พาราสาวะถี

ตลกร้ายไทยแลนด์ขนานแท้ โครงการรถไฟความเร็วสูง จะดำเนินการภายใต้รัฐบาลจากเลือกตั้ง ถูกฝ่ายตรงข้ามดิสเครดิต โจมตีด้วยวาทกรรมสร้างไปขนผักหรืออย่างไร ไม่เพียงเท่านั้น คนที่อยู่ในฝ่ายอำนาจที่จะต้องตัดสินชะตากรรมของบ้านเมืองยังสร้างวาทกรรมจากอคติที่เป็นเรื่องเจ็บปวดสำหรับคนไทยทั้งประเทศ ถ้าถนนลูกรังไม่หมดไปจากประเทศไทยก็อย่าสร้างโครงการเช่นนี้


พาราสาวะถี:อรชุน

ตลกร้ายไทยแลนด์ขนานแท้ โครงการรถไฟความเร็วสูง จะดำเนินการภายใต้รัฐบาลจากเลือกตั้ง ถูกฝ่ายตรงข้ามดิสเครดิต โจมตีด้วยวาทกรรมสร้างไปขนผักหรืออย่างไร ไม่เพียงเท่านั้น คนที่อยู่ในฝ่ายอำนาจที่จะต้องตัดสินชะตากรรมของบ้านเมืองยังสร้างวาทกรรมจากอคติที่เป็นเรื่องเจ็บปวดสำหรับคนไทยทั้งประเทศ ถ้าถนนลูกรังไม่หมดไปจากประเทศไทยก็อย่าสร้างโครงการเช่นนี้
แต่พอเปลี่ยนมาเป็นรัฐบาลรัฐประหาร ซึ่งประกาศเดินหน้าโครงการอย่างเต็มที่ คนที่สร้างวาทกรรมดังว่านอกจากจะหน้าทนรับตำแหน่งจากการเผด็จการแล้ว ยังไม่มีเสียงทักท้วงคัดค้านแม้แต่น้อย นี่คือธาตุแท้ของคนดีทั้งหลาย มากไปกว่านั้น เมื่อพิจารณาจากระยะที่จากเดิมรัฐบาลยิ่งลักษณ์จะสร้างกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ เทียบกับ โครงการตามมาตรา 44 กรุงเทพฯ-โคราช ซึ่งจะประเดิมก่อน 3.5 กิโลเมตร คำตอบของคำถามที่ว่าความคุ้มค่าในการลงทุนแบบไหนเหมาะสมกว่ากันคงไม่ต้องอธิบาย
ยิ่งฟัง พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา อรรถาธิบายถึงประโยชน์ของโครงการด้วยแล้ว มันยิ่งเห็นภาพอะไรต่อมิอะไรผุดขึ้นมาเยอะแยะมากมาย ในเวลาที่กลุ่มคนดีพากันดาหน้าค้านโครงการรถไฟความเร็วสูงยุคยิ่งลักษณ์ ซึ่งถูกกว่าสมัยนี้ มีการยกเอาตัวเลขผู้โดยสาร ความคุ้มค่าในการลงทุนมาโน้มน้าวให้คนคล้อยตามกันอย่างเป็นขบวนการ
ซึ่งคำชี้แจงของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร โดยเฉพาะ ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเวลานั้น น่าจะกระจ่างแจ้งกว่าที่หัวหน้าคสช.บอกวันนี้เสียด้วยซ้ำ แต่กลับมีการต่อต้านกันหน้าสลอนของเหล่าบรรดาคนดีทั้งหลาย สิ่งที่บิ๊กตู่อธิบายวันนี้คือ เรื่องผลประโยชน์ตอบแทนจะคิดเอารายได้จากแค่คนขึ้นไม่ได้ มันต้องมองอย่างอื่นด้วย มองประโยชน์ 2 ข้างทาง มันจะเกิดขึ้นอย่างไร
รัฐบาลก็ไปดูกฎหมายตรงนี้ว่าจะเอา 2 ข้างทางมาบริหารจัดการให้เกิดทางธุรกิจอย่างไร ดูแลผู้มีรายได้น้อยได้อย่างไร ประชาชนได้ประโยชน์อย่างไรจากเส้นทางดังกล่าว มีเมืองใหม่เกิดขึ้นไหม มันก็มีการลงทุนอย่างอื่นอีกมากมายตามมา มันเป็นผลประโยชน์ตอบแทนไปถึงประชาชนโดยตรง ยิ่งพูดถึงผลประโยชน์อื่นถ้านำมาผนวกเข้ากับเส้นทางที่รัฐบาลก่อนหน้าคิดจะสร้าง ถามว่ามันจะเกิดมรรคผลมหาศาลเพียงใด
ไม่เพียงเท่านั้น ท่านผู้นำยังโชว์วิสัยทัศน์ด้วยว่า วันนี้ให้แนวทางข้าราชการใหม่ทั้งหมด ต้องมองว่าจะเอื้อประโยชน์ต่อประเทศชาติอย่างไรต่อไปในอนาคต make different for future โดย make different คือ ให้มันต่างจากของเดิม ส่วน for future ไม่ใช่มองวันนี้เพียงอย่างเดียว ไม่ใช่มองข้อขัดแย้ง มองปัญหา มองเรื่องทุจริต ซึ่งพยายามแก้ทุกอัน เพื่อไป future วันนี้ทำงานแบบหาเป้าหมายให้เจอ ให้ตรงกลุ่ม
๑๑สมแล้วที่เป็นผู้นำทางความคิดในการวางยุทธศาสตร์ชาติถึง 20 ปี มันต้องอย่างนี้ เพียงแต่บางคนก็อดค่อนขอดไม่ได้ว่า เรื่องการก้าวไปสู่อนาคตที่ท่านผู้นำอุตส่าห์สปีกอิงลิชนั้น ก็อย่าให้เป็นเพียงแค่ ฟอร์ฟิวเจอร์ที่มันห้างสรรพสินค้าแถวรังสิตหรือบางแคอะไรเทือกนั้นก็แล้วกัน (ฮา) เมื่อท่านแจกแจงอย่างนี้เรื่องม.44 กับรถไฟไทย-จีนคงต้องจบกันไปแบบนี้
สิ่งสำคัญใครที่เกรงว่าจะเกิดความไม่ชอบพากลต่างๆ นั้น ไม่ต้องเป็นห่วงเพราะท่านผู้นำเคยย้ำมาโดยตลอด “ไม่ทุจริตแล้วจะกลัวอะไร” ม.44 แค่ช่วยให้งานเร็วเท่านั้น ไม่เกี่ยวกับเปิดทางหรือโอบอุ้มคนที่คิดจะคดโกงในโครงการขนาดใหญ่เช่นนี้ ทุกอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ เพียงแต่ว่าจะใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการประมูลงานของรัฐที่ได้รับการยกเว้นทั้ง 7 ฉบับมาตรวจสอบไม่ได้เท่านั้นเอง
ความที่คณะรัฐประหารและรัฐบาลชุดนี้มีเนติบริกรระดับแถวหน้ายกโขยงเข้ามาให้คำปรึกษาตั้งแต่ก่อนยึดอำนาจมาจนถึงปัจจุบัน ดังนั้น ความช่ำชองในแง่ของการตราหรือบังคับใช้กฎหมาย ท่านผู้นำจึงไม่ได้ออกอาการวิตกกังวล ยิ่งรัฐธรรมนูญฉบับกรธ.ผ่านประชามติมาแล้วและมีผลบังคับใช้ในปัจจุบันยิ่งสร้างความมั่นใจให้มากยิ่งขึ้น
ทว่ากระบวนการร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ กลับเริ่มพบว่ามีปัญหาจนถูกมองว่าจะกลายเป็นวัวพันหลัก วันนี้ที่เห็นได้ชัดคือการแก้ไขร่างกฎหมายว่าด้วยพรรคการเมืองของสนช. ที่จะให้ผู้สมัครของพรรคการเมืองต้องผ่านระบบไพรมารีโหวต จนนำมาซึ่งความกังวลของ มีชัย ฤชุพันธุ์ เกรงจะมีปัญหาในการปฏิบัติ
นั่นเป็นเพราะการที่ผู้สมัครจะต้องได้รับความเห็นชอบจากสาขาพรรคหรือผู้แทนประจำจังหวัด กับห้วงระยะเวลาเตรียมตัวของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งครั้งหน้า ในบรรยากาศที่ไม่ได้รับการปลดล็อกให้ดำเนินกิจกรรมทางการเมือง บวกกับการประกาศเขตเลือกตั้งของกกต.ที่จะดำเนินการใกล้วันเลือกตั้ง นั่นเท่ากับว่า ระบบไพรมารีโหวตจะดำเนินการไม่ได้เลยในบริบทดังกล่าว
ด้วยเหตุนี้มีชัยจึงได้สอบถามกับตัวแทนกกต.ในการหารือร่วมกับกรธ.เมื่อวันวาน จะสามารถประกาศเขตเลือกตั้งล่วงหน้า 1 ปีได้หรือไม่ ตรงนี้ตอบแบบตรรกะของคนธรรมดาทั่วไป มันจะเป็นไปได้อย่างไร หากประกาศไว้นานขนาดนั้น แล้วเกิดในเขตเลือกตั้งใดมีจำนวนประชากรเปลี่ยนแปลง โดยเฉพาะในพื้นที่ซึ่งมีหมู่บ้านจัดสรรจำนวนมาก ห้วงเวลาขนาดนั้นมันจะมีผลต่อสัดส่วนประชากรที่นำไปใช้คำนวณในการแบ่งเขตเลือกตั้งทันที
สิ่งเหล่านี้คือความเป็นจริงที่บางครั้งไม่สอดคล้องกับทัศนคติหรือความเชื่อของคนที่เขียนกฎหมาย จะโดยเจตนาเพื่อสร้างพรรคการเมืองให้เข้มแข็งหรือตีกันพรรคการเมืองใดก็ตาม บางทีก็ชวนให้คิดได้เหมือนกันว่า เมื่อตั้งต้นของกฎหมายแม่ที่มันไม่เป็นประชาธิปไตยเสียแล้ว พอมาร่างกฎหมายลูกจะทำให้มันเป็นประชาธิปไตย มันจึงย้อนแย้งกันอยู่ในที แต่มีมาตรา 44 อยู่ในมือกลัวอะไร ติดขัดมากก็งัดมาตรายาวิเศษมาแก้แค่เท่านี้ก็จบ
พรุ่งนี้ครบรอบ 85 ปี ของการปฏิวัติ 2475 จะให้พูดว่าระบอบประชาธิปไตยเต็มปากเต็มคำมันก็ละอายปาก เพราะเวลานี้ประเทศไทยไม่ได้อยู่ภายใต้การปกครองในรูปแบบนั้น คงบอกได้แต่เพียงว่า 85 ปีที่ผ่านมาเราได้เข้าสู่การปกครองที่เป็นระบอบรัฐธรรมนูญแล้วเท่านั้น และเป็นรัฐธรรมนูญที่ถูกฉีกทิ้งอย่างพร่ำเพรื่อด้วยอำนาจของทหารแทบทั้งสิ้น มาจนถึงวันนี้ยังไม่มีใครตอบได้เสียด้วยซ้ำเราเป็นประชาธิปไตยแบบครึ่งใบ เสี้ยวใบหรือว่าจริงๆ แล้วเป็นเพียงแค่เปลือกประชาธิปไตยเท่านั้น
/////

Back to top button