กองทุน CMDF

วานนี้ (28 มิ.ย.) มีการประชุมบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ


ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร

วานนี้ (28 มิ.ย.) มีการประชุมบอร์ดตลาดหลักทรัพย์ฯ

ข่าวว่ามีวาระเรื่องของกองทุนส่งเสริมการพัฒนาตลาดทุน (Capital Market Development Fund  หรือ CMDF)

แต่หลังการประชุมกรรมการตลาดฯ ต่างปิดปากกันเงียบ

บอกเพียงว่า ประธาน (น่าจะหมายถึงประธานตลาดหลักทรัพย์ “ชัยวัฒน์ วิบูลย์สวัสดิ์”) ห้ามให้ข่าว

ก่อนหน้านี้ รัฐมนตรีคลัง “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” บอกไว้ก่อนแล้วว่า เรื่องของกองทุน CMDF หากใครมีอะไรที่เห็นต่าง ก็อยากให้มาคุยกัน

และไม่อยากให้มีการแสดงความเห็นผ่านสื่อ

เพราะเกรงว่าจะกลายเป็นความขัดแย้งบานปลาย

แต่บางคนบอกว่า กลัวจะเป็นการ “ปิดประตูตีแมว”

จะว่าไปแล้ว เท่าที่ดูความเห็นของคนวงการตลาดทุน ต่างไม่ค่อยเห็นด้วยนัก

ความเห็นที่ออกมามีทั้งไม่เห็นด้วยกับการจัดตั้ง และวิธีการนำเงินของตลาดหลักทรัพย์ไปใช้

ทั้งเงินประเดิมก้อนแรก 8,000 ล้านบาท

และเงินอีก 90% ของกำไรสุทธิ ในแต่ละปีของตลาดฯ

รวมถึงบุคคลที่เข้ามาเป็นกรรมการ และมาจากหน่วยงานราชการ ว่าอาจไม่ได้มีความรู้ด้านตลาดทุนเพียงพอ

ล่าสุด ช่วงคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

“ปริญญ์ พานิชภักดิ์” กรรมการผู้จัดการ บล.ซีแอลเอสเอ และกรรมการ ตลท. ออกมาแสดงความคิดเห็นเรื่อง CMDF ผ่าน Facebook Live ไว้น่าสนใจ

เป็นการแสดงความเห็นของคนในวงการตลาดทุนเป็นคนล่าสุด

และไม่แน่ใจว่าจะเป็นคนสุดท้ายหรือไม่ ที่ออกมาพูดเรื่อง CMDF

“ปริญญ์” นั้น เขาคือบุตรชายของ “ดร.ศุภชัย พานิชภักดิ์”

ในฐานะคนทำงานเอกชน อยู่ในวงการตลาดทุน และที่ผ่านมาเขามักไม่ค่อยแสดงความเห็นทางเศรษฐกิจการเมืองซักเท่าไหร่

หรือข้อคิดเห็นที่ดูแล้วขัดแย้งกับ “ทางการเมือง” มากนัก

ทว่าครั้งนี้ คงไม่เห็นด้วยจริงๆ

เท่าที่ฟังแล้ว และสรุปออกมาได้คือ “ปริญญ์” เสนอให้บอร์ดของ ก.ล.ต.ถอดเรื่องนี้ออกไปเลย

ประเด็นที่น่าหวั่นวิตกคือ นักลงทุนต่างชาติจะมองอย่างไร กับการที่ภาครัฐเข้ามาจัดการเรื่องตั้งกองทุน CMDF

ปริญญ์ เองนั้น ทำงานอยู่กับนักลงทุนต่างชาติมานาน

พอร์ตหรือบัญชีนักลงทุนที่ซื้อขายหุ้นผ่าน บล.ซีแอลเอสเอ กว่า 98% เป็นนักลงทุนต่างชาติ

ดังนั้น เขาจะรู้ว่า นักลงทุนต่างชาติช่วงไหน หรือพอมีเรื่องอะไร แล้วต่างชาติจะมีมุมมองต่อเรื่องนั้นๆ ในประเทศไทยอย่างไร

ปริญญ์ พูดชัดว่า นักลงทุนต่างชาติหวั่นว่าจะเป็นการแทรกแซงตลาดทุนจากภาครัฐ

และ(อาจ)เป็นไปได้ที่ต่างชาติอาจจะไม่สบายใจ

และถอนการลงทุนจากไทย

นี่คือปัญหาใหญ่ที่ทั้ง ก.ล.ต. และกระทรวงการคลังต้องรับฟังจากมุมมองของปริญญ์

จริงๆ แล้วทั้งรองนายกฯ “สมคิด จาตุศรีพิทักษ์” และ “อภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์” รมว.คลัง ที่อยู่ในแวดวงธุรกิจด้านการตลาด และการเงินมายาวนาน

ก็ย่อมรู้ดีว่า มุมมองของต่างชาติเป็นอย่างไร

เว้นแต่ว่าจะไปติดกับดัก “รัฐข้าราชการ” ฟังข้าราชการมากเกินไป ทำให้หลงลืมเรื่องนี้ หรือผลกระทบเชิงลบในอีกหลายประเด็นที่จะตามมา

ตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น ปริญญ์ บอกอีกว่าคือ “องค์กรอิสระ”

เงินที่ตลาดหลักทรัพย์มีอยู่นั้น ก็มาจากผู้ประกอบการเอกชนในแวดวงตลาดทุน

หรือคล้ายๆ กับเงินของเอกชนนั่นแหละ

ฉะนั้น มีความเหมาะสมแค่ไหนที่จะมีนโยบายจากภาครัฐ เพื่อกำหนดการบริหารเงินในส่วนนี้

เรื่องของตลาดหุ้นปล่อยให้เอกชนเขาทำไป

ส่วนรัฐก็คอยสนับสนุนด้านนโยบาย

ไม่ต้องถึงกับลงไปล้วงลูกหรอก

Back to top button