‘ระเบิดใจ’แต่ล้มเหลว?
ดุสิตโพลเผยผลสำรวจความเห็นต่อผลงานรัฐบาล ด้านบวก ปราบทุจริตมาอันดับหนึ่ง ตามด้วยจัดระเบียบสังคมด้านลบ นำโดยปัญหาเดิมๆ คือแก้เศรษฐกิจไม่ตก ซื้อเรือดำน้ำ และห้ามนั่งท้ายกระบะ
ทายท้าวิชามาร : ใบตองแห้ง
ดุสิตโพลเผยผลสำรวจความเห็นต่อผลงานรัฐบาล ด้านบวก ปราบทุจริตมาอันดับหนึ่ง ตามด้วยจัดระเบียบสังคมด้านลบ นำโดยปัญหาเดิมๆ คือแก้เศรษฐกิจไม่ตก ซื้อเรือดำน้ำ และห้ามนั่งท้ายกระบะ
ว่าแล้วที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคาร ก็อนุมัติจัดซื้อเครื่องบินฝึก T50TH ของเกาหลีอีก 8 ลำ 8,800 ล้านบาท ขณะที่ปัญหาราคายางพารา ซึ่งหลอกลอนมาตั้งแต่ต้นรัฐบาล ก็จัดงานอีเวนต์ที่ทำเนียบ แสดงผลิตภัณฑ์จากยางพารา ให้นายกฯ เยี่ยมชมพร้อมกับงาน “วันเมตตาปัญญาอ่อน”
ตามเคย นายกฯ สั่งให้หน่วยงานต่างๆ ซื้อและใช้ผลิตภัณฑ์จากยางพารา พร้อมกับให้กวดขันแก้ปัญหาบุกรุกพื้นที่ป่า เพราะท่านชี้ว่าราคายางตกเนื่องจากปลูกมากเกินไป บุกรุกพื้นที่ป่าตั้ง 3 ล้านไร่ ถ้ากดดันรัฐบาลมาก เดี๋ยวห้ามกรีดยางในพื้นที่บุกรุกเสียหรอก
ราคายางพาราขึ้นลงตามตลาดโลก ใช่ครับ ก็พูดกันมานาน จนรัฐบาลจัดตั้งการยางแห่งประเทศไทยแต่ไม่ยักดีขึ้น เช่นเดียวกับข้าว ข้าวโพด ผัก ผลไม้ เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้ายตามฤดูกาล เห็นทุเรียนแพงก็ปลื้ม “มหาอำนาจผลไม้” ที่ไหนได้ สัปปะรดเหลือกิโลละบาท ยังดี มีกองทัพบกสั่งทหารช่วยซื้อ (เห็นหรือยัง ทหารมีไว้ทำไม)
ปัญหาเกษตรกรเป็นเรื่องใหญ่ นายกฯ ก็ตระหนัก กระทั่งร่ายกลอน “สู่ขวัญเกษตรกร” ขอให้อดทนรอท่านแก้ปัญหา อย่าเดินตามคนเลวชี้นำ ต้องเชื่อคำแนะนำของทางการ
“ทนเหนื่อยกาย เหนื่อยใจ ไปอีกนิดเราต้องฟิต ระเบิดใจ ให้กว้างขวาง” แหม ก็รอมา 3 ปีแล้วนะครับ ยังไม่เลือกตั้ง เอ๊ย ยังแก้ปัญหาปากท้องไม่ได้ซักที
นายกฯ ยังพูดถึงการซื้อเครื่องบินว่า รัฐบาลไม่ได้ใช้งบกระจุกแค่เรื่องซื้ออาวุธ ด้านการเกษตรก็อนุมัติงบเฉลี่ย 2-3 หมื่นล้านต่อสัปดาห์
ท่านพูดจริงนะครับ รัฐบาลนี้ใช้งบอุ้มเกษตรกรเยอะมาก เมื่อวันอังคารก็ให้งบ 1,296.53 ล้านบาท ทำโครงการปรับพื้นที่ปลูกพืชอย่างเหมาะสม เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ธ.ก.ส.แถลงว่าได้โอนเงินค่าช่วยเหลือต้นทุนการผลิตไร่ละ 1,000 บาท และค่าเก็บเกี่ยวอีกไร่ละ 1,000 บาท ให้เกษตรกร 3.8 และ 3.7 ล้านรายเป็นเงิน 63,807 ล้านบาท
เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ครม.ก็อนุมัติโครงการ 9101 ตามรอยเท้าพ่อ สนับสนุนเงินลงทุนให้ 9,101 ชุมชน ชุมชนละ 2.5 ล้านบาท รวม 22,800 ล้านบาท แต่ละชุมชนกำหนดให้มีเกษตรกรเข้าร่วม 500 คนและต้องใช้เงินจ้างเกษตรกรไม่น้อยกว่า 50% ถัวเฉลี่ยคนละ 2,500 บาท (ซึ่งรัฐมนตรีพูดเองว่า ห่วงใยมาก อย่าให้มีบัญชีผี)
นอกจากนี้ กรมส่งเสริมการเกษตรยังจะของบอีก 7,000 ล้านบาท ปรับเปลี่ยนพื้นที่ปลูกข้าวไม่เหมาะสม 3.36 ล้านไร่ ไปปลูกข้าวโพด โดยให้เงินสนับสนุนไร่ละ 2,000 บาท
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว รัฐบาลก็อนุมัติเงินกองทุนหมู่บ้านปี 2560 อีก 1.5 หมื่นล้านบาท จากที่ให้ไป 3.5 หมื่นล้านบาทในปี 2559 นี่ยังไม่นับงบประชารัฐ โครงการตำบลละ 5 ล้านบาท งบขุดลอกคลองที่จ้างองค์การทหารผ่านศึกฯ สนามฟุตซอล ฯลฯ
3 ปีรัฐบาลนี้ทุ่มงบให้เศรษฐกิจฐานรากเยอะมากจริงๆ เผลอๆ จะไม่น้อยหน้าโครงการรับจำนำข้าว จำนำราคาพืชผล ที่ก่นด่ากันว่าเสียหายหลายแสนล้าน แต่ไม่รู้เป็นไร ชาวบ้านกลับไม่เห็นเนื้อเห็นหนัง เห็นแต่บ่นพึมพำ จนท่านผู้นำต้องออกมาปราม “อย่าเดินตามคนเลวชี้นำ”
ลองสำรวจดูหน่อยไหมครับ ทำไมใช้เงินบานเบอะขนาดนี้ ชาวบ้านยังรู้สึกว่าล้มเหลว อย่างน้อยก็ล้มเหลวทางการเมือง ทำให้คนหวนหานโยบายรับประกันหรือรับจำนำ