เข้าทำเร็ว!

*ถ้าดูการเคลื่อนไหวของดัชนีอย่างเป็นระบบนับตั้งแต่ต้นปี 60 “โมนิก้า” ยังปักใจเชื่อว่าทั้งหมดเป็นการชิงไหวชิงพริบของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ไม่มีอะไรต้องคิดซับซ้อนหลายตลบ เพราะของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ปัจจัยพื้นฐานให้ได้แค่นี้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือถ้าจะหวังให้ทุกอย่างดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ต้องรอต่อไปอีกระยะหนึ่งนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ถ้าดูการเคลื่อนไหวของดัชนีอย่างเป็นระบบนับตั้งแต่ต้นปี 60 “โมนิก้า” ยังปักใจเชื่อว่าทั้งหมดเป็นการชิงไหวชิงพริบของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ  ไม่มีอะไรต้องคิดซับซ้อนหลายตลบ เพราะของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งแดงแจ๋ ปัจจัยพื้นฐานให้ได้แค่นี้ ไม่จำเป็นต้องไปเรียกร้องในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ หรือถ้าจะหวังให้ทุกอย่างดีขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม ต้องรอต่อไปอีกระยะหนึ่งนะคะ

*โดยหนึ่งในตัวแปรที่ทำให้สถานการณ์หลายอย่างดีขึ้นอย่างช้าๆ คงมาจากความเชื่อมั่นในสัญญาณเทคนิค จึงพากันเข้าซื้อหุ้นในจังหวะที่อ่อนตัวลงมายังบริเวณแนวรับ 1,530 จุด ต่อจากนั้นก็ไล่ซื้อหุ้นกันมาเรื่อยๆ จนดัชนีถีบตัวขึ้นอย่างช้าๆ ก่อนจะมาปิดที่ 1,569.41 จุด บวกไป 3.26 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.42 หมื่นล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่พอคาดเดาได้ว่า ดัชนีจะขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,580 จุด แต่อาจไม่ถูกทั้งหมดในกระบวนการเจ้าค่ะ

*สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นมาจากข้อมูลบางอย่างยังไม่เป็นที่แน่ชัดว่า สถานการณ์ทุกอย่างดีขึ้นอย่างถาวร! การเล่นของรายย่อยถึงเป็นลักษณะเข้าทำเร็ว ไม่มีเวลาลังเลใจอะไรทั้งสิ้น บวกกับ 2 ครั้งที่ผ่านมาจุดทำกำไรอยู่แถวบริเวณดังกล่าว “โมนิก้า” ถึงเห็นดีเห็นงามที่แมงเม่าเทขายหุ้นออกไป 560 ล้านบาท เพราะมันเป็นเรื่องเดิมที่เคยเห็นกันมาแล้ว จึงขอปรบมือดังๆ ที่เข้าใจเกมการเงินในเที่ยวนี้น่ะสิ

*เหมือนกับในรายของ WHAUP พยายามทะยานขึ้นอย่างแข็งแกร่ง แต่ในระหว่างทางโดนเทขายเป็นระยะ สุดท้ายขึ้นมาปิดที่ 27.25บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย  626 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นหนึ่งในทีเด็ดที่ต้องเริ่มพูดอีกครั้ง ก็ในเมื่อของมันเห็นกันอย่างแจ่มแจ้งว่า เริ่มมีการเข้ามาไล่ราคารอบใหม่อย่างคึกคัก จึงต้องพูดถึงหุ้นตัวนี้บ่อยขึ้นไงล่ะค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ PTG ก็เป็นหุ้นอีกหนึ่งตัวที่ต้องติดตามดูผลงานอย่างใกล้ชิด “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งช็อตเด็ดที่แฟนประจำรู้เป็นอย่างดีว่า เริ่มมีการพูดถึงตัวเลขกำไรในไตรมาส 2 จะออกมาอย่างสวยหรู จึงเป็นจังหวะของการไหลตามน้ำ  ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 21.30                บาท บวกไป 1.40 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 832 ล้านบาท งานนี้บอกได้แค่ว่า จังหวะมันให้พอดี ไม่เกี่ยวกับดวงนะจ๊ะ

*ส่วนรายที่ก่ำกึ่งระหว่าง “ฝีมือ” กับ “ดวง” จนแทบจะแยกไม่ออก “โมนิก้า” กลับพุ่งเป้าไปที่ APCS ถ้ามองภาพยาวๆ จะเห็นว่าราคาหุ้นยังแกว่งตัวไปมาแบบ V-Shape แต่ถ้ามองสั้นขึ้นมาหน่อยจะเห็นว่า ขึ้นๆ ลงๆ ในกรอบ 7-9 บาทมาเป็นเวลา 4 เดือน ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.15 บาท บวกไป 0.55  บาท หรือขึ้นไป 7.25% ควรจะอ้างเหตุว่า เป็นเรื่องไหนดีล่ะค่ะ

*สำหรับในรายของ SYNEX อันนี้พอพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า สถานการณ์ของตัวบริษัทดีขึ้นจริงๆ และการคัมแบ็กในเที่ยวนี้ไม่ธรรมดาเสียด้วย “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับลองหันมามองหุ้นดาวเด่นรายนี้อีกสักครั้ง ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 12.40 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 6%  ด้วยมูลค่า 360 ล้านบาท ถ้ามองยอดเดิมที่หุ้นเคยขึ้นไปถึง 13 บาท มันเป็นอะไรที่น่าติดตามชมนะจะบอกให้

*เหมือนกับกรณีของ ASAP  ถ้ามองในมุมของนักเล่นต้องยอมรับว่า อาการตื่นตัวพร้อมลุยยังคุกรุ่นตลอดเวลา แรงซื้อถึงไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก จนหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.40 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 98 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ต้องจับตาดูให้ดีๆ หากวันนี้แรงซื้อจะเข้ามาหนุน แสดงว่า กำลังขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมแล้วแหละ…อิอิอิ

*ส่วนในรายของหุ้นร้อน ASIAN เดี๊ยนมองเป็นกิมมิคของนักผจญภัย ไม่มีเหตุผลอื่นที่อธิบายได้ดีกว่านี้อีกแล้ว และไม่มีข้อมูลไหนน่าเชื่อถือ เพราะการเล่นเที่ยวนี้มาจากความเชื่อส่วนตัวล้วนๆ ผสมผสานกับข่าวสารที่แพร่กระจายในท้องตลาดมีแต่ชวนเชื่อให้เป็นเช่นนั้น “โมนิก้า” จึงไม่ขอกล่าวอะไรเพิ่มเติม เพราะทันทีเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 10.60 บาท บวกไป 0.95 บาท หรือขึ้นไป 9.80% ด้วยมูลค่า 290 ล้านบาท เดี๊ยนได้แต่อึ้งกิมกี่เจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ THANA รายนี้เคยมีตัวอย่างให้เห็นแล้วว่า พอถึงบทขึ้น หุ้นขึ้นลูกเดียว พอถึงบทลง ก็ทิ้งดิ่งลงมาเหมือนกัน แต่โชคดีตรงที่มีตัวเลขผลประกอบการซับพอร์ต “โมนิก้า” ถึงไม่ค่อยหนักใจสักเท่าไหร่ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.32 บาท บวกไป 0.56 บาท หรือขึ้นไป 20.30%  ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท มันเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่นักเล่นต้องหัดทำความเข้าใจ เพื่อกำหนดกรอบในการลงทุนเที่ยวนี้นะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายอขง SE จู่ๆ กระชากขึ้นอย่างร้อนแรง ทั้งที่ 2 เดือนก่อนหน้านี้หุ้นไหลลงลูกเดียว “โมนิก้า” ถึงไม่สามารถอธิบายเหตุผลที่ทำให้หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.90 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 3.20%  ด้วยมูลค่า 280 ล้านบาท เดี๊ยนฟันธงได้ทันทีว่า ขุดบ่อล่อปลา! โดยใช้ความเชื่อเกี่ยวกับผลประกอบการไตรมาส 2 เป็นตัวเร้าอารมณ์..คุณคิดว่า เป็นแบบนั้นไหม?

Back to top button