ลากทุบ..ลากทุบ

*ก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศการลงทุน “โมนิก้า” ขออารัมภบทตามสไตล์ผู้หญิง “ปากมาก..รู้มาก..เรื่องมาก” เพื่อบลิ้วอารมณ์ให้นักเล่นได้รู้ว่า งานนี้ไม่มีอะไรที่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ทุกอย่างต้องแลกมาด้วยไหวพริบในการซื้อขายหุ้น แถมไม่มีสูตรสำเร็จในการลงทุนให้ทุกคนได้เรียนทางลัด เพราะผู้เล่นทุกคนต้องจ่ายค่าประสบการณ์ด้วยตนเองทั้งนั้นพะยะค่ะ


เจาะกระดานหุ้น : โมนิก้าและทีมงาน

 

*ก่อนจะเข้าสู่บรรยากาศการลงทุน “โมนิก้า” ขออารัมภบทตามสไตล์ผู้หญิง “ปากมาก..รู้มาก..เรื่องมาก” เพื่อบลิ้วอารมณ์ให้นักเล่นได้รู้ว่า งานนี้ไม่มีอะไรที่ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปาก ทุกอย่างต้องแลกมาด้วยไหวพริบในการซื้อขายหุ้น แถมไม่มีสูตรสำเร็จในการลงทุนให้ทุกคนได้เรียนทางลัด เพราะผู้เล่นทุกคนต้องจ่ายค่าประสบการณ์ด้วยตนเองทั้งนั้นพะยะค่ะ

*ประเด็นดังกล่าวอาจทำให้หลายคนรู้สึกอึดอัดใจอย่างมาก แต่สำหรับเดี๊ยนกลับไม่มีอาการดังกล่าวอยู่ในสมอง เพราะอาการมันฟ้องตั้งแต่เที่ยวก่อนแล้วว่า กรอบการเล่นยังอยู่ในลักษณะแบบเดิมๆ บวกกับสูตรการเล่นเที่ยวนี้เป็นแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ”  จึงมักจะมีแรงเทขายถล่มออกมาในจังหวะที่ดัชนีแสดงอาการยึกๆ ยักๆ หลังเห็นว่า ผู้เล่นส่วนใหญ่ไม่พร้อมจะตามกระแสน่ะสิ

*ลักษณะการเล่นแบบนี้ทำให้ “โมนิก้า” มีเกิดความข้องใจว่า การที่มูดี้ส์มองเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวอย่างช้าๆ  มันใช่หรือเปล่า? และรวมถึงประเทศไทยด้วยหรือเปล่า? เพราะสิ่งที่เดี๊ยนสัมผัสได้ในเที่ยวนี้คือ ตัวเลขกำไรของบริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็กยังไม่โอเค และที่น่าเป็นห่วงคือ หน้าฝนมาเยอะกว่าปกติแบบนี้ บิ้วด์ยอดขายกันได้หรือเปล่า? ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้ดัชนีขึ้นไปได้ไม่ไกลนะคะ

*ประกอบกับวานนี้ “โมนิก้า” เห็นกองทุนตัวแสบสาดหุ้นออกไป 1.61 พันล้านบาท ผสมโรงด้วยฝรั่งตาน้ำข้าวอีก 61 ล้านบาท ขณะที่ปอบผีฟ้ากับแมงเม่าช่วยกันรับของสุดตัว แต่ดัชนีก็ยังรูดลงมาปิดที่ 1,561.66 จุด ลบไป 6.91 จุด ด้วยมูลค่า 5 หมื่นล้านบาท เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดอีกครั้งว่า พฤติกรรมการเล่นหุ้นของนักลงทุนสถาบันยังเป็นลักษณะ “ลากหุ้น ทุบหุ้น” เจ้าค่ะ

*งานนี้เดี๊ยนฟันธงได้ทันทีว่า คนที่งานงอกคนแรกคงหนีไม่พ้น ADVANC หลังมีแรงเทขายออกมาตั้งแต่เช้าจรดเย็น จนลงมาปิดราคาต่ำสุดของวันที่ระดับ 173 บาท ลบไป 4 บาท หรือลงไป 2.30%  ด้วยมูลค่า 2.50 พันล้านบาท น่าจะเป็นผลมาจากการ take profit บวกด้วยกองทุนตัวแสบต้องการปรับพอร์ต หลังเห็นแนวโน้มของธุรกิจค่ายมือถือมีอาการไม่ค่อยดี วันนี้ถึงต้องโฟกัสไปที่แนวรับ 170 บาทจะเอาอยู่หรือเปล่า?

*เช่นเดียวกับในรายของ IVL ถูกเทขาย 2 วันติดๆ เท่ากับเป็นการย้ำหัวหมุดว่า แนวต้าน 38 บาทยังเป็นจุดปล่อยของเหมือนเหตุการณ์ 3 ครั้งที่ผ่านมา “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่วานนี้เห็นหุ้นลงมานอนแอ่งแม้งอยู่ที่ 36.75 บาท ลบไป 0.75 บาท หรือลงไป 2% ด้วยมูลค่า 1.69 พันล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนต้องมองย้อนกลับไปที่บริเวณแนวรับ 35 บาทยังใช้การได้ไหม?

*สถานการณ์ดังกล่าวคล้ายคลึงกับกรณีของ KBANK ซึ่งมีกรอบการเคลื่อนไหวอยู่ที่ระดับ 183-194 บาทเป็นเวลาเดือนครึ่ง มันเหมือนเป็นการส่งสัญญาณให้นักเล่นต้องรู้จักทำรอบ ไม่มีความจำเป็นต้องหวังอะไรที่เกิดตัว เพราะรูปแบบการเคลื่อนตัวยังเป็นลักษณะ W-Shape โดยจุดสูงสุดแต่ละรอบเริ่มต่ำลงเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการตอกย้ำว่า มีพวกนกรู้มากขึ้นเรื่อยๆ จึงชิงเทขายหุ้นก่อนจะเด้งขึ้นไปถึงกรอบด้านบน วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 187.50 บาท ลบไป 3 บาท  ด้วยมูลค่า 690 ล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ส่วนหุ้นที่มาเหนือเมฆอย่าง TKN ยังเป็นช็อตเด็ดกีฬามันที่เดิมพันสูง หลังเพื่อนพ้องที่ทำธุรกิจต่างบ่นเป็นเสียงเดียวกันว่า ยอดขายไม่ค่อยดี งวดนี้ขอแค่ประคองตัวไปก่อน เพราะจะไปขอแก้มือในไตรมาส 3 แต่หุ้นตัวนี้ดันขึ้นสวนกระแสขึ้นมาอย่างช้าๆ จนสุดท้ายปิดไปที่ระดับ 23 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 2.70% ด้วยมูลค่า 644 ล้านบาท  “โมนิก้า” ขอมองเป้าแค่ 24 บาทก็พอ หลังหุ้นยังเทรดอยู่บน P/E 39 เท่าน่ะสิ

*เม้าท์ถึงเรื่องโอเว่อร์รีแอ๊คขึ้นมาทั้งที พรายกระซิบก็เล่าเรื่องนินทาลับหลังให้ฟังว่า WHAUP กำลังถูกชาวสีม่วง..อุ๊ย..ชาวหุ้นบ่นเยอะแยะไปหมด เพราะเข้าตลาดหุ้นยังไม่ถึง 2 เดือนก็ดันทำเรื่องแตกพาร์ขึ้นมาแบบนี้ มันไม่แฟร์เอาเสียเลย! แถมยังส่งผลกระทบไปยังการทำหน้าที่ของ ตลาดหลักทรัพย์ฯ น่าจะมีเรื่อง 2 มาตรฐานเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะถ้ายังจำกันได้ขึ้นใจ ORI เคยโดนห้ามทำแบบนี้เหมือนกัน “โมนิก้า” ถึงมองว่า โลกของตลาดหุ้นอยู่ยากมากขึ้นทุกที ซึ่งเป็นผลมาจากผู้คุมกฎทำตัวเป็นไม้หลักปักขี้เหลน..จริงเท็จอย่างไร..ถามพวกขาใหญ่ที่เคยโดนแบบนี้กันเองนะจ๊ะ

*อีกช็อตที่ต่อเนื่องกันมาก็คือ ความยุ่งเหยิงของกลุ่มผู้บริหาร IFEC หลายทุกคนรู้ดีว่า ใครตีรวน..ใครเตะถ่วง..ใครเล่นตุกติก จนดูเหมือนจะไม่มีทางออกที่สวยงาม แต่ล่าสุดกลับกลายเป็นว่า “เฮียทวิช” ชวน “หมอวิชัย” ประกาศลาออกจากกรรมการเหมือนตนเอง เพื่อเซ็ทเกมใหม่แบบผู้บริหารมืออาชีพอย่างนี้ “โมนิก้า” เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือเป็นการเล่นตามเกมแบบแฟร์ๆ..งานนี้จึงเป็นการวัดว่า หมอมีความจริงใจในการแก้ปัญหาขนาดไหน? จับตาดูให้ดีนะคะ

Back to top button