ลุ้นไม่ขึ้น

   *อาการแกว่งไปแกว่งมาของดัชนีในยามนี้ทำให้รู้ว่า ทุกอย่างยังไม่นิ่ง นักเล่นยังไม่พร้อม สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง แถมแรงซื้อหดหายไปเป็นจำนวนมาก ดัชนีถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,566.65 จุด ลบไป 3.63 จุด ด้วยมูลค่า 4.50 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นต้องคิดหนักพอสมควร เพราะองค์ประกอบหลายอย่างไม่เป็นเหมือนกับที่ประเมินไว้ตั้งแต่ต้นน่ะสิ


เจาะกระดานหุ้น :โมนิก้าและทีมงาน

 

*อาการแกว่งไปแกว่งมาของดัชนีในยามนี้ทำให้รู้ว่า ทุกอย่างยังไม่นิ่ง นักเล่นยังไม่พร้อม สถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง แถมแรงซื้อหดหายไปเป็นจำนวนมาก ดัชนีถึงทรุดตัวลงมาปิดที่ 1,566.65 จุด ลบไป 3.63 จุด ด้วยมูลค่า 4.50 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ทำให้นักเล่นต้องคิดหนักพอสมควร เพราะองค์ประกอบหลายอย่างไม่เป็นเหมือนกับที่ประเมินไว้ตั้งแต่ต้นน่ะสิ

*โดยเฉพาะมุมของปัจจัยบวกใหม่ๆ ที่เข้ามาเสริมสร้างความมั่นใจในการลงทุน มันเป็นข้อมูลที่แทบหาไม่เจอเลยในตอนนี้ จึงเป็นชนวนเหตุที่ทำให้แรงเทขายพรั่งพรูออกมาอีกรอบ เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า วันนี้ยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างมีนัยสำคัญ และอย่าคาดหวังว่า หุ้นดาวเด่นจะทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่าเดิมนะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้อย่าได้แปลกใจที่ข่าวสารในตลาดหุ้นไม่พัฒนาไปไหนไกล ทุกอย่างยังอยู่บนเรื่อง เขาว่ามา..คนนั้นว่ามา ไม่ได้มีกระบวนการ “คิด วิเคราะห์ แยกแยะ” เพื่อทำให้เหล่านักเล่นได้เห็นภาพเหตุการณ์ต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร? ส่งผลให้ตลาดหุ้นไทยอยู่ในลักษณะบูดๆ เบี้ยวๆ และดูเหมือนทุกอย่างจะดูดีขึ้น พอเอาเข้าจริงกลับไม่มีอะไรเป็นชิ้นเป็นอันเลยสักอย่างนะจ๊ะ

*เหมือนกับข่าวที่เกิดขึ้นกับผู้บริหาร GL ถูกทางการญี่ปุ่นสั่งปรับตั้งแต่ปี 56 ต่อจากนั้นก็มีการนัดสืบพยานกันมาเรื่อยๆ จนช่วงเดือน  14  มี.ค. 60  ที่ผ่านมา ผู้บริหารรายดังกล่าวก็ออกมาแถอีกครั้งว่า ไม่เคยถูกปรับ? ล่าสุดออกมาแถต่อไปว่า 11 เม.ย. 60  คำสั่งปรับดังกล่าวมิได้เป็นคำสั่งของศาล ไม่เพียงเท่านั้นยังออกมาแถอีกรอบหนึ่งว่า เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับตัวบริษัท  ข้อมูลเหล่านี้เหมือนเป็นการร้อยเรียงให้คนในสังคมได้รู้ว่า  การโกหกแบบหน้าด้านๆ ยังมีให้เห็นอยู่เหมือนกัน

*แย่ไปกว่านั้นก็คือ ดันมีพวกสื่อบ้องแบ๊วที่หวังเศษเนื้อข้างเขียง ออกตัวแรงแซงทางโค้งในลักษณะช่วยปกป้องผู้บริหารสีเทาแบบนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องหลักการในการนำเสนอข่าวเป็นแบบพวกหัวสี่เหลี่ยม ถึงไม่เคยรู้อะไร “ถูก” หรือ “ผิด” แต่เผอิญคนอย่างอีฉันเป็นพวกชนดะ จึงพร้อมแฉทุกซอกทุกมุมที่ไปขุดคุ้ยมา ส่วนราคาหุ้นในกระดานที่พุ่งขึ้นไปถึง 20.90 บาท สุดท้ายอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่ 20.10 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 499 ล้านบาท มันสะท้อนให้เห็นว่า ไม่มีคนตามกระแสนะจะบอกให้

*ส่วนหุ้นที่โดนทิ้งทุกไม้ “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่ EARTH หลังสังคมเกิดอาการตื่นตระหนกกับข่าวหนี้สินปูดออกมาเรื่อยๆ จนนำไปสู่การกระหน่ำทิ้งแบบไม่เลี้ยง หุ้นถึงรูดลงมาปิดที่ 1.20 บาท ลบไป 0.25 บาท หรือลงไป 17.25% ด้วยมูลค่า 1.96 พันล้านบาท มันเป็นสถานการณ์ที่ผู้คนส่วนใหญ่ค่อนข้างเห็นใจก็จริง แต่ฝั่งผู้บริหารก็ต้องออกมาชี้แจงเรื่องหนี้สินให้ชัดเจนเช่นกัน ไม่เช่นนั้นเรื่องราวจะลุกลามใหญ่โตมากไปกว่านี้นะคะ

*ผลกระทบดังกล่าวยังชิ่งไปถึงแบงก์เจ้าหนี้  KTB แบบเต็มๆ เพราะเป็นคนที่ปล่อยกู้ให้มากถึง 1.40 หมื่นล้านบาท ซึ่งหลายคนกำลังกังวลกันว่า หากหนี้ก้อนนี้ไม่ได้รับการแก้ไขโดยเร็ววัน สถานการณ์ของแบงก์แห่งนี้จะแย่ลงไปอีก และประเด็นนี้ก็ฉุดหุ้นลงมายืนอยู่ที่ 18.80 บาท ลบไป 0.30 ด้วยมูลค่า 1.36 พันล้านบาทแบบนี้ อย่าเอามือไปรับเผือกร้อนดีกว่านะจ๊ะ

*ขนาดหุ้นดาวเด่นอย่าง TISCO ยังโดนถล่มเทขายอย่างต่อเนื่อง จนสุดท้ายลงมายืนอยู่ที่ 75.25 บาท ลบไป 2 บาท ด้วยมูลค่า 978 ล้านบาท กลายเป็นตัวอย่างที่บอกให้รู้ว่า เมื่อภาพใหญ่ไม่เอื้อ ต่อให้แจ๋วแค่ไหน ก็ไปไม่เป็น แถมก่อนหน้านี้มีแต่คนเม้าท์มอยว่า ของดี พอผ่านมาสักระยะกลายเป็นหุ้นที่มีสินเชื่อหดตัวมากสุด เขาถึงบอกว่า โลกของการลงทุน ไม่มีอะไรแน่นอนไงล่ะค่ะ

*ส่วนที่แรงแบบไม่เกรงใจใครทั้งสิ้นต้องยกให้ MEGA ทะยานขึ้นต่อเนื่องตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยที่ระดับ 30.75 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 555 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการกลับมาครั้งสำคัญของหุ้นตัวนี้ เพราะเมื่อย้อนกลับไปเมื่อ 1 สัปดาห์ก่อน หุ้นยังย่ำต๊อกต๋อยที่บริเวณ 25 บาท แถมค่า P/E ขึ้นไปถึง 28.50 เท่า มันน่าจะมีอะไรเซอร์ไพรส์ใช่ไหมจ๊ะ

*หากชอบเรื่องตื่นเต้นเร้าใจ “โมนิก้า” ต้องย้อนกลับไปดู TFG เป็นตัวเลือกแรกของการเล่นในจังหวะ “กล้าได้กล้าเสีย” หลังราคาหุ้นทะยานขึ้นมาปิดที่ 6.35 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่า 85 ล้านบาท แถมเป็นการปิดตรงแนวต้านแบบเหมาะเจาะพอดีแบบนี้ มันตีความได้สองอย่างคือ “ทะลุแล้วไปต่อ” กับ “ทรุดตัวแล้วกลับฐาน” วันนี้ถึงต้องจับตาดูให้ดีนะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ THANA ทะยานขึ้นแรงแล้วถูกเทขาย ต่อจากนั้นทะยานขึ้นมาใหม่ แล้วถูกเทขายอีก โดยฐานแนวรับใหม่สูงขึ้นเรื่อยๆ  “โมนิก้า” ถึงมองเป็นจังหวะของการเล่นรอบของพวกนกรู้ เพราะก่อนหน้านี้เคยดันขึ้นไปถึง  4 บาท  ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 3.42 บาท บวกไป 0.26 บาท หรือขึ้นไป 8.20% ด้วยมูลค่า 300 ล้านบาท มันเป็นเรื่องที่น่ารักน่าลุ้นดีเหลือเกินนะจะบอกให้

 

Back to top button