พรรคแมลงฉลาด?

ทายท้าวิชามาร  : ใบตองแห้ง

 

“…พรรคประชาธิปัตย์ต้องเป็นเอกภาพมากกว่านี้ ปัญหาภายในกับกปปส.ต้องไม่ทะเลาะกันเอง รวมถึงต้องไม่ทะเลาะกับทหาร ต้องเเสวงจุดร่วมสงวนจุดต่างร่วมกันต่อสู้กับระบอบทักษิณให้ได้ ถ้า 3 ฝ่ายแตกคอกันเมื่อไหร่จะไม่มีใครคัดง้างเขาได้…”

สปท.วันชัย สอนศิริ ออกมาชี้แนะพรรคประชาธิปัตย์ให้รวมกันเป็นหนึ่ง อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นำพรรคสู้ในสภา สุเทพ เทือกสุบรรณ สู้นอกสภา จับมือกับ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้ดูแลเรื่องความมั่นคง เพื่อต่อสู้ระบอบทักษิณในระยะเปลี่ยนผ่าน

แม้ทนายวันชัยไม่ใช่คน ปชป. แต่คำพูดที่เรียกเสียงฮาลั่น ก็ดูเหมือนสะท้อนทิศทางพรรคประชาธิปัตย์ โดยคนในพรรคไม่ยักคัดค้าน

หลายวันที่ผ่านมา นับตั้งแต่ 8 กปปส.กลับเข้าพรรค จูบปากหัวหน้ามาร์ค (ที่จะรับจ็อบเป็นคอลัมนิสต์) นอกจากรับปากไม่เลื่อยขาเก้าอี้ ประเด็นที่ประกาศร่วมกันคือ “ต้านระบอบทักษิณ” ขณะที่ลุงกำนันไม่คืนคำ หนุนลุงตู่เป็นนายกฯ ต่อ แล้วลูกรักลูกเลี้ยงอย่างเอกณัฐ พร้อมพันธุ์ ก็โพสต์เฟซบุ๊คตอกย้ำ ยังหนุนลุงตู่ ขอบคุณลุงตู่ ขอบคุณลุงกำนัน ขอบคุณหัวหน้ามาร์ค (ที่ยืนยันต้านระบอบทักษิณ)

เอ๊ะมันยังไงกัน อยากต้านระบอบทักษิณไม่มีใครว่าหรอก ยังไงๆ ปชป.ก็เป็นคู่แข่งพรรคเพื่อไทย แต่คุณจะเป็นพรรคการเมืองหรือพรรคทหาร? ถึงเวลาหาเสียงคุณจะเป็นตัวของตัวเอง หรือจะทำให้ชาวบ้านรู้สึกว่าลงเลือกตั้งเพื่อไปเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ที่ทหารเป็นนายกฯ คนนอก อย่างที่มัลลิกา บุญมีตระกูล ตีปีกว่ายังไงๆ ปชป.ก็ได้เป็นรัฐบาลเพราะเป็นที่ไว้วางใจที่สุด

ยังจำได้ไหม ปีสองปีที่ผ่านมา ปชป.อุตส่าห์กันตัวเองออกห่างจาก คสช. ขุนพลอย่าง นิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ, วิลาศ จันทรพิทักษ์, สามารถ ราชพลสิทธิ์ คอยวิพากษ์วิจารณ์เรื่องหลักการประชาธิปไตย เรื่องความไม่ชอบมาพากลในการบริหารงบประมาณ แล้วอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, องอาจ คล้ามไพบูลย์ รวมทั้งชวน หลีกภัย ก็ประกาศไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ กปปส.หนุนเต็มเหนี่ยว

แต่มาวันนี้ พอ กปปส.กลับเข้าพรรค กลับชิงการนำ ชูธงหนุนรัฐบาล ออกอาการให้คนคาดเดาว่าหลังเลือกตั้ง ปชป.อาจยกมือหนุนนายกฯ คนนอกที่มาจากทหาร!

ท่าทีอย่างนี้ ระบอบทักกี้หัวร่อกลิ้งเลยครับ เพราะใครที่ไม่ชอบระบอบทหาร เบื่อรัฐบาล เซ็งปัญหาต่างๆ ก็ตัดใจได้ทันทีว่าไม่ต้องเลือก ปชป.

พูดอย่างนี้ไม่ใช่เชื่อน้ำมนต์ประชาธิปัตย์ ว่าสามารถกลับมาเป็นประชาธิปไตย ไม่เอาทหาร แต่วิธีเล่นการเมืองมี 2 อย่างคือฉลาดกับโง่ ถ้าฉลาดก็ยังไม่ต้องเอาคอไปผูกกับใคร ทำหน้าซื่อตาใส เราพร้อมเป็นทางเลือกใหม่ เราไม่เอาระบอบทักษิณ แต่เราไม่เลื่อมใสเผด็จการ บลาๆๆ  (Blah Blah Blah) ช่วงชิงคะแนนในการเลือกตั้งจากคนที่ไม่เอาเพื่อไทยแต่ไม่ชอบ  คสช. หรือคนที่กลัวว่าเพื่อไทยชนะเลือกตั้งแล้วบ้านเมืองจะไม่สงบ กลัวว่าทหารเป็นรัฐบาลอีกบ้านเมืองก็จะแย่ ฯลฯ หลังเลือกตั้งค่อยแปรผันตามสถานการณ์ ถ้ากระแสทหารยังแรง ไม่ต้องห่วง ยังไงก็ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาล ถ้ากระแสต้านทหารมาแรง อ๊ะ ยิ่งเข้าทาง ทหารเป็นนายกฯ ไม่ได้แล้วจะเหลือใครเป็นที่ไว้วางใจ

การเมืองไทยเล่นหลายหน้าอย่างนี้ไม่ใช่หรือ ทำไมต้องทำตัวเป็นพรรคทหารตั้งแต่ไก่โห่ ก็ไม่อยากเชื่อว่า ปชป.โง่ คงมีเงื่อนไขบางอย่างที่ต้องตามดูต่อไป