ ก็หลายพันล้านบาทแล้ว
IFEC นับวันยิ่งเน่าลง
ในอดีตมี บจ.ที่เคยมีปัญหาคล้ายๆ แบบนี้
และในที่สุดก็ไปไม่รอดทั้งองค์กร