ดันสุดฤทธิ์

*หากมองการเคลื่อนตัวของดัชนีแบบตัว M-Shape จะเห็นว่า ดัชนีกำลังอยู่ในช่วงทดสอบแรงเทขายบริเวณ 1,560 จุดมาระยะหนึ่ง และหากมีแรงรับหุ้นเข้ามามากพอ ก็จะดันดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,580 จุดอีกครั้ง ก่อนจะเดินหน้าขึ้นไปหาแนวต้าน 1,600 จุด หากสถานการณ์ไม่เป็นเหมือนกับที่เกริ่นนำไว้ ดัชนีจะม้วนตัวลงมาทดสอบแนวรับ 1,550 จุดก็เท่านั้นเอง


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*หากมองการเคลื่อนตัวของดัชนีแบบตัว M-Shape จะเห็นว่า ดัชนีกำลังอยู่ในช่วงทดสอบแรงเทขายบริเวณ 1,560 จุดมาระยะหนึ่ง และหากมีแรงรับหุ้นเข้ามามากพอ ก็จะดันดัชนีขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,580 จุดอีกครั้ง ก่อนจะเดินหน้าขึ้นไปหาแนวต้าน 1,600 จุด หากสถานการณ์ไม่เป็นเหมือนกับที่เกริ่นนำไว้ ดัชนีจะม้วนตัวลงมาทดสอบแนวรับ 1,550 จุดก็เท่านั้นเอง

*สำหรับสาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” พูดถึงเรื่องสัญญาณเทคนิคบ่อยเหลือเกิน มันเป็นผลมาจากข้อมูลการลงทุนไม่มีอะไรเด่น ข่าวสารใหม่ๆ ไม่ค่อยมีอะไรมาจรรโลงจิตใจ หรือแม้กระทั่งปัจจัยภายนอกก็เป็นอะไรที่ฉาบฉวยเสียเหลือเกิน เดี๊ยนถึงอยากให้นักเล่นหันมาศึกษาเรื่องนี้อย่างจริงจัง เพราะดัชนียังอยู่ในช่วงเหวี่ยงตัวเพื่อเลือกทางเดิน จึงอย่าคาดหวังอะไรมากเกินไปนะจ๊ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีวิ่งขึ้นไปถึง 1,569.51 จุด สุดท้ายอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,564.12 จุด ไม่มีขึ้น ไม่มีลง ตัวเลขการเปลี่ยนแปลงเลยปรากฏเป็น  0.00 จุด ด้วยมูลค่า 3.25 หมื่นล้านบาท ย่อมเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า วันนี้ยังคงคาดหวังอะไรได้ไม่มาก ซึ่งเห็นได้จากดัชนีแกว่งตัวที่บริเวณนี้เป็นเวลานานพอสมควร บวกกับรูปแบบการเคาะหุ้นยังเปาะๆ แปะๆ “โมนิก้า” ถึงมองว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ยังไม่พร้อมที่จะลุยไฟไงล่ะค่ะ

*ถึงกระนั้นก็ยังมีหุ้นบางตัวที่สวนกระแสได้อย่างน่าทึ่ง และหนึ่งในนั้นก็มีหุ้น KCE รวมอยู่ด้วยอย่างแน่นอน หลังหุ้นเทคตัวขึ้นมาปิดที่ 113 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 3.70% ด้วยมูลค่า 725 ล้านบาท ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้น 4 วันติดๆ แถมสัญญาณเทคนิคปรากฏจุดไข่ปลาช้อนแท่งเทียนอยู่ข้างใต้ ย่อมเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า หุ้นน่าจะไปต่ออีกพะยะค่ะ

*ส่วนในรายของ SUPER ก็อยู่ในโพสิชั่นหุ้นที่น่ารักน่าลุ้น เป้าหมายเบื้องต้นอยู่แถว 1.60 บาท หากผ่านขึ้นไปได้จะเป็นการสร้างฐานใหม่ที่แข็งแกร่งกว่าเดิม ช่วงนี้ถึงเห็นราคาหุ้นพยายามเกาะเส้น 10 วันตลอดเวลา “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นตัดสินใจกันเอาเองว่า ราคาปิดที่ 1.52 บาท บวกไป 0.02 บาท ด้วยมูลค่า 610 ล่านบาท เป็นจุดที่น่าจะตามไปดูอีกหรือเปล่า..อิอิอิ

*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ก็อยากให้นักเล่นหันมาดูหุ้นปลากระป๋อง TU กันสักเล็กน้อย หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 21.80 บาท บวกไป 0.60 บาท ด้วยมูลค่า 460 ล้านบาท มันเป็นสเต็ปที่ทำให้รู้ว่า เริ่มไล่ราคารอบใหม่กันแล้ว และจุดเปลี่ยนสำคัญก็อยู่ตรงบริเวณแนวต้าน 22 บาท เพราะก่อนหน้านี้หุ้นถูกถล่มตรงบริเวณนี้อย่างหนักหน่วงหลายครั้ง หากเที่ยวนี้ผ่านขึ้นไปได้จะเป็นอะไรที่ “อะเมซิ่ง” มากๆ นะเจ้านาย!

*ประเด็นดังกล่าวทำให้ “โมนิก้า” ต้องหันมามองหุ้นสีเทาอย่างเช่น GL เพื่อคอยกระตุ้นต่อมสำนึกของตัวเองให้รู้ว่า ปัจจัยพื้นฐานเป็นอะไรที่สำคัญมากๆ และยังใช้ได้ดีกับทุกยุคทุกสมัย วันนี้ถึงต้องถามกลับไปยังผู้เล่นว่า วันก่อนหุ้นกระชากขึ้นอย่างบ้าคลั่ง วานนี้หุ้นดันรูดลงมาปิดที่ 23.10 บาท ลบไป 0.40 บาท มันเป็นเกมเคาะกะลาเรียกแขกที่เขาวางหมากตั้งแต่ต้นหรือเปล่า?..ลองถามใจเธอดูนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AS กระชากขึ้นพรวดเดียวมาปิดที่ 2.56 บาท บวกไป 0.32 บาท หรือขึ้นไป 14.30% ด้วยมูลค่า 130 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมตีหัวเข้าบ้านที่เห็นกันมาแล้วหลายรอบ แถมในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา หุ้นวิ่งขึ้นมาแตะระดับ 2.70 บาทปุ๊บ ต่อจากนั้นร่วงลงไปกองอยู่กับพื้นที่บริเวณ 2.00-2.10 บาทในทันที(เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นทั้งหมด 2 ครั้ง) ก็เลยเป็นช็อตที่ต้องคิดมากหน่อยไงล่ะค่ะ

*ส่วนผู้กล้าท้าความตาย “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ดูหุ้นบันเทิงเริงรมย์อย่าง RS สักเล็กน้อย หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 9.70 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่า 203 ล้านบาท มันเป็นพล็อตเดิมๆ ที่เคยเห็นกันมาเป็นเวลา 4 เดือนว่า หุ้นผ่าน  10 บาทขึ้นไปไม่ได้ จึงเป็นเรื่องที่น่าสงสัยอยู่เหมือนกันว่า เที่ยวนี้จะเอาอะไรเป็นตัวขับเคลื่อนราคาหุ้นเจ้าค่ะ

*ไหนๆ เม้าท์ถึงเรื่องที่ไร้คำอธิบายขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” เม้าท์ถึงหุ้นพิมพ์นิยมสำหรับนักเล่นเก็งกำไรแบบสุดซอยอย่างเช่น UKEM กันสักหน่อยดีกว่า หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 2.26 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 9.70% ด้วยมูลค่า 233 ล้านบาท เหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า เที่ยวนี้ไม่ได้มาเล่นๆ อย่างแน่นอน เพราะหุ้นขึ้นมาจ่อแนวต้านเดิมแบบแนบชิดติดจอพะยะค่ะ

Back to top button