พาราสาวะถีอรชุน

ยังคงประสานเสียงกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยสำหรับ เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ กับ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ยืนยัน ไร้พิมพ์เขียว ไม่มีการฮั้วเรื่องผ่านร่างรัฐธรรมนูญแน่นอน พร้อมๆ วาทกรรม ไม่มีการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสานต่องานด้านการปฏิรูปให้ลุล่วง


ยังคงประสานเสียงกันเป็นปี่เป็นขลุ่ยสำหรับ เทียนฉาย กีระนันทน์ ประธานสภาปฏิรูปแห่งชาติ กับ บวรศักดิ์ อุวรรณโณ ประธานกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ยืนยัน ไร้พิมพ์เขียว ไม่มีการฮั้วเรื่องผ่านร่างรัฐธรรมนูญแน่นอน พร้อมๆ วาทกรรม ไม่มีการสืบทอดอำนาจ แต่เป็นการสานต่องานด้านการปฏิรูปให้ลุล่วง

หากเป็นนักการเมืองหรือคนการเมือง จะถูกมองคำพูดลักษณะนี้เป็นเรื่องของการแถ แต่พอเป็นเรื่องของคนดีนี่จึงเป็นสิ่งที่น่าชื่นชม เช่นเดียวกันกับลีลาของดอกเตอร์ปื๊ดที่ล่าสุด ออกมาอ้อนขอให้ใช้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไปก่อนอย่างน้อย 5 ปีแล้วค่อยแก้ไข พร้อมหยอดคำหวานถ้าบ้านเมืองเกิดความปรองดองอาจจะกลับมาแก้ ให้พรรคการเมืองเข้มแข็งโดยให้มีเสียงในสภาเกินกึ่งหนึ่งก็ได้

แต่ที่ยังไม่วายเป็นแผ่นเสียงตกร่างคือปม “พลเมืองเป็นใหญ่” ที่บวรศักดิ์ย้ำนักย้ำหนาว่า เป็นสิ่งที่เปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมในกระบวนการทางการเมืองอย่างถึงที่สุด ซึ่งก็ไม่รู้ว่าใช้อะไรมาคิด ปิดแผลที่ตัวเองเป็นคนเปิดไว้เอง ถ้าให้พลเมืองเป็นใหญ่แล้วไฉนเลือกตั้งส.ว.จะต้องให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองก่อนถึงจะให้ประชาชนเลือก

เป็นการย้อนแย้งที่ตอกย้ำว่า ท้ายที่สุด พลเมืองที่เป็นใหญ่นั้น หนีไม่พ้นกลุ่มคนดีแค่ไม่กี่พวกกี่ราย รวมไปถึงพรรคข้าราชการ (ที่เป็นพวกผู้มีอำนาจ) อย่างที่เคยบอกไว้ น่าจะกล้าพูดหน่อยว่า พลเมืองที่จะมีบทบาทอย่างสำคัญตามรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็คือ พลเมืองที่ช่วยกันล้มรัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ไม่รู้จะลับ ลวง หลอกกันไปถึงไหน

ที่รู้เช่นเห็นชาติกันแล้วก็กรณีการสับขาหลอกอดีตสมาชิกบ้านเลขที่ 109 และ 111 จากที่วิพากษ์วิจารณ์กันหลังรัฐธรรมนูญชั่วคราวมีผลบังคับใช้ ก็ดอกเตอร์ปื๊ดคนนี้ไม่ใช่หรือที่เที่ยวบอกว่า ในชั้นคณะกรรมาธิการยกร่างจะระบุให้ชัด นักการเมืองจำนวน 220 ชีวิตที่ถูกลงโทษไปแล้วจากการเว้นวรรคคนละ 5 ปีจะไม่อยู่ในข่ายดังว่า

แต่พอมาแบเนื้อหาเนื้อในของรัฐธรรมนูญร่างแรกที่ผ่านการอภิปรายของสปช. กลับชัดเจนว่าคนการเมืองจำนวนดังกล่าวจะถูกหางเลขอย่างแน่นอน นี่ยังไม่นับรวมกลุ่มอดีตส.ส.และส.ว.ที่รอการเชือดจากสนช.ที่รับไม้ต่อมาจากป.ป.ช.อีกจำนวนหนึ่ง ซึ่งสะท้อนเจตนารมณ์ชัดเจนว่า นอกจากระบบเลือกตั้งที่พิลึกพิลั่นแล้ว ยังมีการตีกันนักการเมืองที่จะเป็นอุปสรรคสำหรับผู้ต้องการสืบทอดอำนาจไปจากระบบอีกด้วย

จะอธิบายอย่างไรคงเข้าใจกันได้ยาก ทั้งหมดจึงหนีไม่พ้นภาระการตัดสินใจของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะองค์รัฏฐาธิปัตย์ หากไม่อยากให้บ้านเมืองวุ่นวายซ้ำซาก เสียของสูญเปล่าจากการทำรัฐประหาร จะต้องสังคายนารัฐธรรมนูญฉบับนี้กันในหลายจุด หากเดินตามทรงนี้คนที่คสช.เรียกมาใช้งานอย่าง สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ คงไม่แฮปปี้

นอกจากนั้น ยังมีนักการเมืองอีกจำนวนหนึ่งซึ่งแทงกั๊กรอนำพาพรรคไปจับมือจัดตั้งรัฐบาลกับพรรคนอมินีเพื่อการสานต่ออำนาจ ถ้าระดับหัวต้องติดกับดักเว้นวรรคคงยากที่การเมืองหลังเลือกตั้งครั้งหน้าจะสงบสุข เว้นเสียแต่ว่า จะมีเจตนาบอนไซไม่เว้นแม้กระทั่งพรรคขนาดกลางและขนาดเล็กนั่นก็อีกเรื่อง นั่นเท่ากับเป็นการทำให้พรรคการเมืองแตกกระสานซ่านเซ็น

เป็นเรื่องจนได้ สถานีโทรทัศน์พีซ ทีวีของคนเสื้อแดง หลังจากถูกมติกสท.สั่งพักการออกอากาศไปเมื่อ 10-16 เมษายนที่ผ่านมา กลับมาออกอากาศได้เพียง 10 วันกสท.ก็มีมติซ้ำสั่งเพิกถอนใบอนุญาตหรือเป็นการปิดสถานีแบบถาวรนั่นเอง เป็นการลงมือแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ยด้วยมติ 4 ต่อ 1 เสียง ฟังจาก สุภิญญา กลางณรงค์ กรรมการกสท.ที่คัดค้านแล้วเห็นความไม่ปกติหลายประการ

อย่างหนึ่งที่เห็นได้ชัดถึงความรีบเร่งก็คือ เป็นการลงมติโดยที่ผู้เสียหายไม่ได้รับโอกาสเข้าชี้แจง ขณะเดียวกันก็พบว่า เทปรายการที่กล่าวหาว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงจนเป็นเหตุให้ต้องรีบพิจารณาแบบฉุกเฉินนั้น เจ้าหน้าที่ยังถอดเทปไม่เสร็จ มันอะไรจะขนาดนั้น คนที่จะตอบคำถามนี้ได้ดีคือ นที ศุกลรัตน์ ประธานกสท.

แต่เจ้าตัวก็เลี่ยงที่จะให้สัมภาษณ์ใดๆ มีเพียงการทวิตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวอธิบายเป็นฉากๆ แต่ไม่กระจ่างชัด จนสุภิญญาออกมาสำทับซ้ำอีกว่า ความผิดสังเกตอีกประการคือ หลังการลงมติทุกครั้ง รองเลขาธิการกสทช.จะต้องมีการแถลงผลการลงมติ แต่รอบนี้ไม่มีและไม่ทราบว่าเพราะเหตุใด แต่ในวันรุ่งขึ้นได้มีการนำมติแสดงบนเว็บไซต์ของกสทช.ทันที ทั้งที่ก่อนหน้าแต่ละมติต้องใช้เวลารอนานหลายเดือน

เมื่อเป็นเช่นนั้น จึงทำให้มองเป็นอย่างอื่นไปไม่ได้นอกเหนือจากว่า มีอำนาจสั่งการเบื้องหลังให้มีการดำเนินการอย่างเด็ดขาด ปิดปากสถานีของคนเสื้อแดง ขณะที่สถานีการเมืองของอีกฝั่งยังอยู่กันสบายดี ที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือ บางสถานีทำผิดในลักษณะเดียวกัน แต่มีการลงโทษตามขั้นตอนคือ เรียกไปชี้แจงแล้วก็ปรับเป็นพิธี

นี่เป็นอีกจุดหนึ่ง ซึ่งบิ๊กตู่คงจะมานั่งท่องคาถาว่าเป็นเรื่องของหน่วยงานที่มีหน้าที่ไม่ได้ เพราะตามข่าวที่แว่วมา หน่วยงานด้านความมั่นคงบางกลุ่มก็แสดงความไม่พอใจ เพราะเห็นว่ากสทช.ทำงานล้ำเส้นเกินเหตุ เกรงว่าจะเป็นการนำพาภัยมาสู่ผู้มีอำนาจ เท่าที่รู้มีการตรวจเช็กคเรตติ้งกันแล้วพบว่าสถานีที่ถูกปิดไม่ธรรมดา เลยไม่รู้ว่า เป็นอีกสาเหตุที่ทำให้เกิดการเชือดหรือเปล่า

สถานการณ์เศรษฐกิจมองไม่เห็นทิศทางเชิงบวก วันวาน บัณฑูร ล่ำซำ ประธานกรรมการธนาคารกสิกรไทย ฟันธงยังไม่มีสัญญาณการฟื้นตัว สิ่งสำคัญคือใบเหลืองจากอียูกรณีการทำประมงผิดกฎหมาย เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องเร่งแก้ไขและทำให้เสร็จตามกำหนด ถ้าไม่ทันจะเป็นตัวซ้ำเติมวิกฤติให้หนักข้อเข้าไปอีก หรือว่าถึงเวลาที่จะต้องเขย่าเก้าอี้เสนาบดีกันเสียที

 

Back to top button