เอาที่ถูกต้องหรือถูกใจ

คำถาม 4 ข้อของนายกรัฐมนตรี ถ้าจะให้ตอบตามตรง คงไม่ยากนักหรอก แต่ถ้าต้องตอบให้ถูกใจ ต้องขอบอกว่า ยากระดับโค-ตะ-ระ คือโคตรๆ เลย


ขี่พายุทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

คำถาม 4 ข้อของนายกรัฐมนตรี ถ้าจะให้ตอบตามตรง คงไม่ยากนักหรอก แต่ถ้าต้องตอบให้ถูกใจ ต้องขอบอกว่า ยากระดับโค-ตะ-ระ คือโคตรๆ เลย

ถามทำไม? ในเมื่อก็มีรัฐธรรมนูญที่ผ่านประชามติและก็มีกลไกจัดการกับนักการเมืองหรือพรรคการเมืองอันไม่พึงประสงค์สารพัด

ซึ่งก็มีทั้ง ปปง. ป.ป.ช. ศาลปกครอง ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปราบโกง ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง และอาวุธลับ ส.ว.แต่งตั้งล้วน 250 คนแล้ว จะไปปริวิตกกลัวอะไร?

ผลเสียกลับมามากกว่า คือความมั่นใจในโรดแมปการเลือกตั้งมันหายไปอีกแล้ว ต่างชาติก็ลังเล ตลาดหุ้นก็เกิดอาการวูบไปซะเฉยๆ ทั้งดัชนีก็ไม่เดินหน้าและวอลุ่ม เทรดก็จางไป

ไม่ถามซะยังดีกว่า

ในทุกปัญหา มันเป็นเหรียญ 2 ด้าน ต่างมุมมองให้เห็นเสมอแหละ ขึ้นกับว่าข้อสรุปหรือมุมมองนั้น มี “ข้อเท็จจริงแท้” รองรับแค่ไหน

กรณีบีโอไอหรือสำนักงานส่งเสริมการลงทุนแถลงผลงาน 3 ปี (ปี 57-59) ว่ามีการลงทุนเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านล้านบาทก็เหมือนกัน แต่พอไปดูไส้ในแล้วปรากฏว่าการลงทุนมันกลับลดลงมาทุกปี

คนที่มองละเอียดเรื่องนี้ก็คือคุณบรรยง พงษ์พานิช อดีตซุปเปอร์บอร์ดพบว่า ถ้าคิดรวบ 3 ปีมันก็ใช่ (ซึ่งยิ่งลักษณ์อยู่ถึง พ.ค. 57) แต่ถ้าคิดรายปีพบว่ามันหดตัวลงทุกปี ยิ่งปี 58 มันหดตัวลงมาถึง 17% เลย

ฉะนั้นคุณบรรยงค์ท่านตั้งปุจฉาว่า นี่มันแถลงปัญหาหรือแถลงผลงานกันแน่ แทนที่จะยินดีปรีดาก็เลยต้องเอาเท้าก่ายหน้าผากตามท่านว่าไปโน่นเลย

ปัญหาหนึ่งจะมองอย่างถูกต้องหรือถูกใจกันดีล่ะ

นี่ก็อีกปัญหาหนึ่งเหมือนกัน คือการลงทะเบียนคนจน ซึ่งปีที่แล้ว (2559) มีประชาชนมาลงทะเบียนแค่ 8 ล้านคนเอง แต่ปีนี้แห่แหนกันมาลงถึง 14 ล้านคน

โฆษกไก่อูท่านก็แถลงตามหน้าที่ของท่านไปว่า เป็นผลจากความเชื่อมั่นในนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของรัฐบาล จึงมีคนจนมาลงทะเบียนเพิ่มขึ้นตั้ง 6 ล้านคน

แต่อีกมุมมองหนึ่งมันก็สามารถจะคิดได้เหมือนกันว่า เศรษฐกิจไทยค่อยๆ ดีขึ้นแล้วจริงหรือ

ถ้าดีขึ้นจริง ทำไมคนจนถึงเพิ่มขึ้นตั้ง 75%  และถ้าคิดเทียบเป็นสัดส่วนประชากร ก็จะมีคนจนประเทศนี้สูงถึง 21% ของประชากรไทย 65 ล้านคน

มันไม่ใช่ 1 ใน 100 นะครับ แต่นี่มัน 21 ใน 100 เป็นคนจนของประเทศนี้ มันเป็นเรื่องควรจะดีใจหรือเสียใจกันเนี่ย

ยิ่งมาดูหลักเกณฑ์คนจนแล้วก็ยิ่งสมเพชรใจ

ต้องมีสัญชาติไทยอายุ 18 ปีขึ้นไป, ว่างงานหรือมีรายได้ในปี 2559 ไม่เกิน 1 แสนบาท, มีทรัพย์สินเช่นเงินฝากธนาคาร สลากออมสิน พันธบัตร และตราสารหนี้รวมไม่เกิน 1 แสนบาท และต้องไม่เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ในอสังหาริมทรัพย์

กรณียกเว้นก็คือ บ้านหรือทาวน์เฮาส์ไม่เกิน 25 ตร.ว. ที่อยู่อาศัยและใช้ประโยชน์ในที่ดิน กรณีเพื่อการเกษตรต้องไม่เกิน 10 ไร่หรือการอื่นที่ไม่ใช่เกษตรต้องไม่เกิน 1ไร่ และกรณีเป็นที่ดิน หากเพื่อการเกษตรให้ไม่เกิน 10 ไร่ เพื่อการอื่นไม่เกิน 1 ไร่

นี่แหละครับ โฉมหน้าใหม่คนจนประเทศนี้ ซึ่งพุ่งพรวดขึ้นมาในปีเดียวถึง 75% และครองสัดส่วนเป็นคนจนของประเทศอยู่ถึงร้อยละ 21

อยากได้คำตอบแบบไหนกันล่ะ ถูกใจให้พอใจ หรือถูกต้องให้รู้ปัญหา เพื่อคิดหาทางแก้ไข

 

Back to top button