เม่าสู้ยิบตา
*ขอเรียนตามตรงว่า การลงทุนในวันนี้ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายเหมือนกับที่ผ่านมา เพราะผู้เล่นแต่ละกลุ่มเข้าใจถึงนโยบาย “เล็กสั้น ขยันซอย” จึงยอมรับกับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกสถานการณ์ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นดัชนีดันกลับขึ้นมาปิดที่ 1,575.85 จุด บวกไป 4.33 จุด ด้วยมูลค่า 3.62 หมื่นล้านบาท มันเป็นแพทเทิร์นที่เซียนเทคนิคเข้าใจกิมมิคเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*ขอเรียนตามตรงว่า การลงทุนในวันนี้ไม่มีพิธีรีตองอะไรมากมายเหมือนกับที่ผ่านมา เพราะผู้เล่นแต่ละกลุ่มเข้าใจถึงนโยบาย “เล็กสั้น ขยันซอย” จึงยอมรับกับปัจจัยเสี่ยงที่เกิดขึ้นได้ทุกสถานการณ์ “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นดัชนีดันกลับขึ้นมาปิดที่ 1,575.85 จุด บวกไป 4.33 จุด ด้วยมูลค่า 3.62 หมื่นล้านบาท มันเป็นแพทเทิร์นที่เซียนเทคนิคเข้าใจกิมมิคเป็นอย่างดีเจ้าค่ะ
*ยิ่งเห็นดัชนีกวัดแกว่งในลักษณะ “ขึ้นๆ ลงๆ” ที่บริเวณ 1,530-1,580 จุด ยิ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมว่า “ขึ้นขาย ลงซื้อ” น่าจะเป็นแนวทางการลงทุนที่เหมาะสมสุดในจังหวะนี้ วานนี้ถึงเห็นกองทุนตัวแสบ ฝรั่งตาน้ำข้าว จูงมือปอบผีฟ้า ขายหุ้นกันอย่างสนุกมือ ขณะที่แมงเม่าปีกแข็งกลับเข้ามาไล่ซื้อหุ้นเข้าพอร์ตกันอย่างเมามัน ส่งผลให้ภาพรวมของตลาดหุ้นยังเหมือนเดิมทุกประการไงล่ะค่ะ
*ประกอบกับสัญญาณจุดไข่ปลากำลังดันก้นแท่งเทียนแบบสุดลิ่มทิ่มประตู “โมนิก้า” ถึงมองไซเคิลของดัชนีวานนี้ยังเป็นแบบ “ขึ้นเพื่อขาย” และหากจุดไข่ปลายังเรียงตัวขึ้นแบบ 45 องศา ย่อมทำให้เชื่อว่า ดัชนีจะทะยานขึ้นไปสร้างแนวรับใหม่ที่สูงกว่า 1,580 จุด เผลอๆ อาจพุ่งขึ้นไปยืนเหนือ 1,590 จุดเสียด้วยซ้ำ! แต่ที่แน่ๆ คือ วันนี้ห้ามจุดไข่ปลาขึ้นไปอยู่บนหัวแท่งเทียนเป็นอันขาด เพราะมันฟ้องว่า หุ้นจะลงนะซี
*เหมือนกับในรายของ DTAC ก็เป็นอะไรที่เซอร์ไพรส์มากๆ หลังหุ้นกระชากขึ้นมาปิดที่ 56.50 บาท บวกไป 2.25 บาท หรือขึ้นไป 4.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1 พันล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่ผิดคาด และไม่สามารถยอมรับกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเที่ยวนี้ได้เลย เพราะการทำ new high ในรอบ 1 ปี 7 เดือน ทั้งที่ตัวเองยังไม่มีของดีอยู่ในมือ มันเหมือนการปิดตาเดินในบ่อจระเข้…มีโอกาสโดนเขมือบสูงเหลือเกินเจ้าค่ะ
*อีกหนึ่งรายที่สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ IHL ในทันที เพราะก่อนหน้านี้ไม่มีอะไรต้องสนใจมากมายอีกต่อไป เกมหุ้นทำท่าจะปิดฉากหลายรอบ แต่ในระหว่างทางกลับมีแรงฮึดตลอดเวลา จนวานนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ระดับ 10.80 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 5.90% ด้วยมูลค่า 107 ล้านบาท ซึ่งเป็นราคาที่ไม่เคยเห็นมาก่อนในรอบ 5-6 ปีแบบนี้ แสดงว่า งบไตรมาส 2 ต้องออกมาเลิศสุดๆ ใช่ไหมค่ะ
*ผิดกับในรายของ SAMART มีข่าวจะทำโน่นทำนี่เพื่อสร้างรายได้และกำไร “โมนิก้า” ถือเป็นโมเมนตัมเดิมๆ ที่เห็นกันมาเป็นเวลานาน แต่ที่แย่หน่อยคือ วันนี้ยังต้องปากกัดตีนถีบกันต่อไป ส่งผลให้แรงซื้อที่เคยมีเข้ามาอย่างหนาแน่น กลายเป็นแรงซื้อที่มีเข้ามาแบบกระปริบกระปรอย หุ้นถึงทรุดลงจากระดับ 16.50 บาท ลงมายืนต่ำกว่า 14 บาท ก่อนจะเด้งขึ้นมาปิดที่ 14.60 บาท ลบไป 0.80 บาท ถือเป็นจุดที่น่าวัดดวงดีเหลือเกินพะยะค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ CRANE ทำนักเล่นบาดเจ็บล้มคว่ำมาแล้วหลายตลบ แต่สุดท้ายก็ยังมีคนเข้ามาเล่นกันอย่างคึกคัก จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 2.54 บาท บวกไป 0.28 บาท หรือขึ้นไป 12.40% ด้วยมูลค่า 132 ล้านบาท แถมเป็นการทะยานขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน 3 วันติด “โมนิก้า” ถือเป็นเกมเสี่ยงที่นักเล่นต้องพิจารณากันให้ดีๆ หากเที่ยวนี้ไม่ได้มาเล่นๆ หนังเรื่องยาวแน่ๆ ในทางกลับกันหากเป็นแค่การเคาะกะลาเรียกฝูง งานนี้มีคนเจ็บตัวหนักชนิดที่เข็ดไปอีกนาน..อิอิอิ
*ไหนๆ ชอบเล่นเกมเสี่ยงกันทั้งที “โมนิก้า” ขอแนะนำให้แฟนคลับหันมาพิจารณา MCOT เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับการเล่นในเที่ยวนี้บ้างดีกว่า อย่างน้อยก็มีเรื่องผลประกอบการให้ได้ลุ้นกันสนุกๆ โอกาสที่หุ้นจะรูดมหาราชคงไม่เกิดขึ้นง่ายๆ หลังหุ้นถูกดันขึ้นมาปิดที่ 14.90 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่า 78 ล้านบาท มันสะท้อนถึงความนิยมที่มีอย่างล้นหลาม และมีโอกาสเห็นหุ้นวิ่งขึ้นไปทดสอบ 16 บาทเป็นรอบ 3 นะจ๊ะ
*เม้าท์ถึงเรื่องนี้ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอวกกลับเข้าไปดู TFG ภายใต้การกุมบังเหียนของ “พี่เชิด” เพื่อกระตุ้นต่อมอาดรีนาลีนให้ทำงานรัวๆๆ หลังเห็นหุ้นร่วงลงตลอด จนสุดท้ายลงมาปิดที่ 5.10 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.80% เดี๊ยนถือเป็นสถานการณ์ที่บีบบังคับรายย่อยมากพอสมควร หลังแรงเทขายยังไม่สะเด็ดน้ำสักที จึงขอแนะนำให้อยู่ห่างๆ ก่อนดีกว่าเจ้าค่ะ