ม.44

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยทะยานขึ้นอย่างร้อนแรง โดยไม่ต้องไปสรรหาคำอธิบายต่างๆ ให้เสียเวลา เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่เร้าให้กองทุนตัวแสบกระโจนเข้าใส่หุ้นไม่ยั้ง ดัชนีถึงพุ่งพรวดพราดขึ้นมาปิดที่ 1,572.36 จุด บวกไป 8.55 จุด ด้วยมูลค่า 4.20 หมื่นล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้ “โมนิก้า” มั่นใจมากขึ้นว่า กรอบการเล่นในเที่ยวนี้ยังอยู่ในระดับ 1,550-1,580 จุดนะจะบอกให้

*สิ่งที่ต้องคิดถัดมาในเที่ยวนี้คือ การกลับเข้ามาซื้อหุ้นอย่างหนักหน่วงของพวกกองทุนตัวแสบทำให้รู้ว่า นักเล่นเหล่านี้ยังเล่นตามข่าวที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน แถมรูปแบบที่เล่นยังเป็นการทำรอบสั้นๆ เหมือนเช่นที่ผ่านมา “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นจับตากรอบการเคลื่อนตัวด้านบนเป็นพิเศษ เพราะเป็นจุดที่นักเล่นเทขายทำกำไรครั้งแล้วครั้งเล่า จึงเชื่อว่า ครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกันหรอกค่ะ

*เช่นเดียวกับการที่รัฐบาลงัด ม.44 มาใช้แก้ปัญหาที่ติดขัดในเที่ยวนี้ ก็คงไม่ต่างอะไรไปจากยาสารพัดนึก ซึ่งช่วยจัดการกับโรคภัยต่างๆ ที่รุมเร้าได้อยู่หมัด ก็เป็นประเด็นที่ทำให้หุ้นหลายตัวกลับมาเฉิดฉายบนกระดานหุ้นอีกรอบ หลังจากมีอาการ “ซึม เศร้า เหงา หงอย” มาระยะหนึ่งนั้น มันเป็นจังหวะที่ทำให้นักเล่นต้องปรับยุทธวิธีลงทุนให้เข้าปัจจัยใหม่ที่เข้ามาในตลาดหุ้นไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับพี่เทพ PTTEP เด้งขึ้นมาปิดที่ระดับ 89.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 1.90 พันล้านบาท มันเป็นช็อตที่ทำให้รู้ว่า ต้องตามไปดูทุกช็อต หลังนายกฯ งัด ม.44 แก้ปัญหากรณีใช้พื้นที่ ส.ป.ก.ในการผลิตปิโตรเลียม ซึ่งจะมีการประกาศใช้สัปดาห์หน้า ย่อมทำให้นักเล่นเชื่อว่า หุ้นจะเด้งกลับไปยืนใกล้ๆ 100 บาทอีกครั้ง เพราะก่อนหน้านี้หุ้นเคยอยู่ตรงนั้นพะยะค่ะ

*เมื่อตัวลูกหนทางปลอดโปร่ง หุ้นตัวแม่อย่าง PTT  ย่อมได้รับผลดีตามไปด้วยอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 385 บาท บวกไป 4 บาท ด้วยมูลค่า 2.47 พันล้านบาท แถมเป็นการเด้งขึ้นวันแรกตรงบริเวณแนวรับ 380 บาท ย่อมทำให้ “โมนิก้า” เชื่อว่า หุ้นจะวิ่งกลับขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 400 บาทอีกครั้ง ส่วนจะผ่านไปได้หรือไม่..อันนี้ต้องติดตามดูกันเอาเองเจ้าค่ะ

*ส่วนในรายของ PTTGC หากดูตามรูปการณ์ที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้ “โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ต้องดูต่อไปอีกระยะหนึ่ง เพราะการขึ้นมาปิดที่ 69.50 บาท บวกไป 2 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 1.73 พันล้านบาท น่าจะเป็นเพียงการรีบาวด์ธรรมดาๆ ไม่ได้มีนัยสำคัญ ยกเว้นวันนี้หุ้นสามารถถีบตัวขึ้นไปได้อีก โพสิชั่นของหุ้นก็จะเปลี่ยนจาก “ไซด์เวย์ดาวน์”กลายเป็น V-Shape นะจะบอกให้

*สำหรับหุ้นอีกหนึ่งรายที่เด้งรับ ม.44 แบบเต็มๆ ในเที่ยวนี้คงหนีไม่พ้น UNIQ โดยทันทีที่มีข่าวเรื่องการใช้ยาสารพัดนึกดังกล่าวเข้ามาเร่งรัดขั้นตอนการทำรถไฟฟ้าไทยจีน ทุกคนย่อมให้ความสนใจหุ้นตัวนี้ขึ้นมาในทันที เพราะเป็นที่ทราบกันโดยแพร่หลายว่า เจ้านี้มีความสัมพันธ์อันดีกันจีน แถมยังเป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องทำรถไฟหลากสี และรถไฟทางคู่ด้วยแล้ว หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 18.20 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่า 550 ล้านบาทอย่างง่ายดายค่ะ

*เม้าท์ถึงหุ้นที่มีความเชี่ยวชาญขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ย่อมมองหุ้นสุดเลิฟอย่าง EA เป็นรายถัดมาในทันที เพราะวันนี้แสดงให้ทุกคนเห็นแล้วว่า “ไม่ได้มาเล่นๆ” ทุกอย่างสามารถจับต้องได้อย่างรูปธรรม การจ่ายไฟเข้าระบบยังเป็นไปตามแผนงาน แถมโปรเจ็กต์ยักษ์ก็คืบหน้าไปมาก แวลูของหุ้นก็ควรเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ ล่าสุดเห็นหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 31.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 3.30% ด้วยมูลค่า 654 ล้านบาท ก็ยังน้อยไปในความคิดของเดี๊ยนเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่โอเว่อร์เกินไปในสายตา “โมนิก้า” คงพุ่งเป้าไปที่ PSL ก่อนใครเพื่อนเช่นกัน หลังราคาหุ้น 10.80 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท เพียงเพราะดัชนีค่าระวางเรือขึ้นมาเยอะ แถมมุกนี้ถูกนำมาเล่นแล้วหลายรอบ แต่ยังสัมฤทธิผลทุกครั้งไปแบบนี้ เดี๊ยนคงไม่ห้ามปรามอะไรเป็นพิเศษ เพราะแค่อยากให้เหล่านักเล่นได้รู้ว่า หุ้นตัวนี้ขาดทุนเรื้อรังมาแล้ว 3 ปี เที่ยวนี้จะกลับมาทำกำไรได้จริงเหรอ?

*เหมือนกับในรายของ STA เล่นบนความเชื่อราคายางเป็นหลัก หุ้นถึงฉวัดเฉวียนจนน่าเสียวไส้ ซึ่งดูได้จากปีก่อนพุ่งจากระดับ 11 บาท ทะยานขึ้นไปถึงระดับ 30 บาท ขณะที่ราคาล่าสุดอยู่ที่ 16.10 บาท บวกไป 0.90 บาท หรือขึ้นไป 6 % ด้วยมูลค่า  450 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นช็อตลากไปออกของที่เห็นกันมาแล้วหลายรอบ แถมของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า ราคายางยังต่ำ หุ้นจะขึ้นได้อย่างไรล่ะจ๊ะ

*เม้าท์ถึงตรงนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ก็อยากให้ดูหุ้นฟอร์มร้อนแรงอย่าง FOCUS  เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบเสียว หลังหุ้นวิ่งขึ้นมายืนที่ 1.56 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่า 90 ล้านบาท มันเป็นเพียงการขุดบ่อล่อปลาธรรมดาๆ ไม่ได้มีนัยสำคัญอะไรมากมาย เพราะคนเล่นต้องแบกรับความเสี่ยงกันเอาเอง เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานไม่เอื้อน่ะสิ

*ตบท้ายกันที่เรื่องฉาวในการจัดตั้งกองทุนส่งเสริมพัฒนาตลาดทุน CMDF เดี๊ยนมองว่า มันเหมือน ก.ล.ต. เป็นหนึ่งในตัวการเรียกหน่วยงานภาครัฐมาช่วยกันไถ่เงินของ ตลท. เพราะหน้าที่ส่งเสริมก็เป็นของตลาดฯ อยู่แล้ว จู่ๆ วันนี้ให้จัดตั้งหน่วยงานขึ้นมาใหม่ พร้อมกับบังคับให้ตลาดฯ ใส่เงินเข้ามาอีก 8 พันล้านบาท ทั้งที่ยังไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไรแบบนี้..บ้าหรือเปล่า?