คุณค่าบริษัท : MC แข็งแกร่งเสมอ

ราคาหุ้น MC หรือ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นชัดเจน เพราะค่อยๆ ปรับตัวขึ้น 1 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว จนล่าสุดราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 19.40 บาท พร้อมสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ


ราคาหุ้น  MC หรือ บริษัท แม็คกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) มีสัญญาณฟื้นตัวขึ้นชัดเจน เพราะค่อยๆ ปรับตัวขึ้น 1 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว จนล่าสุดราคาหุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 19.40 บาท พร้อมสามารถยืนเหนือเส้นค่าเฉลี่ยทุกเส้นไปได้อย่างแข็งแกร่ง ซึ่งราคาหุ้นมีโอกาสปรับตัวขึ้นต่อ

เนื่องจากบริษัทมีจุดแข็งในเรื่องของผลการดำเนินงานที่ยังออกมาแข็งแกร่ง โดยเฉพาะไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,231.56 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,149.81 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรขยับขึ้นมาอยู่ที่ 231.58 ล้านบาท หรือ 0.289 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 202.34 ล้านบาท หรือ 0.253 บาทต่อหุ้น

อันเนื่องจากการเติบโตทั้งการเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าท่อนบนรวมถึงการออกผลิตใหม่ โดยเป็นการ Engage ลูกค้าเดิมและขยายกลุ่มลูกค้าใหม่ซึ่งจะช่วยหนุนการเติบโตของทั้งรายได้และกำไร รวมถึงยังเป็นการใช้ประโยชน์จากหน้าร้านของตนเองที่มีอยู่ให้มีประสิทธิภาพและประหยัดต้นทุนมากขึ้นนั่นเอง

ผลการดำเนินงานที่ออกมาแข็งแกร่งนับเป็นการปรับกลยุทธ์ในการขายได้ถูกรูปแบบ ตามแผนของผู้บริหารฝีมือดี

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์มองว่า MC ยังคงสามารถเพิ่มสัดส่วนการขายสินค้าท่อนบนได้อย่างต่อเนื่องหลังจากที่มีการออกสินค้าแบบใหม่ๆ ตั้งแต่ปีก่อนและถือว่าเป็นไปตามเป้าหมายเนื่องจากตลาดเสื้อยืดเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่และผู้บริโภคซื้อซ้ำได้บ่อยครั้งกว่า โดยล่าสุดในไตรมาส 1 ปี 60 มีสัดส่วนการขายสินค้าท่อนบนต่อท่อนล่างอยู่ที่ 1.2 ต่อ 1 เพิ่มขึ้นจาก 1 ต่อ 1 ในปีที่ผ่านมา

และในช่วง 3 ปีข้างหน้าคาดว่าจะปรับเพิ่มเป็น 3 ต่อ 1 ขณะที่การขายกางเกงยีนส์ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด ซึ่งยังคงมุมมองเป็นบวกต่อกลยุทธ์ดังกล่าวและเป็นปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของผลการดำเนินงานในระยะยาว

นอกเหนือจากสินค้าในกลุ่มเดิม ในช่วงปลายปีที่ผ่านมาทาง MC มีการแตกประเภทสินค้าใหม่ๆ ทั้ง  Active Wear และ Skin Care โดยร่วมมือกับ Partner ที่มีความเชี่ยวชาญในผลิตภัณฑ์นั้นๆ ซึ่งเป็น Engage ลูกค้าเดิมในการใช้สินค้าอื่นๆ เพิ่มเติมรวมถึงเป็นการขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้สินค้าใหม่จะเน้นใช้การจ้างผลิตซึ่งทำให้สามารถจัดการด้านต้นทุนได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งมองว่าการขยายสายผลิตภัณฑ์ใหม่เพิ่มเติมจะไม่ถ่วงการเติบโตของผลการดำเนินงานในภาพรวม

ส่วนของนักวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส คาดกำไรปกติปี 2560 จะยังคงเติบโตได้ค่อนข้างแข็งแกร่งที่ 955 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 13.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน  จากเหตุผลที่ได้กล่าวไปข้างต้น ขณะที่ Dividend Yield ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าสนใจราว 5.4% จึงยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 21.50 บาท

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. น.ส.สุณี เสรีภาณุ 362,346,460 หุ้น   45.29%
  2. MINDO ASIA INVESTMENTS LIMITED   70,000,000 หุ้น   8.75%
  3. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด   39,044,079 หุ้น   4.88%
  4. STATE STREET BANK EUROPE LIMITED   30,580,950 หุ้น   3.82%
  5. นางปรารถนา มงคลกุล   22,971,000 หุ้น   2.87%                        

รายชื่อกรรมการ

  1. นางไขศรี เนื่องสิกขาเพียร ประธานกรรมการ
  2. นางไขศรี เนื่องสิกขาเพียร ประธานกรรมการบริหาร
  3. น.ส.สุณี เสรีภาณุ กรรมการผู้จัดการ
  4. น.ส.สุณี เสรีภาณุ กรรมการ
  5. นายวิรัช เสรีภาณุ กรรมการ

Back to top button