ไม่เอารัฐบาลเสียงข้างมากขี่พายุ ทะลุฟ้า

เอาแล้ว! ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกอีก


เอาแล้ว! ความวัวไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรกอีก

ฝั่งอเมริกา ไทยโดนกล่าวหาละเมิดสิทธิมนุษยชน มีแรงงานทาสชาวประมง แต่พอทางฝั่งยุโรป ไทยก็โดนข้อหาละเมิดทำประมงนอกน่านน้ำ และใช้เครื่องมือทำลายพันธุ์ปลาเข้าไปอีก

เรียกว่า โดนซ้ายโดนขวาครบถ้วนกระบวนความ และพร้อมจะถูกปิดตลาดประมงทั้งจากซีกอเมริกาและยุโรปได้ทุกเมื่อ หากแก้ไขปัญหาไม่ทันภายในระยะเวลากำหนด

ก่อนหน้านี้ ก็มีเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยทางการบิน ซึ่งประเทศไทยสอบตก และผลเสียหายทางธุรกิจการบินและการท่องเที่ยว ก็ได้เกิดขึ้นแล้ว

ทีแรกดูเหมือนจะง่าย เพราะใช้วิธีคิดเอาเองว่า แค่ส่งอธิบดี และรัฐมนตรีคนนั้นคนนี้ ไปวิ่งล็อบบี้มิตรประเทศและองค์การการบินระหว่างประเทศ (ICAO) ก็น่าจะได้รับการยืดหยุ่นผ่อนผันได้แล้ว

แต่นั่น มันเป็นวิธีคิดแบบไทยๆ ไม่เข้าใจความเป็นสากลของกฎกติกาโลก โดยเฉพาะเรื่องความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน และร่างกาย

ซึ่งชาติไหน เขาก็ไม่อยากเอาชีวิตคนชาติของเขามาเสี่ยง

ในที่สุดแล้ว ก็ล้มเหลว ไม่สามารถจะแก้ปัญหาได้ทัน 90 วัน ตามที่เส้นตายกำหนด

รัฐมนตรีของเรา กำหนดนัดหมายจะขอไปพบประธาน ICAO ในช่วงปลายเดือนเม.ย. แต่ก็ได้รับการปฏิเสธในช่วงเวลาที่เราขอไป ให้ไปพบในเดือนมิ.ย.โน่น ซึ่งไม่ทันรอบการพิจารณาปลดล็อกเสียแล้ว

มรสุมปัญหา 2-3 ลูก ที่ถาโถมเข้ามายังประเทศไทยคราวนี้ น่าจะมีการเก็บรับบทเรียนได้หลายอย่าง

บทเรียนแรกเลยก็คือ อย่าคิดแบบไทยๆ อย่าคิดจะหวังพึ่งการแก้ปัญหาโดยอาศัยการล็อบบี้ นั่นเป็นบทเรียนที่ 2 และบทเรียนที่ 3 ก็คือ อย่าได้ผัดวันประกันพรุ่งในการแก้ปัญหาอีก

ต้องทะลวงแก้ไขไปที่ตัวปัญหาเลย โดยไม่หวังพึ่งพาตัวช่วยต่างๆ มากนัก

นั่นก็คือ ปัญหามรสุมเฉพาะหน้า แต่ส่วนที่จะเป็นปัญหาในอนาคตระยะยาว ก็คือ การร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งกำลังดำเนินการอยู่ในเวลานี้

ฟังประธานสปช.นายเทียนฉาย กิระนันท์ พูดว่า จะต้องเป็นร่างที่ยอมรับได้แก่ทุกฝ่ายแล้วก็อ่อนใจ

ฟังประธานยกร่างฯ นายบวรศักดิ์ อุวรรณโณแล้ว ก็ยิ่งไปกันใหญ่ นายบวรศักดิ์บอกว่า รัฐธรรมนูญนี้ต้องการให้ประชาชนเป็นใหญ่

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ประชาชนจะใหญ่ด้วยตัวเองไม่ได้เลย ต้องอาศัยการใช้อำนาจขององค์กรต่างๆ ที่มีที่มาจากระบบแต่งตั้งทั้งนั้น

องค์กรเหล่านี้ หาได้ยึดโยงกับประชาชนแต่อย่างใดไม่ อาทิ วุฒิสภา ที่มีอำนาจล้นเหลือหลายยิ่งกว่าส.ส.เสียอีก ก็ยังมีจำนวนส.ว.ลากตั้งมากกว่าส.ส.เลือกตั้ง

องค์กรใหม่ๆ ที่บอกว่ามาทำให้ประชาชนมีอำนาจมากขึ้น อาทิ สภาประชาชน สภาพลเมือง สมัชชาคุณธรรม ฯลฯ ชื่อแปลกๆ เหล่านี้ มีเป็นสิบองค์กร และล้วนแต่มาจากการแต่งตั้งทั้งสิ้น

ประชาชนคนธรรมดา ได้เป็นผู้คัดเลือกด้วยตัวเองเสียที่ไหน

คิดกันขึ้นมาได้อย่างไรก็ไม่รู้นะครับ รัฐธรรมนูญวิปริตกันแบบนี้

ในทางสากลโลกแล้ว เขายึดหลัก“เสียงข้างมากปกครอง เคารพเสียงส่วนน้อย” (Majority Rules, Minority Right)

แต่ไอ้ที่เป็นอยู่ในเวลานี้ เขาจะให้ “เสียงข้างน้อยปกครอง และทำลายล้างเสียงข้างมาก” โดยองค์กรอิสระ ชื่อซ้ำซ้อนยุ่บยั่บไปหมด

ป่วยการครับจะเฉไฉบิดตะกูดไปเรื่องอื่น บอกมาตรงๆ กันเลยยังจะดีเสียกว่าว่า ช่วงนี้ประชาชนคนไทยยังไม่พร้อมจะเลือกตั้งโดยตรง เพราะเลือกไปแล้วก็ได้ส.ส.-ส.ว.เลว และรัฐบาลชั่ว

ฉะนั้น ก็ต้องให้อยู่ในระบบ “เสียงข้างน้อยปกครอง และทำลายล้างเสียงข้างมาก” มันไปอย่างนี้แหละ

จะอยู่มันไปสัก 3 ปี-5 ปี ก็บอกกันมาชัดๆ จะได้รู้ชัดกันไปเลยว่า อย่างไหนจะทำร้ายประเทศชาติมากกว่ากัน ระหว่างระบบเสียงข้างมากหรือเสียงข้างน้อยปกครอง

พูดออกมาให้ชัด ขี้เกียจฟังแล้วพวก 11 รด. เท่าไหร่ก็รอได้จ้ะ

                                                         

Back to top button