พาราสาวะถี
เฉลยมาแล้วเหตุที่โยน 4 ข้อคำถาม ไม่ได้ถามแบบโง่ๆ แต่มันมีที่มาที่ไป พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อธิบายว่า จุดประสงค์ที่ถามคือต้องการให้ประชาชนได้คิดในสิ่งที่ตนได้ถาม เพราะวันนี้มีการพูดในระดับท้องถิ่น ชุมชน และหมู่บ้าน ซึ่งเดินสายพูดอยู่ข้างล่าง และบิดเบือนทุกอย่าง โจมตีตนทางสื่อ จึงได้ถามกลับไปว่า สิ่งที่พวกเขาพูดมาทั้งหมดนั้นจะเป็นจริงหรือไม่
พาราสาวะถี : อรชุน
เฉลยมาแล้วเหตุที่โยน 4 ข้อคำถาม ไม่ได้ถามแบบโง่ๆ แต่มันมีที่มาที่ไป พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อธิบายว่า จุดประสงค์ที่ถามคือต้องการให้ประชาชนได้คิดในสิ่งที่ตนได้ถาม เพราะวันนี้มีการพูดในระดับท้องถิ่น ชุมชน และหมู่บ้าน ซึ่งเดินสายพูดอยู่ข้างล่าง และบิดเบือนทุกอย่าง โจมตีตนทางสื่อ จึงได้ถามกลับไปว่า สิ่งที่พวกเขาพูดมาทั้งหมดนั้นจะเป็นจริงหรือไม่
เช่น ที่บอกว่าหากได้กลับมาเป็นรัฐบาล ก็จะให้มีโครงการรับจำนำข้าวอีก กลับมาแล้วจะทำหลายอย่างที่ประชาชนได้รับผลประโยชน์โดยตรง ตนจึงได้ถามว่าถ้าปัญหาเหล่านี้กลับมาประชาชนจะทำอย่างไร เมื่อเขาเล่นงานตน ตนก็ต้องถามกลับไปบ้าง แล้วทำไมจะต้องฟังแต่เขาข้างเดียวหรือ ตนไม่มีโอกาสจะพูดอะไรเลยเหรอ ช่วยตนสิ ตนต้องการสร้างความคิด เลือกตั้งตนไม่ได้ขัดแย้ง ยังไงก็ต้องมี โรดแมปว่าเมื่อไรก็ต้องเมื่อนั้น แต่วันนี้แค่เลือกตั้งยังไม่ยอมกันเลย
ต่างเร่งให้เร็วแค่นี้แค่นั้น มีความไม่สงบเกิดขึ้น แล้วบอกว่าจะต้องเลือกตั้งให้เร็วขึ้น จะต้องขยายความให้เขาทำไม ประเทศไหนก็ไม่มีหรอก ถ้าไม่สงบเรียบร้อยก็ทำอย่างอื่นไม่ได้ ตนไม่เคยพูดสักคำว่าจะไม่เลือกตั้ง แล้วนักการเมืองตีความอย่างนั้นทำไม หลายคนที่ออกมาพูดวันนี้สร้างความเสียหาย วันหน้าถ้าเกิดปัญหาขึ้นอีกจะเรียกใคร ประยุทธ์ไม่อยู่แล้วจะเรียกใคร แล้วบอกทหารไม่ต้องรัฐประหารซึ่งไม่มีใครอยากจะทำอยู่แล้ว ถ้าพวกคุณไม่สร้างความเสียหายไว้
สื่อมวลชนเองก็รู้ว่ามีความเคลื่อนไหวของนักการเมือง เพื่อเตรียมการเลือกตั้ง โดยต้องการให้ทุกอย่างกลับมาเป็นเหมือนเดิม มีการเคลื่อนไหวมานานแล้ว เป็นการเดินสายเพื่อดิสเครดิตรัฐบาลทุกเรื่อง เพราะไม่ต้องการให้สิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้น แต่ต้องการให้ทุกอย่างกลับไปที่เดิม มีรัฐธรรมนูญและกฎหมายแบบเดิม แล้วประเทศไทยจะแก้ปัญหาอะไรได้ จึงขอถามคนไทยว่าต้องการความเปลี่ยนแปลงหรือไม่ หากต้องการก็ต้องคิดในสิ่งที่ถามไป และไม่ได้ถามเพื่อตัวเอง
ไม่ได้มีเจตนาอย่างอื่น แต่ที่ตนโดนโจมตีมาตลอดนั้นเป็นธรรมกับตนหรือไม่ เมื่อจะถามสักหน่อยก็ไม่ได้เลย แตะต้องไม่ได้ เขาเป็นใครถึงแตะไม่ได้ เป็นเจ้าของประเทศนี้หรือ เพราะเจ้าของประเทศนี้คือประชาชน ตนถามว่าประชาชนจะเอาอย่างไร ไม่ได้ถามว่าจะเลือกตั้งหรือไม่เลือกตั้ง ตนไม่ถามอะไรโง่ๆ แบบนั้นอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม เมื่อตนได้รับคำตอบจากประชาชนแล้ว จะส่งคำตอบให้สื่อมวลชนได้ดูด้วย เพราะสื่อเป็นส่วนหนึ่งในวงจรความขัดแย้ง จึงต้องสร้างความเข้าใจกับประชาชน และสร้างจิตสำนึก ซึ่งไม่ใช่หน้าที่นายกฯเพียงคนเดียว แต่เป็นหน้าที่ของทุกคน ทั้งหมดคือความในใจของท่านผู้นำจากการรัฐประหารกับ 4 คำถามสุดฮอต
เมื่อถอดรหัสด้วยความเข้าใจในตัวท่านแล้ว แม้หลายเรื่องจะเป็นความจริง แต่สิ่งที่พรั่งพรูออกมาถามว่าเต็มไปด้วยอคติต่อคนบางกลุ่มบางพวกหรือไม่ ใจของหัวหน้าคณะรัฐประหารวางไว้อยู่ตรงกลางของความขัดแย้งหรือเปล่า คำอธิบายที่ว่ามาทั้งหมดน่าจะเป็นคำตอบโดยไม่ต้องสาธยายอะไร เมื่อกรรมการใจลำเอียง มันก็ยากที่จะทำหน้าที่ในการตัดสินเรื่องหนึ่งเรื่องใดด้วยความเป็นธรรม
ถึงต้องถามย้ำกับพลเอกประยุทธ์อีกครั้งไงว่า นักการเมืองคนดีในอุดมคติของท่านต้องอย่าง สุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำกปปส.ที่ออกมาเชลียร์รัฐบาลคสช.ตลอดเวลาหรือเปล่า เพราะนั่นมันจะช่วยให้ประชาชนได้เห็นภาพนักการเมืองน้ำดีของท่านผู้นำ หรือนอกจากเทพเทือกแล้ว ท่านมีใครที่จะชี้นำให้ประชาชนได้เป็นทางเลือกใหม่หรือไม่
การพล่ามบ่นอยู่แต่ว่านักการเมืองชั่ว นักการเมืองเลว เลือกแบบเก่าปัญหาก็วนอยู่ที่เดิม แล้วรัฐธรรมนูญที่ตั้งมือหนึ่งด้านกฎหมายรับใช้เผด็จการมาทุกยุคทุกสมัยมายกร่าง โดยวางกับดักต่างๆ ไว้มากมาย จนฝ่ายการเมืองไม่ว่าที่จะเป็นพวกเดียวกันหรือไม่ยังไม่รู้ชะตากรรมตัวเองว่า หลังการเลือกตั้งแล้วจะบริหารประเทศอย่างไร ทำไมท่านจึงไม่เชื่อมั่นกระบวนการที่ตัวเองดำเนินการมาทั้งหมดว่ามันจะแก้ไขได้
ในทำนองเดียวกัน การวางตัวบุคคลที่จะเป็นส.ว.ลากตั้งถึง 250 คนด้วยการคัดสรรของคสช.ล้วนๆ ในเมื่อคนเหล่านั้นคือคนดีที่ถูกเลือก ทำไมท่านผู้นำไม่เลือกให้คนดีเลิศประเสริฐศรีเหล่านั้น เข้าไปสู่กระบวนการของพรรคการเมือง เพื่อให้เป็นทางเลือกใหม่สำหรับประชาชน อาจจะไม่จำเป็นต้องไปไหลรวมอยู่พรรคเดียวกันทั้งหมดก็ได้
แต่อย่างน้อย 250 คนดีที่ได้รับการการันตีจากท่านผู้นำสุดยอดคนดี ก็จะได้ไปไล่น้ำเสีย เบียดแย่งเก้าอี้กับนักการเมืองเลวที่ท่านไม่ชอบขี้หน้าเหล่านั้น นี่คือวิถีที่งดงามตามครรลองของระบอบประชาธิปไตย แต่เมื่อเลือกที่จะใช้การลากตั้งเป็นพรรคการเมืองใหญ่ในสภา แล้วจะมาบ่นมาเป็นกังวลว่าหลังเลือกตั้งจะได้นักการเมืองชั่วเข้ามาหาอะไรมิทราบ
ความเห็นของ อดิศร เนาวนนท์ คณบดีบัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา เกี่ยวกับประเด็นนักการเมืองเป็นสิ่งที่ท่านผู้นำควรฟังและนำไปคิดเป็นอย่างยิ่ง ต้องนิยามคำว่านักการเมืองที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมให้ชัดเจนก่อนว่าคืออะไร และต้องยอมรับความเป็นจริงในสังคมไทยว่า การเลือกตั้งมันมีโอกาสที่เจ้าพ่อ มาเฟีย จะหลุดรอดเข้ามาเป็นส.ส.หรือส.ว. แต่ก็คงจะเป็นส่วนหนึ่ง ซึ่งต้องถูกควบคุมด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญ
การเลือกตั้งครั้งหน้าชัดเจนอยู่แล้วว่า แนวโน้มรัฐบาลคงจะเป็นกลุ่มขั้วอำนาจปัจจุบัน เพราะถูกออกแบบไว้แล้ว ดังนั้น จึงสามารถจัดการกับกลุ่มนักการเมืองที่ท่านผู้นำเรียกว่า มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วยกฎหมายได้หากเขามีการกระทำผิด จริงๆ แล้วคนที่อยู่ในอำนาจที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมไม่ได้มีแต่นักการเมือง ทหารหรือตำรวจก็มี แต่ทั้งหมดต้องว่ากันตามกฎหมาย
ยิ่งเป็นกฎหมายที่เขียนโดยองคาพยพของคณะรัฐประหารคสช. จึงมองไม่เห็นความจำเป็นว่าท่านผู้นำจะต้องกลัวอะไร ส่วนเรื่องเลื่อนการเลือกตั้งนั้นเชื่อว่านักการเมืองคงไม่ได้อินังขังขอบอะไรอยู่แล้ว อย่างที่รู้กัน คสช.ก็ได้ออกแบบรัฐธรรมนูญรองรับการต่อท่ออำนาจของตนเองไว้หมดแล้ว ดังนั้น เลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นมันจึงเป็นแค่พิธีกรรมทำให้เป็นว่าเป็นประชาธิปไตยเท่านั้น