ตั้งหลักใหม่

เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*ต้องเรียนตามตรงว่า “โมนิก้า” เป็นพวกคลั่งข้อมูล ใครมีข้อมูลดีๆ ต้องชะเง้อชะแง้ตามองเป็นประจำ และข้อมูลล่าสุดที่ได้มากลายเป็นว่า นักลงทุนต่างชาติเริ่มขายลดลง และเริ่มกลับเข้ามาซื้อหุ้นในบางตัวแล้ว แต่ดูเหมือนว่า ยังไม่กล้าซื้อหุ้นอย่างหนักหน่วงเหมือนในบางปี เพราะยังไม่แน่ใจอะไรบางอย่าง ส่งผลให้ภาพใหญ่ของตลาดหุ้นยังมีลักษณะแทงกั๊กนะจ๊ะ

*ประเด็นนี้เชื่อมโยงได้กับอาการของดัชนีเด้งขึ้นไปถึงระดับ 1,590.49 จุด หลังจากนั้นถูกเทขายออกมาเรื่อยๆ จนสุดท้ายมาปิดที่ 1,578.12 จุด ลบไป  4.51 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 5.12  หมื่นล้านบาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ทำท่าจะไปได้สวย “โมนิก้า” ถือเป็นจุดเปลี่ยนที่ทำให้นักลงทุนต้องกลับมาคิดอีกครั้งว่า “ไม่ซื้อแล้วจะเสียใจไหม” ยิ่งเห็นนักลงทุนสถาบันเดินหน้าสุดซอยด้วยแล้ว จังหวะนี้ต้องตามน้ำสถานเดียวหรือเปล่า? เรื่องนี้อยู่ที่วิจารณญาณของแต่ละคนเจ้าค่ะ

*เนื้อหาตรงนี้เทียบได้กับการทะยานขึ้นของหุ้น KBANK  มาปิดที่ 199  บาท บวกไป 1 บาท  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.47 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งกิมมิคที่ถูกดันขึ้นมาเล่นในช่วงที่ตลาดกำลังมองหาของใหม่ๆ และประเด็นที่ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง คงเป็นเรื่องการเก็งตัวเลขกำไรไตรมาส 2 เพราะมุกอื่นมันไม่เวิร์ก และขั้นถัดไปคงเป็นเรื่องปรับราคาเป้าหมาย..ทราบแล้วลุย!

*เหมือนกับในรายของ TTCL กระชากขึ้นมาปิดที่ 18.10  บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 2.80%  ด้วยมูลค่า 380 ล้านบาท  หลายคนถามไถ่เข้ามามากเหลือเกินว่า เรื่องนี้เกี่ยวกับโครงสร้างธุรกิจไหม? เดี๊ยนตอบได้ทันทีว่า เกี่ยวล้านเปอร์เซ็นต์ ถ้าคิดถึงโมเดลหุ้นตัวนี้ไม่ออก “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับย้อนกลับไปดูเหตุการณ์สมัยที่หุ้นตัวนี้รุ่งเรือง แรงซื้อก็ไหลเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โมเดลตอนนี้ก็คงไม่แตกต่างกันสักเท่าไหร่ เผลอๆ อาจมีอะไรที่เด็ดกว่าที่เห็น ณ ตอนนี้ก็ได้นะจ๊ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ BEC กลายเป็นหุ้นโด่งดังอย่างรวดเร็ว “โมนิก้า” ฟันธงได้ทันทีว่า นี่ไม่ใช่เรื่องบังเอิญอย่างแน่นอน แต่เป็นความตั้งใจของบรรดานกรู้ ที่มีความปรารถนาอันแรงกล้า ต้องการเห็นหุ้นเด้งรับข่าวปรับโครงสร้างบริษัท  ถึงมีความพยายามดันหุ้นกันตลอดเวลา แต่สุดท้ายเกิดอาการตื้อๆ ตันๆ ก่อนจะมาปิดที่ 22.70 บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 2.60% ด้วยมูลค่า 347 ล้านบาท “บ่องตงว่า มันเป็นเกมหุ้นธรรมดาๆ..” ของมันเคยๆ กันอยู่เจ้าค่ะ

*ส่วนหุ้นซ่อนรูป ASAP เคยฝากผลงานเรื่องการทำ high ให้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่า ล่าสุดฉวยโอกาสวิ่งขึ้นมาปิดที่ 7.45 บาท บวกไป 0.45 บาท หรือขึ้นไป 6.40%  ด้วยมูลค่า 125 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ชาวหุ้นมีโอกาสเล่นตามน้ำ เพราะเมื่อดูถึงศักยภาพของตัวบริษัท พ่วงด้วยจุดเด่นเรื่องการเติบโต แมงลือเม้าท์กันว่า มีสิทธิ์ขึ้นไปทำสถิติใหม่อีกครั้ง จริงหรือไม่..ต้องติดตามดูกันเอาเองจ้า!

*สถานการณ์ข้างต้นคล้ายคลึงกับ SGP  จู่ๆ ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างร้อนแรง และทุกครั้งที่หุ้นขึ้นแรงทีไร มักจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาเป็นประจำ หรือเรียกให้เข้าใจง่ายๆ ก็คือ  ลากไปออกของ “โมนิก้า” บอกได้ทันทีว่า มันเป็นแท็กติกของขาใหญ่ บวกกับวานนี้หุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 14.40 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 170 ล้านบาท ถือเป็นจุดวัดใจผู้กล้าอย่างแท้จริง เพราะมีสิทธิ์เป็นแค่สงครามวันเดียวค่อนข้างสูงนะจะบอกให้

*ส่วนในรายของ RS เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่นักลงทุนต้องใช้วิจารณญาณส่วนตัวมากสักหน่อย เพราะหุ้นเริ่มเข้าเขตซื้อมากเกินไปอีกแล้ว แต่ยังมีแรงเชียร์ให้ซื้อหุ้นต่อไปเรื่อยๆ “โมนิก้า” ในฐานะคนนำสารดังกล่าวมาบอกอีกทีหนึ่ง จึงไม่สามารถพูดอะไรได้มากไปกว่านี้อีกแล้ว หลังเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 12.90 บาท บวกไป 0.60  บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่า 298 ล้านบาท ใครคิดว่า ยังมีแก๊ปให้เล่นอีก? วันนี้เคาะขวาสุดตัวเลยนะจ๊ะ

*อีกหนึ่งรายที่ต้องเอ่ยถึงคงเป็น ITEL เพราะเมื่อดูจากโครงสร้างรายได้ในครึ่งหลังของปี 60 “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า นี่คือหุ้นทีเด็ดสำหรับคนที่เน้นการลงทุนระยะยาว บวกกับการที่หุ้นสามารถประคองตัวปิดที่ 5.25 บาท บวกไป 0.25 บาท  หรือขึ้นไป 5%  ด้วยมูลค่า 104 ล้านบาท เท่ากับเป็นการยืนยันฐานแนวรับ 5 บาทค่อนข้างมั่นคง จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะต่อการลงทุน จริงหรือไม่? ดูจากสัญญาณแท่งเทียนได้เลยจ้า!

*ตบท้ายกับที่เรื่องฉาวสะเทือนวงการโบรกเกอร์อีกสักหน่อย เพราะดูเหมือนตัวละครเอกอย่าง “เจ๊บุญพร” เริ่มออกมาตอบโต้ฝั่งตรงข้ามอย่างดุเดือด แสดงให้เห็นว่า คุณพี่ไม่ต้องการตกเป็นจำเลยของสังคม จึงลุกขึ้นมาทวงถามความเป็นธรรมให้กับตัวเองแบบนี้ “โมนิก้า” ขอยกมือสนับสนุนการกระทำแบบนี้อย่างเต็มที่ เพราะทำให้สังคมได้รู้ว่า เรื่องราวทั้งหมดเป็นอย่างไรกันแน่? งานนี้บอกได้ทันทีว่า มันพะยะค่ะ