TISCO ประเดิมสวย

ลูบคมตลาดทุน : ธนชัย ณ นคร

กลุ่มทิสโก้ TISCO แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/60 ออกมาได้สวยงาม

กำไรสุทธิ 1,505 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 25% จากไตรมาส 2/59

และเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 1% จากไตรมาส 1/60

ตัวเลขกำไรที่ว่านี้ดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ด้วย

สินเชื่อแม้จะเติบโตติดลบ 2%

แต่ตัวเลขเงินกองทุนต่อสินทรัพย์ยังเพิ่มขึ้นไปแตะ 20.5% น่าจะสูงสุดในระบบธนาคารพาณิชย์

เท่านั้นยังไม่พอ

Coverage Ratio ได้เพิ่มจาก 164% จากไตรมาส 1/60 ขึ้นมาเป็น 174% ในไตรมาสล่าสุด

ขณะที่ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ขยับลงมาเหลือเพียง 2.41%

วานนี้นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ต่างยังคงแนะนำ “ซื้อ” TISCO

ราคาเป้าหมายสูงสุดอยู่ 92 บาทที่ให้โดย บล.โนมูระ พัฒนสิน

ส่วนราคาเฉลี่ยจาก 7 โบรกฯจะอยู่ประมาณ 84.00 บาท

ว่ากันว่ากลุ่มทิสโก้เป็นบริษัทจดทะเบียน(บจ.)แห่งแรกที่แจ้งผลประกอบการ Q2 สวยๆแบบนี้

จะเป็นเซนติเมนต์(Sentiment) ที่ดีกับตลาดหุ้น

ทำให้เกิดความเชื่อมั่นและมี “แรงซื้อ” เข้ามาในตลาดหุ้นวานนี้

สเต็ปต่อไปที่ต้องลุ้นกันคือหุ้นในกลุ่มธนาคารตัวอื่นๆเป็นอย่างไร

วันศุกร์ที่ 14 กรกฎาคมนี้หุ้น KKP และ TCAP ก็จะแจ้งผลประกอบการ Q2 ตามมา

หากดูจากการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

น่าจะทุกโบรกฯ เลยนะที่คาดว่าทั้ง KKP และ TCAP จะมีผลกำไรที่งดงาม

อย่าง บล.เคจีไอฯ คาด TCAP มีกำไรสุทธิ 1,575 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 7.4%

และ KKP จะมีกำไรสุทธิ 1,410 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 8.7%

หากทั้ง 2 แบงก์โชว์ตัวเลขได้สวยกว่าคาดการณ์ก็ยิ่งเป็นแรงบวกต่อภาวะตลาดโดยรวมขึ้นไปอีก

แต่ก็อย่างว่านะต้องไปลุ้นกับหุ้นแบงก์ขนาดใหญ่ 4 แห่งในสัปดาห์หน้า

ทั้ง BBL, KTB, KBANK และ SCB

ทั้งหมดนี้เป็นหุ้นที่นักลงทุนจับตามองมากสุด

KBANK และ BBL ถูกมองว่ากำไรจะเพิ่มขึ้นจากไตรมาส 2/59

ส่วน KTB กับ SCB อาจปรับลง

หากกำไร 4 แบงก์ใหญ่ออกมาตามที่โบรกฯคาดก็ไม่น่าห่วงเท่าไหร่

แต่หากออกมาต่ำกว่าที่คาดไว้

ก็ต้องตัวใครตัวมันไว้ก่อน

เพราะผลประกอบการในกลุ่มธนาคารไม่ว่าจะดีหรือไม่ดีจะมีนัยสำคัญหรือสะท้อนไปยัง บจ. อื่นๆในตลาดหุ้น

จึงต้องมาลุ้นครับและภาวนาให้ 4 แบงก์ใหญ่ออกมาดี

หรือเลวร้ายสุดก็ให้เป็นไปตามคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

หรือหากกำไร 4 แบงก์ใหญ่เพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาดกันไว้

แต่หนี้เสียก็ยังเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ตัวเลขที่ออกมาแบบนี้ถือเป็นสัญญาณที่ไม่ดี

หุ้นอาจถูกขายทิ้งได้ง่ายๆ

หลังการประกาศหุ้นในกลุ่มธนาคารต่อไปก็น่าจะเป็น DTAC และ SCC แต่นักลงทุนน่าจะติดตามผลประกอบการของ SCC มากกว่า

ข่าวว่าตัวเลขกำไรอาจไม่ดีนักได้รับราวๆ 1.28 หมื่นล้านบาทลดลง 20%

ปัจจัยหลักๆ มาจากส่วนแบ่งรายได้จากธุรกิจปิโตรเคมีลดลง

ก่อนหน้านี้นักวิเคราะห์ต่างบอกว่าภาพรวมผลประกอบการของบจ.Q2 ไม่ค่อยดีนัก

โอกาสกำไรปรับลดลงมีค่อนข้างสูง

ก็ได้แต่แอบหวังว่าหุ้นบิ๊กแคปทั้งหลาย

จะมีเซอร์ไพรส์บ้าง