สร้างฐาน

เจาะกระดานหุ้น:โมนิก้าและทีมงาน

 

*หากประเมินด้วยสายตานักเล่นจะรู้ได้ทันทีว่า ตลาดหุ้นถึงเวลาสร้างฐานเพื่อดันตัวเองขึ้นไปพลิกแนวต้าน 1,550 จุด ให้กลายเป็นแนวรับที่แข็งแกร่งอีกรอบ ซึ่งเป็นช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อสำคัญสำหรับการการเคาะขวาในไม้ถัดไป “โมนิก้า” ถึงต้องลุ้นให้ดัชนียืนหยัดในแดนบวกเล็กๆ ต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพื่อช่วยให้ดัชนีเทคตัวผ่านจุดสำคัญไปอย่างง่ายดายไงล่ะค่ะ

*น่าเสียดายที่โลกของความเป็นจริงเป็นอะไรที่โหดร้ายกว่าที่คาดคิดไว้มาก “โมนิก้า” ถึงต้องเผื่อใจกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเป็นประจำ เพราะเมื่อดูจากสิ่งที่เกิดขึ้น ณ เวลานี้ มันมีเรื่องชวนให้ปวดเศียรเวียนเกล้าหลายเรื่องด้วยกัน จึงต้องสำรวจรูปแบบการลงทุนในเที่ยวนี้ว่า เข้ากับบรรยากาศการลงทุนขนาดไหน? เพื่อจะได้หาทางหนีทีไล่ได้ถูกจังหวะเจ้าค่ะ

*ยิ่งเห็นดัชนีกวัดแกว่งไปมา พร้อมกับทำท่าทะยานขึ้นแรงๆ สุดท้ายลงมาจอดแค่ระดับ 1,548.29 จุด บวกไป 1.94 จุด ด้วยมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า สถานการณ์ยังไม่นิ่งอย่างที่ควรจะเป็น ซึ่งจะทำให้ความผันผวนยังดำเนินต่อไป ยกเว้นวันนี้มีแรงซื้อเข้ามาประคองเป็นจำนวนมาก  โพสิชั่นของตลาดหุ้นก็จะเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นในทันทีนะจะบอกให้

*ตัวอย่างดังกล่าวดูได้จากหุ้น MTLS ภายใต้การคุมงานของคุณพี่ “ชูชาติ” ยังคงเป็นหุ้นฮอตฮิตติดลมบน มันเป็นผลมาจากกำไรไตรมาส 1 ปี 60 ออกมาประทับใจจอร์จ แรงซื้อถึงไหลกลับเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นกระชากขึ้นมาทำ new high ที่ระดับ 32.50 บาท บวกไป 1.75 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้แฟนคลับต้องตามไปดูนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BEAUTY หลังจากฟาดเคราะห์ไปแล้วรอบหนึ่ง ก็ดูเหมือนจะมีอะไรดีขึ้นเรื่อยๆ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 10.90 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่า 875 ล้านบาท “โมนิก้า” เม้าท์ได้ทันทีว่า หากผ่านแนวต้าน  11 บาทขึ้นไปได้แบบชิวๆ ราคาเป้า 12 บาทก็ไม่ไกลเกินเอื้อม งานนี้ถึงต้องให้นักเล่นเกาะขอบเวที เพื่อลุ้นกันเอาเองนะคะ

*เหมือนกับในรายของ TISCO กระชากขึ้นมาปิดที่ 80 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 670 ล้านบาท แถมเป็นการทำ new high แบบที่เรียกว่า สบายบรื๋อ..สะดือโบ๋ จึงกลายเป็นช็อตที่นักเล่นต้องตามไปดูอีกเช่นกัน เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มาด้วยวอลุ่มเคาะขวาเน้นๆ บวกกับวันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 11.60 เท่า ย่อมเป็นการเปิดช่องให้หุ้นวิ่งต่อแบบสะดวกโยธินพะยะค่ะ

*ส่วนรายที่ปิดบวกแบบน่ากังขาอย่างของช่องน้อยสี BEC “โมนิก้า” มองเป็นประเด็นที่คนเล่นต้องคิดมากนิดหนึ่ง เพราะตัวเลขที่แสดงออกมาในไตรมาส 1 ยังอยู่ในทิศทางที่ไม่ค่อยจะสู้ดี จู่ๆ ดันมีมือที่มองไม่เห็นเข้ามาดันหุ้น จนขึ้นมาปิดที่ระดับ 21.80 บาท บวกไป 3.20 บาท หรือขึ้นไป 17.20% ด้วยมูลค่า 435 ล้านบาท ซึ่งเป็นการเทรดบนค่า P/E 41 เท่า เดี๊ยนพูดได้ทันทีว่า โอเว่อร์รีแอ๊คนะจะบอกให้

*ส่วนในรายของหุ้นซิ่งของวัยโจ๋อย่าง AMANAH ยังมีลักษณะพวกมากลากไปเหมือนเดิม รูปแบบการเล่นยังเป็นลักษณะความคาดหวังตัวเลขในไตรมาส 2 จะออกมาดีใกล้เคียงกับไตรมาส 1 วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 2.02 บาท บวกไป 0.17 บาท หรือขึ้นไป 9.20% ด้วยมูลค่า 100 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นความเสี่ยงที่นักเล่นต้องแบกรับกันเอาเอง ก็ในเมื่อเลือกทางเดินที่เป็นแบบนี้ ก็ต้องเข้าใจสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามหลังมาด้วยจ้า!

*เหมือนกับในรายของลีสซิ่งสีเทา GL ทุกคนต่างรู้ดีว่า พวกกองทุนขาใหญ่ถอนตัวกันหมดแล้ว และที่เห็นในเวลานี้เป็นเพียงการเคาะกะลาเรียกแขก จึงเป็นการยากที่หุ้นจะทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิม เพราะทุกคนจ้องจะเทขายกันทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 20.70 บาท ลบไป 1.50 บาท หรือลงไป 6.80% ด้วยมูลค่า 711 ล้านบาท  เพราะแวลูของหุ้นจริงๆ ต่ำกว่านี้มาก หลังคนที่เกี่ยวข้องถูกฉีกหน้ากากน่ะสิ

*เช่นเดียวกับในรายของ STA ก่อนหน้านี้พยายามประโคมข่าวราคายางดีขึ้นอย่างนั้น ดีขึ้นอย่างนี้ พอสุดท้ายไม่เป็นเหมือนกับที่เกริ่นนำไว้ แรงเทขายถึงไหลออกมาเรื่อยๆ จนวานนี้หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 14.90 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 5.10% ด้วยมูลค่า 400 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตของการรับกรรมที่ก่อไว้ ไม่มีอะไรต้องอธิบายให้มากความ แถมคนเล่นต้องเดาทางเองแบบนี้..ไม่คุ้มที่จะเข้าเล่นหรอกค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวสอดคล้องกับหุ้น KOOL หลังกระชากขึ้นมาปิดที่ 4 บาท บวกไป 0.46 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่า 257 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการเคาะขวาสั้นๆ เพื่อหาค่าขนมเลี้ยงเด็กๆ เพราะถ้าดูกันจริงๆ ตัวเลขกำไรไตรมาส 2 อาจออกมาไม่ดีก็ได้ เพราะปีนี้ฝนมาเร็วกว่ากำหนด จึงอาจกระทบกับยอดขายอย่างมีนัยสำคัญ เดี๊ยนถึงมองการดีดตัวเที่ยวนี้เป็นเพียงการเด้งเพื่อปิดแก๊ปที่เปิดไว้บริเวณ 4.24 บาทเท่านั้นเจ้าค่ะ