ชกสั้นๆโมนิก้าและทีมงาน

*วันนี้ “โมนิก้า” ขอพูดถึงการเคลื่อนตัวของดัชนีในแง่สัญญาณเทคนิค เพื่อทำให้นักลงทุนที่จดๆ จ้องๆ ไม่กล้าเข้าซื้อหุ้นหายจากอาการขุ่นข้องหมองใจ เพราะการขยับตัวของดัชนีแต่ละช่วงมีความหมายที่แตกต่างกันไป ผนวกกับวานนี้ดัชนีมีอาการแกว่งตัวเดี๋ยวบวกเดี๋ยวลบ ยิ่งทำให้เดี๊ยนต้องออกมาพูดเรื่องสัญญาณเทคนิคมากเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็ขอนำข้อมูลข่าวสารจากแดนไกลมาเล่าสู่กันฟังอีกรอบนะคะ


 *วันนี้ “โมนิก้า” ขอพูดถึงการเคลื่อนตัวของดัชนีในแง่สัญญาณเทคนิค เพื่อทำให้นักลงทุนที่จดๆ จ้องๆ ไม่กล้าเข้าซื้อหุ้นหายจากอาการขุ่นข้องหมองใจ เพราะการขยับตัวของดัชนีแต่ละช่วงมีความหมายที่แตกต่างกันไป ผนวกกับวานนี้ดัชนีมีอาการแกว่งตัวเดี๋ยวบวกเดี๋ยวลบ ยิ่งทำให้เดี๊ยนต้องออกมาพูดเรื่องสัญญาณเทคนิคมากเป็นพิเศษ ขณะเดียวกันก็ขอนำข้อมูลข่าวสารจากแดนไกลมาเล่าสู่กันฟังอีกรอบนะคะ

*โดยสิ่งที่น่าเป็นห่วงมากสุดในระยะสั้นก็คือ หุ้นบางตัวเข้าเขตซื้อมากเกินไป แม้บางตัวโดนกระหน่ำเทขายหุ้นอย่างหนัก บางตัวทะยานขึ้นไปอย่างร้อนแรง บางตัวเริ่มนิ่งๆ เฉยๆ ไม่รับรู้โลกภายนอก แต่ทั้งหมดก็เป็นข้อมูลที่นักลงทุนต้องทำความเข้าใจเป็นอันดับแรก เพราะข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนสามารถมองหาทางหนีทีไร่ได้ทันเวลา และยังทำกำไรในช่วงตลาดหุ้นดีดตัวขึ้นอีกรอบด้วยนะจ๊ะ

*ฉะนั้นการที่ค่าสัญญาณ Modified Stochastic พุ่งกระฉูดอย่างร้อนแรง และ RSI ไต่ระดับเพดานบินขึ้นมาเรื่อยๆ  ย่อมทำให้ทุกคนรู้ว่า ดัชนีจะผันผวนหนักขึ้นเรื่อยๆ หรือพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ ทุกอย่างกำลังดูดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม หรือถ้าจะให้สวยงามต้องรอให้แรงเทขายสะเด็ดน้ำเสียก่อน ดัชนีถึงจะมีโอกาสไต่ระดับขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงขึ้นกว่าเดิมอย่างแข็งแกร่ง ส่งผลให้การลงทุนในช่วงนี้เป็นจังหวะของการชกสั้นๆ แย็บถอย แย็บถอยนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ TAE  กระชากขึ้นอย่างร้อนแรงตั้งแต่เปิดตลาดจนปิดตลาด ก่อนจะปิดที่ระดับ 3.90 บาท  บวกไป 0.36 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น… พวก VI VI (ไวไว) เลยกระโจนเข้าใส่ไม่ยั้ง งานนี้จริงเท็จอย่างไร ไม่ต้องสนใจอะไรทั้งสิ้น เพราะการเล่นเที่ยวนี้วัดกันที่ความไว ทิศทาง และความชอบส่วนตัวเท่านั้นเจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่พุ่งแรงแซงทางโค้ง คงไม่มีใครเกินหน้าเกินตาไปกว่าHEMRAJ จู่ๆมีวอลุ่มซื้ออัดแน่นเข้ามาเป็นจำนวนมาก ทั้งที่ก่อนหน้านี้นอนแน่นิ่งอยู่กับที่มาเป็นเวลานาน บวกกับครั้งนี้เป็นการทะยานขึ้นแรงเป็นวันแรก “โมนิก้า” จึงขอเดาว่า น่าจะมีช็อตสองเพื่อเรียกเสียงฮือฮาจากพวกขาลุยอย่างแน่นอน ล่าสุดหุ้นปิดที่ 5.25 บาท บวกไป 0.77 บาท หรือขึ้นไป 17% มันเป็นเกมที่ต้องอ่านให้ออกนะคะ

*เช่นเดียวกับอีกหนึ่งรายที่ทำให้ “โมนิก้า” so sad สุดๆ คงต้องยกให้ ESSOเหตุผลของการไล่ราคาเที่ยวนี้ไม่มีอะไรมาก แค่มีข่าวลือเกี่ยวกับเรื่องลับๆ ล่อๆ หุ้นก็พุ่งกระฉูดอย่างร้อนแรง ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกับหุ้นตัวนี้เป็นประจำ โดยเฉพาะพวกขาใหญ่ประจำซอยมักหยิบยกเหตุผลร้อยแปดพันเก้ามาสาธยายเป็นประจำล่าสุดหุ้นปิดที่6.75 บาท บวกไป  0.40 บาท หรือขึ้นไป 6.30% มันมีอะไรจับต้องได้บ้าง ลองอธิบายให้ฟังหน่อยซิ!

*ส่วนหุ้นที่ถูกดันจนตัวลอย และเกิดรายการโอเวอร์รีแอคคงหนีไม่พ้น TTA  เพราะของมันเห็นกันเต็มๆ ว่า ขึ้นโดยปราศจากพื้นฐานรองรับ และที่ปรับตัวขึ้นแรงในคราวนี้ก็มาจากความเชื่อล้วนๆ ซึ่งไม่มีใครให้คำตอบได้ว่า ถ้าไม่เป็นเหมือนเช่นที่คาดการณ์กันไว้จะเกิดอะไรขึ้น “โมนิก้า” ถึงต้องการให้มิตรรักแฟนเพลงระวังเนื้อระวังตัวไว้บ้าง เดี๋ยวจะหาว่า “สวยไม่เตือน” ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 14.60 บาท บวกไป 1 บาท  หรือขึ้นไป 7.35% ทั้งที่เดือนก.พ.ที่ผ่านมา กระชากขึ้นไปแตะ 18 บาท แต่หลังจากนั้นรูดมหาราชตลอดแบบนี้..เสียวไส้สุดๆ เจ้าค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่ทำได้แค่เสียวชั่วคราว คงหนีไม่พ้นเล็กพริกขี้หนู ABC กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.74 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 6%  “โมนิก้า” ถือเป็นมุขเดิมที่ถูกนำมาใช้เป็นประจำในยามที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้กับแมงเม่า จึงต้องดันหุ้นให้สุดๆ เพื่อทำให้เห็นว่า win-win น่าเสียดายที่เดี๊ยนเป็นคนที่ไม่เชื่ออะไรง่ายๆ จึงมองว่า ราคาหุ้นระดับนี้เต็มที่แล้ว (ถ้าคิดบุ๊คที่ 0.09 บาท โดยให้ P/BV เท่ากับ 50 เท่า)..มันน่าสยดสยองดีแท้นะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SANKO ออกอาการเสียรางวัดอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” เข้าใจว่า เป็นผลมาจากข่าวลือลมๆ แล้งๆ ที่เม้าท์กันอย่างสนุกปากก่อนหน้านี้ บรรดาขาโจ๋วัยมันส์ ประเภทใส่ไม่ยั้งเลยเกิดอาการ so sad อย่างรุนแรง จึงระบายออกด้วยการโยนหุ้นทิ้งอย่างไม่ลืมหูลืมตา ส่งผลให้ราคาหุ้นรูดลงมาปิดที่ 1.65 บาท ลบไป 0.16 บาท หรือลงไป 8.84% มันเป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมากๆ หุ้นมีโอกาสลงต่อนะจะบอกให้

*ส่วนหุ้นที่เป็นความหวังสำหรับนักลงทุนที่เน้นคุณค่า “โมนิก้า” ขอแนะนำหุ้น PTT และ PTTGC  ราคาหุ้นพุ่งทะยานอย่างเป็นล่ำเป็นสันมาหลายวันแล้วก็จริง แต่ดูเหมือนว่า พละกำลังไม่ได้ย่อหย่อนลงแต่อย่างใด ล่าสุดทะยานขึ้นมาปิดที่ 361 บาท บวกไป 6 บาท หรือขึ้นไป 1.60%  ส่วนรายหลังปิดที่ 62 บาท บวกไป 3 บาท หรือขึ้นไป 5% แถมทั้งคู่มีมูลค่าเทรดเกินระดับ 2 พันล้านบาท ถ้าไม่มีข่าวดี ไม่วิ่งแรงแบบนี้หรอก เชื่อหัวน้องโมเถอะ! บวกกับแรงซื้อของฝรั่งที่เคาะขวาอย่างเดียวด้วยแล้ว  หุ้นน่าจะไปอีกไกลเลยทีเดียวนะจ๊ะ

 

Back to top button