นอยด์นิดๆ
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตลอดทั้งวันเพื่อสังเกตอาการของดัชนี หลังจากต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็พบว่า นักเล่นส่วนใหญ่พยายามระบายของออกจากพอร์ตมากกว่าช้อนเก็บของเข้าในพอร์ต ส่งผลให้การเคลื่อนตัวของดัชนีออกไปในทางไซด์เวย์ เพื่อเลือกทางเดินระหว่าง “ขึ้น” กับ “ลง” นะจะบอกให้
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ต้องนั่งเฝ้าหน้าจอตลอดทั้งวันเพื่อสังเกตอาการของดัชนี หลังจากต้องเผชิญกับปัจจัยลบที่ถาโถมเข้ามาอย่างต่อเนื่อง จนในที่สุดก็พบว่า นักเล่นส่วนใหญ่พยายามระบายของออกจากพอร์ตมากกว่าช้อนเก็บของเข้าในพอร์ต ส่งผลให้การเคลื่อนตัวของดัชนีออกไปในทางไซด์เวย์ เพื่อเลือกทางเดินระหว่าง “ขึ้น” กับ “ลง” นะจะบอกให้
*ส่วนแรงเทขายที่ไหลกลับเข้ามาในช่วงท้ายตลาดหุ้น “โมนิก้า” มองเป็นการซื้อกลับแบบไม่เต็มใจ ซึ่งเห็นได้จากยอดซื้อสุทธิของกองทุนตัวแสบที่โผล่มาแค่ 86 ล้านบาท ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวซัดเข้าไปแค่ 18 ล้านบาท ที่เหลือเป็นของปอบผีฟ้า 184 ล้านบาท โดยอานิสงส์ดังกล่าวทำให้ดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,568.95 จุด บวกไป 2.10 จุด ด้วยมูลค่า 4.15 หมื่นล้านบาทไงล่ะค่ะ
*ประเด็นดังกล่าวทำให้เดี๊ยนมองบรรยากาศการลงทุนยังเป็นลักษณะ “เดี๋ยวดี เดี๋ยวร้าย” โดยหุ้นบลูชิพส่วนใหญ่ยังติดอยู่ในกรอบเดิมๆ แต่ก็มีบลูชิพบางตัวที่สามารถเดินหน้าทำนิวไฮได้เป็นว่าเล่น “โมนิก้า” ถึงต้องการให้ผู้เล่นโฟกัสไปยังหุ้นรายตัวที่มี “ข่าวดี ข่าวร้าย” เพื่อจะได้ปรับกระบวนท่าในการลงทุนได้ทันท่วงที หลังข่าวสารต่างๆ พรั่งพรูออกมาไม่หยุดหย่อนน่ะสิ
*เหมือนกับข่าวร้ายที่เกิดขึ้นกับ DTAC ตั้งแต่เช้าตรู่ของวานนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของความตั้งใจทุบหุ้นมากกว่าประเด็นอื่นๆ เพราะสิ่งที่ถูกถ่ายทอดออกมาในสังคมคนเล่นหุ้นเป็นการพูดความจริงครึ่งเดียว ส่งผลให้ผู้คนที่รับข่าวสารดังกล่าวเกิดอาการตื่นตระหนก จึงกระหน่ำเทขายหุ้นตั้งแต่เปิดตลาด จนลงไปทำจุดต่ำสุดที่ 44.50 บาท ก่อนที่ความจริงจะปรากฏว่า ในทางเทคนิคสามารถให้ทีโอทีทำเรื่องขอใช้เสียงควบคู่กับดาต้าบนคลื่น 2300 MHz ได้ในทันที หุ้นเลยเด้งขึ้นมาปิดที่ 46 บาท ลบไป 0.75 บาท ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาทไงล่ะค่ะ
*ส่วนในรายของ PTTEP แม้จะมีการออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจน แต่ดูเหมือนความวิตกกังวลจะไม่ทุเลาลงเลย แรงซื้อที่เข้ามาดันหุ้นจนขึ้นไปถึง 87.50 บาท จู่ๆ ก็แปรเปลี่ยนเป็นแรงขาย จนหุ้นทรุดลงมาปิดที่ 86.25 บาท ลบไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 1.60 พันล้านบาท มันทำให้ “โมนิก้า” นึกย้อนไปถึงข่าวฟ้องร้องที่เกิดขึ้นในประเทศอินโดนีเซีย ต่อเนื่องจนมาถึงการยกเลิกการขุดเจาะน้ำมันบนที่ดิน ส.ป.ก. ซึ่งนำไปสู่คำถามที่ว่า ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้นอีก? ย่อมเป็นตัวแปรที่ทำให้นักลงทุนสถาบันสาดหุ้นทิ้งมากกว่าเก็บหุ้นเจ้าค่ะ
*สำหรับรายที่แปลกประหลาดมากสุดกลายเป็นเจ้าจำปี THAI จู่ๆ มีแรงซื้อเข้ามาไล่ราคาหุ้นอย่างเมามัน พร้อมกับมีการเปิดประเด็นใหม่ว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในประเทศกลุ่มอาหรับ คือโอกาสใหม่ของสายการบินแห่งนี้ “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า มโนเกินไป! เพราะการขอเปิดเส้นทางเพิ่มไม่ใช่เรื่องที่ทำได้ง่ายๆ ส่งผลให้การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 20 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 1.75 พันล้านบาท น่าจะเข้าข่ายโอเวอร์รีแอ็กต์!..แถมมีเรื่องตลกหกเก้าสุดๆ เมื่อผู้สมัครชิงดีดีจำนวน 4 คนสอบตกคุณสมบัติทั้งหมดแบบนี้..โลกนี้อยู่ยากขึ้นทุกทีแล้วนะคะ
*หมดจากเรื่องน่าเบื่อ วกกลับมาที่เรื่องดีกันบ้างดีกว่า เพราะทันทีที่ ครม.เปิดไฟเขียวผ่านตลอด พร้อมกับเปิดช่องให้บริษัทลูกของรัฐวิสาหกิจถือหุ้นแทนกระทรวงการคลังได้ แม่น้ำทุกสายก็ไหลมายัง PTTGC ซึ่งกำลังจะมาขึ้นเวทีสัมมนาของหนังสือพิมพ์ “ข่าวหุ้น” ในวันที่ 17 มิ.ย. ที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ในหัวข้อ “หุ้นแกร่ง โตเหนือตลาด” ในทันที เพราะเป็นที่ทราบกันโดยพฤตินัยว่า นี่คือตัวจริงของ ก.คลัง..งานนี้ใครอยากรู้รายละเอียดเป็นไง ต้องมางานถึงจะรู้เจ้าค่ะ
*ส่วนอีกคนที่สบายใจกันสุดๆ ในเที่ยวนี้กลายเป็น TRC หลังจากปัญหาเรื่องตัวตายตัวแทนลากยาวมาระยะหนึ่ง ในที่สุดก็ได้เห็นรูปร่างหน้าตาคนที่จะเข้ามาเพิ่มทุนเพื่อให้โครงการเหมืองโปแตชเดินหน้าเสียที สปอร์ตไลต์ทุกดวงถึงส่องไปยังหุ้นตัวนี้ในทันที แถมราคาหุ้นก็ตอบรับเรื่องดังกล่าวด้วยการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.35 บาท บวกไป 0.05 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่า 133 ล้านบาทแบบนี้..เคาะขวายาวๆ เลยนะคะ
*อีกหนึ่งรายที่น่าจับจ้องไม่แพ้กัน “โมนิก้า” ขอซูมเข้าไปดูที่หุ้น SQ หลังได้โชค 2 ชั้นอย่างเป็นทางการ โดยชั้นแรกเป็นเรื่องของกำไรนิวไฮ ตัวเลขโครงการต่างๆ เป็นไปตามแผน ส่วนชั้นที่สองก็มาจากความคืบหน้าของเหมืองโปแตชของ “พี่สมัย” แถมคนในวงการเขาก็รู้ดีว่า คู่นี้เขาจับมือกันมาตั้งแต่เริ่มต้น ซึ่งเหมือนเป็นการันตีหุ้นตัวนี้แบบอ้อมๆ ว่า 1-2 ปีนี้โตระเบิดระเบ้อแน่นอน วานนี้หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิด 5.90 บาท บวกไป 0.10 บาทไงล่ะจ๊ะ
*สำหรับรายที่น่าเป็นห่วงกลายเป็น SUPER ถูกถล่มเทขายเป็นเวลา 11 วันติด จนหุ้นรูดลงมาปิดที่ 1.52 บาท ลบไป 0.08 บาท หรือลงไป 5% ด้วยมูลค่า 1.43 พันล้านบาท แถมจ่อหลุดแนวรับสำคัญที่ 1.50 บาท “โมนิก้า” มองเป็นเกมโหดสำหรับพวกแมงเม่าปีกอ่อน แต่สำหรับพวกเก๋ามาตั้งแต่รุ่นพ่อ อาจมองเรื่องนี้ค่อนข้างชิวๆ วันนี้ถึงขอเตือนว่า ไม่แน่จริง..อย่าเผือก..อิอิอิ