หุ้นกลุ่มแบงก์
แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/60 กันครบแล้ว สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคาร
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
แจ้งผลประกอบการไตรมาส 2/60 กันครบแล้ว สำหรับหุ้นกลุ่มธนาคาร
กำไรที่ออกมา 4.57 หมื่นล้านบาท ร่วงลง 9.18% อาจเป็นตัวเลขที่แย่กว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้
แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่ากังวลอะไร
เพราะทราบกันดีว่า กำไรที่ลดลงมาจากการตั้งสำรองหนี้ฯ หุ้น EARTH ของกรุงไทย หรือ KTB
ก่อนหน้าที่นักวิเคราะห์จะไป Company Visit กับทางผู้บริหารกรุงไทย
ขณะนั้น ทางธนาคารยังไม่ได้มีการแจ้งเกี่ยวกับเรื่องของ EARTH อะไรมากนัก
ทำให้นักวิเคราะห์ไม่ได้ดีดลูกคิดเพื่อคำนวณเรื่องการตั้งสำรองหนี้ฯ และกำไรของกรุงไทย ที่จะได้รับผลกระทบจากกรณีผิดนัดชำระหนี้ของ EARTH
เลยเคาะกันว่ากำไรของกรุงไทยจะอยู่ประมาณ 8,500 พันล้านบาท
ใกล้เคียง หรือลดลงเพียงเล็กน้อยจากไตรมาส 2/59
และนั่นจึงเป็นเหตุให้กำไรรวมของหุ้นกลุ่มแบงก์หายไปจากที่ได้คาดการณ์กันไว้ประมาณ 5 พันล้านบาท
มีการคำนวณกันไว้ด้วย
ว่าหากตัดกรณีปัญหาของกรุงไทย กับ EARTH ออกไป ก็ถือว่ากำไรกลุ่มแบงก์มากกว่าที่คาดกันไว้
ธนาคารบางแห่ง อาจมีกำไรต่ำกว่าประมาณการกันบ้าง
ทว่า บางแห่ง ก็ทำได้มากกว่าที่ตลาดคาด ทำให้ภาพรวมไม่ได้ดูเลวร้ายอะไร
ประเด็นที่น่าสนใจคือ ตอนนี้ทุกคนมองไปที่แนวโน้มไตรมาส 3/60
แม้ว่านักวิเคราะห์ และนายแบงก์จะยอมรับว่า ตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ หรือ NPL จะยังคงเพิ่มขึ้น
แต่เป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราชะลอตัว
และถือเป็นจุดสูงสุดแล้ว
เพราะหลังจากไตรมาส 3/60 ตัวเลขสำคัญทางการเงินต่างๆ จะเริ่มกลับมาดีขึ้น
ส่วนการตั้งสำรองหนี้ฯ ก็มองกันว่า ไตรมาส 3 จะปรับลง
สาเหตุก็เพราะ หลายๆ แบงก์ตั้งสำรองหนี้ฯ ไว้ค่อนข้างเยอะแล้วก่อนหน้านี้ โดยให้เหตุว่า รองรับกับภาวะเศรษฐกิจผันผวนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตนั่นแหละ
แม้แบงก์ขนาดใหญ่ 4 แห่ง กำไรจะถูกกดดันจากหนี้เสียบ้าง
ปัญหานี้ก็ไม่ได้ทำให้นักลงทุนถึงกับกังวลอะไร
KBANK หรือกสิกรไทย รายงานกำไรต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เล็กน้อยนั้น ก็ยังได้รับความสนใจจากนักลงทุน
ในช่วง 1-2 อาทิตย์ก่อนหน้านี้
นักลงทุนต่างชาติเข้าซื้อหุ้น KBANK ต่อเนื่อง ผ่าน NVDR
ข่าวว่าเฉลี่ยต่อวันมากกว่า 100 ล้านบาท
KBANK ช่วงกลางเดือน ก.ค. ราคาวิ่งทะลุขึ้นไปมากกว่า 200 บาท ต่อหุ้น
แต่พอแจ้งผลประกอบการออกมา มีแรงขาย(ทิ้ง) และขายทำกำไรกันออกมาบ้าง
ส่วนเมื่อวานนี้ เริ่มมีแรงซื้อกลับเข้ามาอีกครั้ง ให้ราคาพลิกมาเป็นบวก
เช่นเดียวกับหุ้นใหญ่อีก 2 แบงก์ คือ ไทยพาณิชย์(SCB) และ กรุงเทพ(BBL) ที่นักวิเคราะห์แนะนำทยอยซื้อ หรือสะสมเข้าพอร์ต
สำหรับ KBANK และ SCB เริ่มมีคุณภาพสินทรัพย์ที่ปรับดีขึ้น
ภาพรวมของแบงก์เริ่มปล่อยสินเชื่อพลิกกลับมาเป็นบวก
สถานการณ์หนี้เสียของแบงก์ เช่น TISCO TCAP และ KKP ถูกนักวิเคราะห์สรุปว่า ค่อนข้างทรงตัว
และแนะนำให้ “ทยอยซื้อ” เช่นกัน