เริ่มผงกหัว
*ไม่รู้ว่า “โมนิก้า” มโนไปเองหรือเปล่า? ถึงมองหุ้นบางตัวที่โดนกระหน่ำเทขายแบบไม่ไว้หน้า กลายเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจไม่แพ้หุ้นที่มีผลงานเด่นๆ และขออนุญาตแฟนคลับพูดถึงหุ้นดังกล่าวสักเล็กน้อย แต่หลักๆ ยังขอโฟกัสไปที่เรื่องกำไรเป็นลำดับแรก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เหมือนเป็นการเปิดช่องให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น และยังเป็นการแต่งแต้มสีสันให้กับตลาดหุ้นไทยมากขึ้นอีกด้วยนะคะ
เจาะกระดานหุ้น :โมนิก้าและทีมงาน
*ไม่รู้ว่า “โมนิก้า” มโนไปเองหรือเปล่า? ถึงมองหุ้นบางตัวที่โดนกระหน่ำเทขายแบบไม่ไว้หน้า กลายเป็นหุ้นที่มีความน่าสนใจไม่แพ้หุ้นที่มีผลงานเด่นๆ และขออนุญาตแฟนคลับพูดถึงหุ้นดังกล่าวสักเล็กน้อย แต่หลักๆ ยังขอโฟกัสไปที่เรื่องกำไรเป็นลำดับแรก เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้เหมือนเป็นการเปิดช่องให้นักลงทุนมีทางเลือกในการลงทุนมากขึ้น และยังเป็นการแต่งแต้มสีสันให้กับตลาดหุ้นไทยมากขึ้นอีกด้วยนะคะ
*เนื่องจากช็อตที่นำเล่นในเที่ยวนี้มีทั้งเรื่อง “สมหวัง” และ “ผิดหวัง” ซึ่งทำให้คนที่อ่านเกมออก มีจังหวะปล่อยของในราคาสูง พร้อมกับทำให้เหล่าผู้เล่นไปรอช้อนซื้อเมื่อหุ้นอ่อนตัวลงมา ซึ่งเป็นบรรยากาศเดิมๆ ที่เห็นกันมาแล้วหลายรอบด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงชินชากับการแกว่งตัวขึ้นๆ ลงๆ ของดัชนี จนสุดท้ายลงเอ่ยด้วยการปิดที่ระดับ 1,546.35 จุด บวกไป 8.93 จุด ด้วยมูลค่า 5.48 หมื่นล้านบาทไงล่ะค่ะ
*งานนี้ไม่ต้องไปสืบเสาะ “คนซื้อ คนขาย” ให้เสียเวลาเคาะหุ้น เพราะวัฎจักรของการเล่นหุ้นเที่ยวนี้ไม่มีอะไรต่างจากรอบก่อนหน้านี้ “โมนิก้า” จึงขอเม้าท์ถึงหุ้นรายตัวที่ทำให้เดี๊ยนรู้สึกตื้นตันใจอย่างแรงว่า หุ้นที่แอบเชียร์ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจจอร์จ จนเชื่อว่า โอกาสในการทำกำไรในงวดถัดไปจะดียิ่งขึ้นไปอีก จึงเป็นจังหวะของการทยอยสะสมหุ้นไว้ในพอร์ตนะจะบอกให้
*โดยเฉพาะในรายของ PTT เด้งขึ้นมาปิดที่ 393 บาท บวกไป 7 บาท ด้วยมูลค่า 3.58 พันล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากตัวเลขกำไรไตรมาส 1 ปี 60 เติบโตถึง 95% เหมือนเป็นการสะท้อนภาพให้รู้ว่า ยุคเฟื่องฟูกำลังเกิดขึ้นใหม่อีกครั้ง ราคาหุ้นน่าจะถีบตัวขึ้นอย่างช้าๆ อีกรอบ จึงกลายเป็นจังหวะตามน้ำสำหรับคนที่มีเงินเย็น เพราะหุ้นเทรดบนค่า P/E 11.65 เท่าเองเจ้าค่ะ
*ส่วนในรายของ EARTH กลายเป็นหุ้นน่ารักน่าลุ้นสำหรับคนชอบเสี่ยง และเหตุผลที่นักเล่นกระโจนเข้ามาเล่นในเที่ยวนี้คงมาจากประเด็น ฟอร์ซเซลจบแล้ว! ความกังวลเกี่ยวกับสงครามวันเดียวหมดไป แถมแรงซื้อที่ไหลเข้ามาในเที่ยวนี้เป็นการเคาะขวาเน้นๆ จึงเหมือนเป็นการเริ่มเขี่ยลูกเพื่อเล่นรอบใหม่ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.42 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่า 2.94 พันล้านบาท เหมือนเป็นไฟต์บังคับหุ้นต้องไปต่อ..หากไปไม่ไหวจะเปลี่ยนเป็นอีกแบบนะจ๊ะ
*เหมือนกับในรายของ BDMS ถูกกระหน่ำเทขายแบบไม่ไว้หน้า จนหุ้นรูดลงมาปิดที่ 19.30 บาท ลบไป 1.30 บาท หรือลงไป 6.30% ด้วยมูลค่า 4.19 พันล้านบาท พร้อมกับทำราคาต่ำสุดในรอบ 1 ปี 6 เดือน “โมนิก้า” มองเป็นสถานการณ์ที่ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่ เพราะมันหมายถึงตัวบริษัทกำลังเข้าสู่ช่วงถดถอย แถมวันนี้หุ้นยังเทรดบนค่า P/E 38 เท่า เดี๊ยนพูดได้ทันทีว่า หุ้นยังโอเวอร์แวลูนะคะ
*สำหรับในรายของ PTG เด้งกลับขึ้นมาเป็นวันที่สอง ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 19.90 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 625 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการกลับตัวที่น่าตามไปดู เพราะอาการที่แสดงออกในเที่ยวนี้เป็นลักษณะของฟื้นตัว จึงน่าจะมีแรงหนุนที่ทำให้หุ้นทะยานขึ้นไปได้อีกระยะหนึ่ง หลังราคาหุ้นตอบรับกับข่าวร้ายมาพอสมควรน่ะสิ
*ส่วนหุ้นที่เด้งรับข่าวดีอย่างเช่น SUPER ยังคงเป็นช็อตที่ต้องเพิ่มความละเอียดในการเข้าเล่น เพราะมูฟเมนต์ของหุ้นเป็นการเปิดกระโดด เปิดแก๊ปกว้าง ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการเล่นในเที่ยวนี้ เพราะตามตำราเทคนิคเขามองว่า หุ้นจะต้องลงมาปิดแก๊ปที่เปิดไว้ “โมนิก้า” ถึงมองราคาปิดที่ 1.58 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 4.65% ด้วยมูลค่า 1.17 พันล้านบาท น่าจะเป็นช็อตของการเคาะสั้นๆ เพื่อรอให้หุ้นสร้างฐานใหม่ให้ได้เสียก่อนเจ้าค่ะ
*เหมือนกับในรายของ ASIAN หลังจากสร้างฐานแนวรับใหม่ที่บริเวณ 5 บาทเป็นเวลานานถึง 3 เดือน ต่อจากนั้นหุ้นก็กระชากขึ้นพรวดพราดขึ้นไปถึง 6.70 บาท ก่อนจะโดนเทขายจนหุ้นลงมายืนแถว 6.30 บาท ล่าสุดหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 7.30 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 15.90% ด้วยมูลค่า 278 ล้านบาท ทั้งหมดเป็นผลมาจากกำไรไตรมาส 1 โตกระฉูด แถมวันนี้เทรดบนค่า P/E 14.74 เท่า จึงเป็นจังหวะเคาะขวาเบาๆ เพื่อความมันในอารมณ์นะจ๊ะ
*เช่นเดียวกับหุ้นแป้งสาลี TMILL กระชากขึ้นมาปิดที่ 3.88 บาท บวกไป 0.82 บาท หรือขึ้นไป 26.80% ด้วยมูลค่า 280 ล้านบาท “โมนิก้า” สงสัยว่า งานนี้ต้องมีข้อมูลรั่วไหลออกไปภายนอก ถึงทำให้ในช่วง 1-2 เดือนที่ผ่านมามีการ “ลากหุ้น ทุบหุ้น” กันสนุกมือ บวกกับก่อนหน้านี้แทบไม่มีใครชายตามองหุ้น เดี๊ยนถึงมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ไม่ปกติ แต่ยังเป็นจังหวะที่ขาลุยตามไปเล่นได้นะคะ
*ส่วนในรายของ FSMART กลายเป็นดาวงรุ่งพุ่งแรงอีกครั้ง หลังจากทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม บวกกับหุ้นถูกนำเข้าไปบรรจุอยู่ใน MSCI Small Cap วานนี้ถึงไล่ซื้อหุ้นกันอย่างสนุกสนาน ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 18.70 บาท บวกไป0.90 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 78 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นแรงหนุนที่จะทำให้หุ้นทะยานกลับขึ้นไปยืนแถว 20 บาทอีกรอบ เพราะของมันเคยเห็นกันมาแล้วนะจะบอกให้