พาราสาวะถี

    ยังคงกระทุ้งหนักต่อเนื่อง หากเป็นคนการเมืองก็จะถูกมองว่าเป็นการเล่นเกม เผลอๆอาจถูกเรียกไปปรับทัศนคติกันแล้ว แต่สำหรับกกต.ชายเดี่ยว สมชัย ศรีสุทธิยากร ต้องเป็นข้อยกเว้น ล่าสุด ออกมาอัดแนวคิดกรธ.ที่อ้างว่าจะให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหรือกสม.ชุดปัจจุบันที่จะถูกเซตซีโร่ กลับมาเป็นกรรมการองค์กรอิสระได้อีก ว่าเป็นเรื่องของสองมาตรฐาน


อรชุน

ยังคงกระทุ้งหนักต่อเนื่อง หากเป็นคนการเมืองก็จะถูกมองว่าเป็นการเล่นเกม เผลอๆอาจถูกเรียกไปปรับทัศนคติกันแล้ว แต่สำหรับกกต.ชายเดี่ยว สมชัย ศรีสุทธิยากร ต้องเป็นข้อยกเว้น ล่าสุด ออกมาอัดแนวคิดกรธ.ที่อ้างว่าจะให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติหรือกสม.ชุดปัจจุบันที่จะถูกเซตซีโร่ กลับมาเป็นกรรมการองค์กรอิสระได้อีก ว่าเป็นเรื่องของสองมาตรฐาน

คงไม่มีใครคาดคิดว่าคำๆนี้จะออกมาจากปากของพวกคนดี แต่ประเด็นดังว่าถูกสยบลงทันทีจาก มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ที่ยืนยันหนักแน่น กรรมการองค์กรอิสระทุกแห่งหากถูกเซตซีโร่จะไม่สามารถกลับมาดำรงตำแหน่งได้อีก ส่วนที่บอกว่ากสม.ไม่ได้เป็นมีสถานะเป็นกรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ 2550 นั้นเป็นเรื่องความเห็นของสมาชิกสนช.บางรายไม่เกี่ยวกับกรธ.

เป็นอันว่าเรื่องนี้เป็นการรีบจับประเด็น เพื่ออย่างน้อยจะได้ระบาย เอ้ย!จะได้จับผิดเหมือนเป็นการดิสเครดิตคนที่ร่างกฎหมายว่าไม่มีมาตรฐาน งานนี้พิจารณาท่วงทำนองของมีชัยในประเด็นไพรมารีโหวต สัมผัสได้ว่า น่าจะรับสัญญาณในการลดความร้อนแรงต่อการแสดงความคิดเห็นที่อาจจะเป็นการชี้นำให้สังคมเกิดความสับสนมาแล้ว สรุปได้ว่าเขาคุยกันและเคาะทุกอย่างไม่ให้เกิดแรงกระเพื่อมแน่นอน

แต่สำหรับเรื่องนี้ ไม่รู้ว่าจบลงอย่างไร ถ้าอ่านทิศทางและท่าทีของฝ่ายผู้มีอำนาจ ไม่มีวันใส่เกียร์ถอยชัวร์ เพราะถ้ากลัวย้อมไม่ทำ เมื่อเดินหน้ามาถึงขั้นนี้มีหรือจะหยุดเอาดื้อๆ ดังนั้นการแก้ไขพ.ร.บ.บัตรทอง 2545 ที่เปิดประชาพิจารณ์แล้วล่มกันถึง 3 ภาค ต้องใช้กำลังทหารและตำรวจมาจัดการพร้อมเปิดเจรจาจึงมาทำได้ที่กรุงเทพฯ คงไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากสิ่งที่แป๊ะต้องการ

ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในเวลานี้ ไม่ใช่เรื่องที่จู่ๆเพิ่งมาคิดกันได้ แต่มีการวางแผนกันเป็นขั้นเป็นตอนมาโดยตลอด ดังนั้น เหตุผลของฝ่ายผู้มีอำนาจจึงเป็นสิ่งที่แทบจะไม่ต้องไปวิเคราะห์ใดๆ เพราะเป็นการชักแม่น้ำทั้ง 5 มาอธิบายความปรารถนาดีในการแก้ไข พร้อมๆกับการนั่งยันนอนยันโดยท่านผู้นำว่าไม่มีการยกเลิกโครงการนี้แน่นอน มีแต่จะทำให้ดีขึ้น

ทว่าข้อทักท้วงของฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งส่วนใหญ่ต้องบอกกันว่าไม่ใช่คนของกลุ่มการเมืองหรือพรรคการเมืองใด เป็นสิ่งที่สังคมควรจะพิจารณาและร่วมกันสังเคราะห์ว่าสิ่งที่คนหรือคณะบุคคลเหล่านั้นเคลื่อนไหวแสดงการคัดค้านเป็นเหตุเป็นผล สมควรที่ผู้มีอำนาจจะต้องรับฟังและนำไปปรับแก้หรือไม่ หรือหากไม่มีวาระซ่อนเร้นก็อธิบายเปิดเผยทุกอย่างให้กระจ่างชัด

เริ่มจากเอกสารชี้แจงเหตุผลการแก้ไขพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 2545 ไปยังกลุ่มไลน์ของผู้บริหารโรงพยาบาลต่างๆในสังกัดกระทรวงสาธารณสุข โดยผู้จัดทำเอกสารนี้เป็นหนึ่งในคณะอนุกรรมการพิจารณาจัดทำร่างพ.ร.บ.หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ฉบับที่…) พ.ศ… ซึ่งสะท้อนเจตนาที่แท้จริงในการแก้ไขกฎหมายว่าทำไปเพื่อประโยชน์ของหน่วยบริการ ไม่ใช่เพื่อประโยชน์ของประชาชน

ตามที่ นิมิตร์ เทียนอุดม แกนนำกลุ่มคนรักหลักประกันสุขภาพ พูดถึงเอกสารดังกล่าวว่า มีการระบุว่า หากจะแยกบทบาทผู้ซื้อบริการและผู้รับบริการออกจากกันอย่างชัดเจน (Purchaser-Provider Split) จำเป็นต้องปลดล็อกให้หน่วยบริการสังกัดกระทรวงสาธารณสุข สามารถเลือกไม่เข้าร่วมในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ได้ในกรณีที่ข้อเสนอของผู้ซื้อบริการไม่ดีพอ

นอกจากนี้ ยังมีการระบุเหตุผลในการคงสาระสำคัญในเรื่องการร่วมจ่ายไว้ว่า เนื่องจากสถานการณ์ด้านสุขภาพของประเทศไทยในอนาคต กำลังเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ มีการใช้เทคโนโลยีทางการแพทย์ราคาแพง และเผชิญกับกลุ่มโรคติดต่อเรื้อรังมากขึ้นตามลำดับ ทำให้ค่าใช้จ่ายทางสาธารณสุขของประเทศสูงมากขึ้น ดังนั้น สำหรับผู้มีฐานะหรือมีศักยภาพในการจ่าย คณะกรรมการอาจกำหนดให้บุคคลที่เข้ารับการบริการสาธารณสุขต้องร่วมจ่ายค่าบริการในอัตราที่กำหนด ให้แก่หน่วยบริการในแต่ละครั้งที่เข้ารับการบริการ

มีการอ้างว่า การดำเนินการดังกล่าวเป็นไปในลักษณะ“รวยช่วยจน” ให้มีเงินเข้ามาในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เพื่อให้ระบบสามารถอยู่รอดได้ในอนาคต ตามที่นิมิตร์สรุปว่า เมื่อมีประเด็นการร่วมจ่าย ตรงนี้เห็นชัดว่าคือเป้าหมายที่แท้จริงของการแก้กฎหมาย เป็นการแก้เพื่อประโยชน์ผู้ให้บริการ แล้วจะบอกว่าแก้กฎหมายเพื่อประชาชนได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม หลังมีการทักท้วงในเรื่องนี้ โสภณ เมฆธน ปลัดกระทรวงสาธารณสุขก็ออกมาปฏิเสธว่า เอกสารที่ปรากฏไม่ได้เล็ดลอดไปจากกระทรวง ทันทีทันใด นายแพทย์เกรียงศักดิ์ วัชรนุกูลเกียรติ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ก็สวนกลับปลัดกระทรวงคุณหมอทันที จากข้อมูลและหลักฐานที่ปรากฏผู้กระจายข้อมูลดังกล่าวเป็นบุคคลอยู่ในกระทรวงสาธารณสุขและอยู่ร่วมในเวทีประชาพิจารณ์ 4 ภาค

เมื่อพิจารณาข้อมูลที่มีการกระจายออกไปก็เอื้อประโยชน์ต่อโรงพยาบาลชัดเจน ดังเช่นที่เครือข่ายภาคประชาชนตั้งข้อสังเกตไว้ทุกประการ ขณะเดียวกัน ชมรมแพทย์ชนบทขอยืนยันจุดยืนว่า ไม่เห็นด้วยกับการร่วมจ่าย ณ จุดบริการ เพราะรัฐบาลจะขาดอาวุธในการต่อรองกับบริษัทยา ค่าใช้จ่ายด้านสุขภาพจะบานปลาย ประชาชนและรัฐบาลจะล้มละลายอย่างแน่นอน

นอกจากนั้น แพทย์ชนบทและโรงพยาบาลของรัฐเกือบทั้งหมดสำนึกตลอดเวลาว่าโรงพยาบาลของรัฐสร้างมาจากเงินภาษีของประชาชน เจ้าหน้าที่ทุกคนก็ล้วนมีเงินเดือนเลี้ยงชีพจากภาษีประชาชน โรงพยาบาลรัฐไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไรไม่เคยรู้สึกว่าถูกบังคับให้เข้าร่วมสวัสดิการของรัฐทุกประเภท ไม่เคยรู้สึกสักครั้งว่าต้องจำยอมให้บริการประชาชนเลย

นี่อาจเป็นความจริงที่ไม่ทราบว่าผู้มีอำนาจเคยเปิดรับฟังความเห็นอย่างกว้างขวางหรือไม่ หรือมีใครไปสอพลอแล้วทุบโต๊ะเอาว่า นี่เป็นโครงการประชานิยมเป็นสิ่งไม่ดีต้องโละทิ้งหรือปรับแก้ให้กองเชียร์เห็นเป็นที่ประจักษ์ว่าได้ทำลายโครงการของระบอบทักษิณอย่างสิ้นซากแล้ว ทั้งที่ความจริงสิ่งที่รัฐบาลคิดอาจ ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องและดีที่สุดสำหรับประชาชนทุกเรื่อง ยิ่งเรื่องที่ดีอยู่แล้วแต่ไปปรับแก้ด้วยอคติสิ่งนี้ถือเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง

Back to top button