คุณค่าบริษัท : IHL อนาคตข้างหน้าสดใส
มีการวิเคราะห์กันว่า บริษัท อินเตอร์ไฮด์ จำกัด (มหาชน) หรือ IHL จะมีปัจจัยสำคัญที่จะขับเคลื่อนการเติบโตในอีกสามปีข้างหน้าได้แก่ การรับรองระดับ gold, อุปทานการฟอกหนังที่ตึงตัวขึ้นในประเทศจีน, order ฟอกหนังใหม่, และโรงงานแห่งใหม่ที่จะเริ่มผลิตในไตรมาส 1 ปี 61 ซึ่งจะทำให้ความสามารถในการฟอกหนังเพิ่มขึ้นสามเท่าในปี 62
ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2 ปี 60 คาดว่ารายได้จากบริการฟอกหนังจะโตถึง 58% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เป็น 115 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจาก order ใหม่จาก GLI แต่คาดว่ารายได้จากยอดขายเบาะหนังรถยนต์จะลดลง 7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เหลือ 365 ล้านบาท ตามยอดการผลิตรถยนต์ของประเทศที่ลดลง 4.3% จากงวดเดียวกันของปีก่อน
อีกทั้งประเมินว่า Blended GPM ในไตรมาส 2 ปี 60 น่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 23.8% จาก 19.2% ในไตรมาส 2 ปี 59 เนื่องจากมีสัดส่วนของรายได้จากบริการฟอกหนังเพิ่มขึ้น ซึ่งบริการฟอกหนัง GPM สูงถึง 35% ในขณะที่เบาะหนังรถยนต์มี GPM อยู่ที่ 18% เท่านั้น
โดยรวมแล้วคาดว่ากำไรสุทธิน่าจะเพิ่มขึ้น 22% จากงวดเดียวกันของปีก่อนเป็น 58 ล้านบาท แต่จะลดลง 21% เนื่องจากเป็นช่วง Low season ในขณะที่คาดว่ากำไรสุทธิในครึ่งแรกของปี 60 จะคิดเป็น 52% ของประมาณการทั้งปี ซึ่งทำให้ประมาณการของเราดูเหมือนจะอนุรักษนิยมเกินไป ซึ่งจาก order ฟอกหนังใหม่ที่เริ่มสร้างรายได้ให้บริษัทตั้งแต่ไตรมาส 2 ปี 60 ทำให้คาดว่ากำไรน่าจะแกว่งตัวเพิ่มขึ้นตั้งแต่ไตรมาสนี้เป็นต้นไป
นอกจากนี้ เมื่อไม่นานทาง IHL เพิ่งติดตั้งเครื่องจักรใหม่ที่ใช้สำหรับฟอกหนังเพื่อตอบสนอง order ใหม่ๆ โดยจะเริ่มในเดือนสิงหาคมนี้ ซึ่งจะทำให้ความเร็วในการฟอกหนังวัวเพิ่มขึ้นอีก 3-4 พันผืนต่อสัปดาห์ ในขณะที่ลูกค้าของบริษัทมีแผนที่จะเพิ่ม order ฟอกหนังหมูในปีนี้
ทำให้นักวิเคราะห์มั่นใจว่า IHL จะสามารถผลิตสินค้าเพื่อป้อน order (หนังวัว) ของ GLI ได้ครบตาม order ในปี 61 หลังจากที่โรงงานใหม่สร้างเสร็จเรียบร้อยในไตรมาส 1 ปี 61 ซึ่งทำให้ปรับเพิ่มประมาณการรายได้จากการฟอกหนังขึ้นอีก 9% เป็น 608 ล้านบาทในปี 60 และ 11% เป็น 1.0 พันล้านบาทในปี 61 หลังจากที่ order ฟอกหนังหมูเพิ่มขึ้น 0.9 ล้านผืนเป็น 5.4 ล้านผืนใน 2560-2561 และได้ปรับเพิ่มประมาณการ order จาก GLI เป็น 1.0 ล้านผืนในปี 2561 ซึ่งจะส่งผลให้กำไรในปี 2560 และ 2561 เพิ่มขึ้น 8% และ 5% ตามลำดับ
ในขณะที่นักวิเคราะห์ บล.กรุงศรี แนะนำให้ “ซื้อ” โดยปรับเพิ่มราคาเป้าหมายเป็น 13 บาท จากการที่บริษัทเปลี่ยนสถานะมาเป็นกิจการฟอกหนังชั้นนำในระดับโลก และ upside จะมาจาก order ฟอกหนังวัวใหม่ๆ
…
ผู้ถือหุ้นรายใหญ่
- นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ 120,045,482 หุ้น 24.22%
- น.ส.ชุติมา บุษยโภคะ 104,804,954 หุ้น 21.15%
- น.ส.วรรณวิสา ดำรงสกุลวงษ์ 24,333,333 หุ้น 4.91%
- นายวศิน ดำรงสกุลวงษ์ 23,633,333 หุ้น 4.77%
- นายวริทธิ์ ดำรงสกุลวงษ์ 23,333,333 หุ้น 4.71%
รายชื่อกรรมการ
- นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ ประธานกรรมการบริหาร
- นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ รองประธานกรรมการ
- นายองอาจ ดำรงสกุลวงษ์ กรรมการผู้จัดการ
- น.ส.ชุติมา บุษยโภคะ กรรมการ
- นายอวยชัย มติธนวิรุฬห์ กรรมการ