สังคมข่าวหุ้น

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,561.66 จุด ปรับลดลง 6.91 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5 หมื่นล้านบาท * เวลาเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน เผลอแป๊บเดียวก้าวเดินเข้าสู่ช่วงกลางปี 60 กันแล้ว * ผ่านมาตลอด 5 เดือนดัชนีพี่ SET แทบไม่ได้กระดิกไปไหนเลย จุดสูงสุดของดัชนีปีนี้ยังคงอยู่ที่ 1,600 จุด และได้เห็นกันครั้งสุดท้ายก็โน่นประมาณ ม.ค.ที่ผ่านมา


สังคมข่าวหุ้น : นิวส์เวฟ

ตลาดหุ้นไทยล่าสุดปิดการซื้อขายที่ระดับ 1,561.66 จุด ปรับลดลง 6.91 จุด พ่วงด้วยมูลค่าการซื้อขายรวม 5 หมื่นล้านบาท * เวลาเดินทางผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียเหลือเกิน เผลอแป๊บเดียวก้าวเดินเข้าสู่ช่วงกลางปี 60 กันแล้ว * ผ่านมาตลอด 5 เดือนดัชนีพี่ SET แทบไม่ได้กระดิกไปไหนเลย จุดสูงสุดของดัชนีปีนี้ยังคงอยู่ที่ 1,600 จุด และได้เห็นกันครั้งสุดท้ายก็โน่นประมาณ ม.ค.ที่ผ่านมา

* ดังนั้น นิวส์เวฟถึงย้ำกับทางนักลงทุนเสมอว่า ควรพยายามมุ่งเน้นไปที่บริษัทมีปัจจัยบวกรองรับเสมอ * เพราะต่อให้ภาวะตลาดไม่ดี พื้นฐานหุ้นจะยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนราคาได้ และเมื่อยามภาวะตลาดดีก็เท่ากับมีปัจจัยบวกอีกเด้งเข้ามาช่วยหนุน * เริ่มกันด้วยหุ้นแรกวันนี้ ขอติ๊กเลือกหุ้นกลุ่มอิเล็กทรอนิกส์อย่าง HANA * เนื่องจากเป็นหุ้นเด่นอีกรายที่ทำเซอร์ไพรส์กันตั้งแต่งบไตรมาสแรกแล้ว

* แต่จากนี้ไปจะมีโอกาสวิ่งได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอีก เพราะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นที่โกยออเดอร์งานแน่น * แถมล่าสุดโบรกฯ กลับมาจากการประชุมร่วมกับทางบริษัท ยังอัพเกรดคำแนะนำเป็น “ซื้อ” ขานรับพื้นฐานแกร่ง * โดยไฮไลต์สำคัญยิ่งกว่านั้นคือการอัพราคาเป้าหมายขึ้นอีกประมาณ 10 บาท (จากฐานเดิม) * ส่งผลให้ราคาเป้าหมายใหม่พุ่งไปอยู่ที่ 58 บาทเลยทีเดียว

* นอกจากนี้ หุ้นหัวแถวในกลุ่มอิเล็กฯ ด้วยกันไม่ว่าจะเป็น KCE หรือ DELTA ต่างก็เหลืออัพไซด์น้อยเต็มที จึงมีแนวโน้มสูงไม่เบา ที่เม็ดเงินจะโยกย้ายเข้ามาอยู่ที่ HANA แทน และหนุนให้ราคาเพิ่มขึ้นอีก * ส่วนปันผลก็จ่ายหนักตามสไตล์ HANA ดิวิเดนด์ยีลด์ปีนี้ยืนพื้นขั้นต่ำระดับ 5% ดักเก็บเสียแต่เนิ่นๆ ต้องคุ้มแน่นอน

* หุ้น WHAUP เป็นอีกรายที่มาสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยประกาศแตกพาร์เป็น 1 บาท * จึงเท่ากับเป็นการประกาศแตกพาร์แบบรวดเร็วมาก เพราะเพิ่งเข้าเทรดกันเป็นทางการไปเมื่อเดือน เม.ย.นี้เอง * งานนี้ถ้าไม่มีปัญหาติดขัดอะไร การแตกพาร์จะถือเป็นปัจจัยบวกต่อหุ้นทันที * โดยแม้ในเชิงพื้นฐานแล้วไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงจากเดิม แต่ในเชิงจิตวิทยาราคาหุ้นหลังแตกพาร์ จะดูน่าจูงใจและส่งผลให้มีสภาพคล่องดียิ่งขึ้น

* หุ้น EARTH มีหลายเสียงถามไถ่กันมาว่า ช่วงนี้เอายังไงดีเข้าเก็บได้หรือยัง เห็นระยะหลังวิ่งหวือหวายั่วยวนใจให้เข้าลงทุนน่าดู * อันนี้คงต้องย้อนถามนักลงทุนกลับไปอีกทีว่า แล้วหวังจะเข้าซื้อหุ้น  EARTH ในแบบสไตล์ไหนกันล่ะ?? * ถ้าเล่นเก็งกำไรระสั้น อิงตามสไตล์เทคนิค จัดไปได้ไม่มีปัญหาติดขัด * แต่ถ้าในแง่ซื้อลงทุนอิงพื้นฐาน ขอแนะว่ารอดูเทรนด์กันอีกสักพักหน่อยดีกว่าไหม * สาเหตุหลักมาจากผลพวงของงบไตรมาสแรกที่แม้จะฟาดรายได้เติบโตมหาศาล จากออเดอร์งานลูกค้าจีนทะลัก

* แต่ปรากฏว่าสุดท้ายแล้วพลิกขาดทุนสุทธิหนัก เพราะมีขาดทุนอัตราแลกเปลี่ยนไปบานกว่า 300 ล้านบาท * ดังนั้น งบไตรมาส 2 จึงถือเป็นจุดชี้วัดสำคัญว่า EARTH สามารถแก้ปัญหานี้ได้แล้วหรือไม่ * โดยถ้าสุดท้ายแล้ว EARTH แก้ปัญหาได้จริงและงบไตรมาส 2 กลับมามีกำไร * รวมถึงหากราคาหุ้นในช่วงนั้นยังไม่แพงเกินไป จะเลือกเข้าซื้อก็ไม่สายเกินไปหรอก

* บางครั้งเล่นเพลย์เซฟไว้บ้างไม่ใช่เรื่องเสียหายอะไร เพราะการมีกำไรน้อยย่อมดีกว่าเสี่ยงขาดทุน * หุ้น EA วอลุ่มหนาแน่นกว่า 500 ล้านบาท พร้อมกับดันให้ราคาหุ้นในกระดานช่วงเมื่อวานวิ่งเหนือ 30 บาทได้พักใหญ่ * งานนี้ ท่าทางต้องมีข่าวดีซุกซ่อนไว้แน่ โดยเฉพาะประเด็นสำคัญที่หลายคนกำลังเฝ้ารอ คือ กรณีโรงไฟฟ้าพลังงานลมอีก 90 MW ที่จ่อคิวรอ COD ภายในเร็วๆ นี้

* ถ้าตามกำหนดการแล้วเห็นว่า ภายในช่วงเดือน มิ.ย.นี้ จะสามารถ COD ได้ พร้อมกับเริ่มบุ๊ครายได้-กำไรเข้างบไตรมาส 2 ทันที * ที่สำคัญในวันนี้ทางผู้บริหาร EA ยังมีกำหนดไปงาน Opportunity Day ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ * ดังนั้น หากมีการเปิดเผยความคืบหน้าออกมาย่อมส่งผลบวกต่อราคาไม่เบาแน่ สำหรับคนที่มีหุ้น EA ในมืออยู่แล้ว ถือยาวกันต่อไปรอรับข่าวดีได้เลย *

Back to top button