คุณค่าบริษัท : EASON ธุรกิจสีที่เติบโตสม่ำเสมอ

พูดถึงผู้ผลิตสีอุตสาหกรรมชั้นนำระดับต้นๆ คงมีไม่กี่รายติดตลาด หนึ่งในนั้นที่ติดคงเป็น บริษัท อีซึ่น เพ้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ EASON ซึ่งเป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายสีอุตสาหกรรม ได้แก่ สีพ่นรถจักรยานยนต์ สีเคลือบบรรจุภัณฑ์ และหมึกพิมพ์งานโลหะ โดยบริษัทรับจ้างผลิตสินค้าให้แก่เจ้าของลิขสิทธิ์สีพ่นรถจักรยานยนต์ เพื่อส่งมอบให้แก่กลุ่มลูกค้าผู้ใช้สีที่เป็นผู้ผลิตชิ้นส่วนรถจักรยานยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ


รวมถึงร่วมมือทางการค้ากับเจ้าของลิขสิทธิ์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ลูกค้าสามารถใช้ได้กับสภาพแวดล้อมในแต่ละประเทศ สำหรับสีเคลือบบรรจุภัณฑ์และหมึกพิมพ์ออฟเซ็ทงานโลหะ บริษัทจะผลิตตาม Know-how ที่บริษัทได้วิจัยพัฒนาขึ้น และผลิตจากความร่วมมือทางการค้ากับเจ้าของลิขสิทธิ์ต่างๆ จากนั้นจะจำหน่ายสีให้กับลูกค้าผู้ใช้สีโดยตรงภายใต้ตราสินค้า EASON และ INX

สำหรับสัดส่วนรายได้ประเมินจากปี 2559 โดยมาจากกลุ่มยานยนต์ราว 28%, สีบรรจุภัณฑ์ราว 68% และส่วนงานอื่นราว 4%

ที่สำคัญเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจสีที่เติบโตสม่ำเสมอ อย่างในปี 2556-ปัจจุบัน โดยในปี 2556 บริษัทมีกำไรสุทธิ 96.52 ล้านบาท ต่อมาในปี 2557 บริษัทมีกำไรสุทธิ 65.66 ล้านบาท ส่วนในปี 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 71.25 ล้านบาท และในปี 2559 บริษัทมีกำไรสุทธิ 88.61 ล้านบาท

ส่วนผลการดำเนินงานในไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2560 บริษัทมีกำไรสุทธิลดลงเหลือ 19.00 ล้านบาท หรือ 0.0407 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 23.48 ล้านบาท หรือ 0.0821 บาทต่อหุ้น  เป็นเพียงต้นทุนขายและบริการ รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหารเพิ่มขึ้นมา แต่ไม่น่าวิตกเนื่องจากในส่วนรายได้จากการขายและบริการ รายได้อื่นๆ และส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในบริษัทร่วมยังคงเพิ่มขึ้น

อีกทั้งทางด้านสภาพคล่องของฐานะทางการเงินของบริษัทมีมาก เพราะบริษัทมีสินทรัพย์หมุนเวียนถึง 434.99 ล้านบาท เมื่อมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 60.51 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio อยู่ที่ 7.19 เท่า ซึ่งบริษัทมีสภาพคล่องมากจนอาจเป็นบ่อเกิดทุนจม

ที่สำคัญ ทางหนี้สินของบริษัทไร้เป็นห่วง เพราะบริษัทมีหนี้สินรวมแค่ 304.34 ล้านบาท นำไปเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้นมากถึง 1,062.16 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ 0.29 เท่า ปรากฏว่า บริษัทปลอดหนี้สินจริงๆ

เมื่อบริษัทมีสภาพคล่องทำให้บริษัทมีการปรับกลยุทธ์เพื่อไปบุกตลาดใหม่ หลังจากที่ครองตลาดสีพ่นรถจักรยานยนต์ในประเทศไทยมาอย่างยาวนาน (ปัจจุบันมีส่วนแบ่งตลาดราว 40%) บริษัทได้มีแผนขยายโอกาสการเติบโตไปยังประเทศเวียดนาม (ตลาดรถจักรยานยนต์ใหญ่กว่าประเทศไทย 2 เท่า) และอินโดนีเซีย (ตลาดรถจักรยานยนต์ใหญ่กว่าประเทศไทย 4 เท่า)

นอกจากนี้ EASON มีการกระจายการลงทุนผ่านบริษัทร่วม 2 แห่ง ได้แก่ 1) บริษัท แอดวานซ์ เพาเวอร์ คอนเวอร์ชั่น จำกัด หรือ APCON (ถือหุ้น 21%) ซึ่งประกอบธุรกิจรับเหมาก่อสร้างโรงไฟฟ้า และ 2) บริษัท ไบรท์ บลู วอเตอร์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ BBW (ถือหุ้น 5%) ซึ่งประกอบธุรกิจบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ

ข้อมูลเหล่านี้ บ่งบอกถึงปัจจัยบวก เพราะถือเป็นการเพิ่มศักยภาพให้กับตัวบริษัทในการเติบโตในอนาคต

สุดท้ายเมื่อนำมูลค่าทางบัญชีต่อหุ้นอยู่ 2.21 บาท มาคำนวณค่า P/BV ที่ระดับ 2 เท่า ซึ่งเป็นการคำนวณแบบอนุรักษนิยม จะได้ราคาเหมาะสมที่ระดับ 4.42 บาท และเมื่อนำเทียบกับราคาหุ้นบนกระดานที่ระดับ 3.96 บาท แสดงว่า ยังเหลือแก๊ปให้นักลงทุนเข้าเล่นอยู่

EASON จึงเป็นหุ้นอีกตัวที่น่าจับตา!!

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

  1. บริษัท เอกแสง โฮลดิ้งส์ จำกัด 152,581,899 หุ้น 32.71%
  2. นายคณพศ นิจสิริภัช   53,822,087 หุ้น 11.54%
  3. บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 25,578,834 หุ้น 5.48%
  4. MIKI & CO., LTD. 14,892,500 หุ้น 3.19%
  5. น.ส.โชติรส อัฑฒกรวโรดม 14,851,300 หุ้น 3.18%

รายชื่อกรรมการ

  1. นายสนั่น เอกแสงกุล ประธานกรรมการ
  2. นายสนั่น เอกแสงกุล ประธานกรรมการบริหาร
  3. น.ส.เพชรรัตน์ เอกแสงกุล กรรมการผู้จัดการ
  4. น.ส.เพชรรัตน์ เอกแสงกุล กรรมการ
  5. นายสนิท เอกแสงกุล กรรมการ

Back to top button