พาราสาวะถี

มันดูเป็นการ(มัก)ง่ายเกินไปไหม สำหรับบรรดากระบอกเสียงของผู้มีอำนาจหรือมันเป็นแนวทางของแป๊ะที่ต้องการจะให้เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็โยนให้เป็นความผิดของรัฐบาลที่ตัวเองยึดอำนาจมาทั้งหมด ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ เหมือนเป็นการปัดสวะให้พ้นตัว หากเป็นช่วงเริ่มต้นทำงานคนยังพอเข้าใจได้ แต่นี่ผ่านไปกว่า 3 ปีแล้ว ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน มันเข้าทำนองคนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบแก้ตัวเสียมากกว่า


อรชุน

มันดูเป็นการ(มัก)ง่ายเกินไปไหม สำหรับบรรดากระบอกเสียงของผู้มีอำนาจหรือมันเป็นแนวทางของแป๊ะที่ต้องการจะให้เป็นเช่นนั้น ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็โยนให้เป็นความผิดของรัฐบาลที่ตัวเองยึดอำนาจมาทั้งหมด ตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ เหมือนเป็นการปัดสวะให้พ้นตัว หากเป็นช่วงเริ่มต้นทำงานคนยังพอเข้าใจได้ แต่นี่ผ่านไปกว่า 3 ปีแล้ว ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน มันเข้าทำนองคนดีชอบแก้ไข คนอะไรชอบแก้ตัวเสียมากกว่า

เรื่องน้ำท่วมภาคอีสานเวลานี้ ที่หนักสุดคือจังหวัดสกลนคร กระบอกเสียงรัฐบาลบอกเป็นภัยธรรมชาติและเหตุสุดวิสัย รัฐบาลโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่จะลงพื้นที่พบปะให้กำลังใจประชาชนในวันนี้ เสียใจและพยายามจะให้ความช่วยเหลือทุกวิถีทาง พูดเพียงเท่านี้คนก็เข้าใจและพร้อมจะร่วมมือในการระดมความช่วยเหลือไปให้ผู้ประสบภัยอยู่แล้ว

แต่นิสัยตอดเล็กตอดน้อยเหมือนนักการเมืองมันติดตัวมาตั้งแต่ต้นหรือเริ่มออสโมซิสกลเกมการเมืองเข้าไปทุกวันหรืออย่างไรไม่ทราบ โฆษกรัฐบาลจึงบอกต่อไปว่าส่วนสถานการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2554 นั้นเกิดจากความผิดพลาดในการบริหารจัดการของรัฐบาลในเวลานั้น ไม่รู้ว่ามันเกิดประโยชน์อะไร แต่เมื่อท่านเลือกที่จะพูดก็จะขอนำสองเหตุการณ์มาเปรียบเทียบแล้วช่วยบอกหน่อยว่าใครกันที่ผิดพลาด

รัฐบาล ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เข้ามาบริหารประเทศช่วงเดือนสิงหาคมปี 54 ซึ่งได้เกิดน้ำท่วมไปแล้วในบางพื้นที่ โดยที่มีพายุกระหน่ำหลายลูกติด ปริมาณน้ำเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว เรียกได้ว่า รัฐนาวายังไม่ทันตั้งลำ ก็เจอโจทย์ใหญ่ในทันที แน่นอนว่าเรื่องการปิดกั้นไม่ให้น้ำไหลไปในทิศทางที่ควรจะเป็นหรืออะไรก็สุดแท้แต่ที่เป็นข้อกล่าวหา ก็เป็นสิ่งที่เรียกว่าเป็นเกมการเมืองที่สาดโคลนเข้าใส่กันของคู่แข่งในเวลานั้น

ความเป็นจริงก็คือ นั่นคือภัยธรรมชาติที่รุนแรงและหนักหนาสาหัสในรอบหลายสิบปีที่ผ่านมา ผู้ที่ทำหน้าที่บริหารประเทศเวลานั้นก็ได้พยายามแก้ไขเต็มที่ โดยระดมสรรพกำลัง ผู้ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญเท่าที่มีอยู่ ช่วยกันอย่างเต็มกำลัง ไม่เว้นแม้แต่บิ๊กตู่เองที่กุมบังเหียนผบ.ทบ.ก็ยังร่วมคณะออกไปตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจประชาชนกับเจ๊ปู (แม้ดูท่าเหมือนจะไม่ค่อยเต็มใจก็ตาม)

สถานการณ์ ณ เวลานั้น จะเห็นได้ว่าอดีตนายกฯ หญิงก็ไม่ได้โทษว่าเป็นเพราะรัฐบาลก่อนหน้าไม่ได้เตรียมการรับมือไว้ให้ แม้อาจจะมีลิ่วล้อหรือคนในพรรคเพื่อไทยจะพยายามชี้ให้เป็นความผิดพลาดของรัฐบาลเก่าก็ตาม แต่ยิ่งลักษณ์และชาวคณะยังคงตั้งหน้าตั้งตาดูแลแก้ไขปัญหาอย่างเต็มความสามารถจนทุกอย่างคลี่คลาย และประชาชนส่วนใหญ่ก็เข้าใจและเห็นใจ

ในขณะที่รัฐบาลนี้เข้ามาบริหารประเทศแล้วกว่า 3 ปี เจอน้ำท่วมหนักในพื้นที่ภาคใต้ ซึ่งก็ระดมกำลังให้ความช่วยเหลือตามศักยภาพทั้งหมดที่มี และเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วมที่ภาคอีสาน ณ วันนี้ก็ต้องขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการดูแลพี่น้องในภาคอีสาน แต่สิ่งหนึ่งที่เกิดคำถามขณะนี้ก็คือ เรื่องที่อ่างเก็บน้ำพัง ปริมาณน้ำล้นเขื่อนจนต้องระบายอย่างรวดเร็ว โดยไม่มีการแจ้งเตือนประชาชนนั้น ตรงนี้ถามว่าถือเป็นความผิดพลาดหรือไม่

หากยึดเอาแบบแผนหรือแนวทางการทำงานที่ตรงเผงก็ต้องบอกว่าเป็นความผิดพลาด แต่หากมองอย่างเข้าใจว่านี่คือสถานการณ์ฉุกเฉิน เหตุสุดวิสัย ทุกคนทุกฝ่ายก็จะมองอย่างเข้าใจว่าเป็นความจำเป็นของเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่จะต้องดำเนินการ โดยยอมสูญเสียหรือเสียหายบางส่วนเพื่อรักษาส่วนใหญ่ไว้ โดยผู้ได้รับผลกระทบก็เข้าใจ แล้วทำไมผู้มีหน้าที่ที่จะต้องสร้างความเข้าใจกับคนทั้งประเทศ จึงนำไปเป็นประเด็นทางการเมือง

หรือนี่เป็นการสร้างเกราะป้องกันภาวะขาลง เป็นความกดดัน เป็นอาการเกร็งและเกรงว่าจะถูกด่า เนื่องจากตัวเองสวมหัวโขนความเป็นคนดี เป็นผู้เลิศเลอกว่าใครในปฐพีจึงต้องไม่มีความผิดพลาดใดๆ จึงชิงกล่าวหาคนอื่นซึ่งไม่สามารถใช้สื่อเหมือนอย่างกระบอกเสียงรัฐบาลกำลังใช้อยู่ได้ น่าเสียดายจริงๆ ทั้งๆ ที่อีกหัวโขนของท่านโฆษกคือรักษาการอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์

หรือกลัวว่าที่เขาขนานนามให้เป็นกรมกร๊วกมาแต่อดีตมันจะไม่ขลัง ท่านรักษาการอธิบดีจึงช่วยทำให้มันเห็นภาพชัดเจนยิ่งขึ้น คงไม่ต่างจากกรณีที่วันนี้ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร จะเดินทางมาแถลงปิดคดีด้วยวาจาด้วยตนเองที่ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งมีการโหมประโคมข่าวตั้งแต่การสืบพยานนัดสุดท้ายแล้วว่า ขอประชาชนอย่าเดินทางมาให้กำลังใจมากและโปรดระวังมือที่ 3

อย่างที่บอกไว้หลายหน ยิ่งลักษณ์ไม่ใช่เดินทางมาศาลเป็นหนแรก เช่นเดียวกับมวลชนที่มาให้กำลังใจก็ไม่ใช่เพิ่งจะเดินทางกันมา เพียงแต่อาจจะมีจำนวนที่เพิ่มขึ้นมาหน่อย แต่ทั้งหมดก็ไม่เคยสร้างปัญหา กลายเป็นว่า ฝั่งผู้มีอำนาจกลับแสดงอาการหวั่นไหวให้เห็นเสียเอง หรือเกรงว่าคนมามากแล้วจะกดดันศาลมีผลต่อคำวินิจฉัย ประเด็นนี้ยิ่งเป็นไปไม่ได้และถ้าคิดก็ถือว่าเลอะเทอะกันไปใหญ่

ไม่เพียงเท่านั้น การที่กระบอกเสียงผู้มีอำนาจบอกว่ากรณีมีเจ้าของโกดังหรือโรงสี ออกมาให้ข้อมูลกับสื่อเรื่องการระบายข้าวที่นำเอาข้าวดีไปขายเป็นอาหารสัตว์ แทนที่จะไปตรวจสอบหาข้อเท็จจริง กลับรีบโยนว่าคนที่ออกมาเพื่อหวังผลทางการเมือง และเลือกช่วงนี้เพื่อให้มีผลต่อคดีของยิ่งลักษณ์ที่ศาลได้นัดวันตัดสินคดีไว้แล้ว

ถือเป็นจินตนาการที่ล้ำเลิศของคนที่พูด เพราะความเป็นจริงคดียิ่งลักษณ์ได้สืบพยานเสร็จสิ้นไปแล้วและกำลังจะแถลงปิดคดีในวันนี้ ดังนั้น ไม่ว่าจะมีการเคลื่อนไหวใดๆ ก็ไม่ได้มีผลต่อคดี และศาลท่านก็คงไม่ได้นำมาประกอบการพิจารณา ในทางตรงข้าม การที่คนซึ่งเลือกออกมาพูดทั้งๆ ที่รู้ว่าต้องเผชิญกับอะไร ถ้าไม่มีมูลความจริงคงไม่กล้าขนาดนั้น คนพวกนี้ควรจะได้รับการปกป้องและต้องมีการพิสูจน์ความจริง เพื่อผลประโยชน์ของบ้านเมืองมากกว่า

สรุปแล้ว ไม่ว่าจะวันนี้หรือวันที่ 25 สิงหาคม บนความเชื่อของคนส่วนใหญ่ต่างมั่นใจว่าจะไม่มีเหตุการณ์รุนแรงใดๆ หากทุกฝ่ายได้ดำเนินการทุกอย่างให้เป็นไปตามธรรมชาติ เว้นเสียแต่จะมีคนที่ฝืนธรรมชาติเพื่อหวังผลอย่างหนึ่งอย่างใด ต้องไม่ลืมว่าสถานการณ์ที่เป็นมาถึงทุกวันนี้หลายเรื่องก็เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรมชาตินั่นเอง

Back to top button