ซ้ำรอยเดิม!

*สุดท้าย “โมนิก้า” ต้องกลับมาจั่วหัวแบบนี้อีกครั้ง หลังจากพอร์ตเรื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ พระเอกยังเป็นอัศวินขี่ม้าขาว และตำรวจก็มาตอนจบเหมือทุกที วานนี้ถึงเห็นดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,576.08 จุด ลบไป 4.98 จุด ด้วยมูลค่า 5.73 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนตัวแสบสาดหุ้นออกมา 3.52 พันล้านบาท ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวทิ้งหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยมากถึง 7.15 พันล้านบาทเลยนะคะ


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สุดท้าย “โมนิก้า” ต้องกลับมาจั่วหัวแบบนี้อีกครั้ง หลังจากพอร์ตเรื่องไม่มีอะไรแปลกใหม่ พระเอกยังเป็นอัศวินขี่ม้าขาว และตำรวจก็มาตอนจบเหมือทุกที วานนี้ถึงเห็นดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,576.08 จุด ลบไป 4.98 จุด ด้วยมูลค่า 5.73 หมื่นล้านบาท โดยกองทุนตัวแสบสาดหุ้นออกมา 3.52 พันล้านบาท ส่วนฝรั่งตาน้ำข้าวทิ้งหุ้นแบบไม่มีเยื่อใยมากถึง 7.15 พันล้านบาทเลยนะคะ

*ที่สำคัญเมื่อดูตัวเลขรวมๆ จะเห็นว่า ตลอดเดือน ก.ค. ฝรั่งตาน้ำข้าวสาดหุ้นออกมา 6.58 พันล้านบาท กองทุนตัวแสบทิ้งหุ้นไป 4.88 พันล้านบาท ตามด้วยปอบผีฟ้าปล่อยหุ้นออกมา 3.40 พันล้านบาท ขณะที่แมงเม่าเป็นเพียงผู้เดียวที่เก็บหุ้นเข้าพอร์ตไปทั้งสิ้น 1.48 หมื่นล้านบาท มันเป็นการสะท้อนภาพให้เห็นว่า เกมหุ้นเที่ยวนี้เป็นลักษณะเข้ามาตะลุยกันสั้นๆ นะจะบอกให้

*เมื่อรูปการออกมาในโทนเดิมทุกอย่าง “โมนิก้า” ถึงมองกรอบการลงทุนในเที่ยวนี้ยังอยู่ที่ระดับ 1,560-1,590  จุด ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่วนไปวนมาในรอบ 2 เดือน แต่ถ้ามองภาพใหญ่ตั้งแต่ต้นปี 60 เป็นต้นมาจะเห็นว่า กรอบการเคลื่อนไหวยังอยู่บน 1,530-1,600 จุด พร้อมกับมีการหมุนหุ้นเล่นกันไปเรื่อยๆ ซึ่งเป็นการย้ำหัวหมุดตัวเดิมอย่างเป็นทางการว่า เน้นสั้นไว้ก่อนดีกว่านะคะ

*เหมือนกับอาการของหุ้นบลูชิพที่โดนเรียงคิวถล่มจนสะบักสะบอม “โมนิก้า” มองเป็นเรื่องของจังหวะเวลาที่บีบให้พวกสถาบันต้อง take profit บวกกับสมัยนี้ให้พวกหุ่นยนต์ทำการซื้อขายมากขึ้นเรื่อยๆ จึงส่งผลให้สถานการณ์ของหุ้นบลูชิพไม่เปรี้ยงป้าง เพราะจะมีแรงเทขายทำกำไรออกมาทุกครั้งที่ราคาหุ้นขยับขึ้นแตะระดับ 3-5% ซึ่งทำให้ความเซ็กซี่ของหุ้นเหล่านี้หายไปเยอะเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงเป็นอีกครั้งที่ “โมนิก้า” ตั้งคำถามกับแฟนคลับของตัวเองว่า พร้อมจะเล่นกับเกมเสี่ยงเที่ยวนี้อีกครั้งหรือเปล่า? เพราะในวงรอบใหญ่ๆ มักจะวงรอบเล็กๆ เกิดขึ้นเป็นประจำ และหากคิดว่าตัวเองมีความพร้อมก็เชิญลุยตั้งแต่วันนี้ไปเลย เนื่องจากทุกคนเห็นรูปแบบการขึ้นของหุ้นจนชินตาแล้วนั่นเอง เดี๊ยนไม่มีความจำเป็นต้องแนะนำอะไรทั้งสิ้นแล้วล่ะค่ะ

*เหมือนกับการเคลื่อนไหวของหุ้นทีเด็ด AU ซึ่งมีผู้ขาใหญ่บางรายเม้าท์ว่า หุ้นจะไปเท่านั้น หุ้นจะไปเท่านี้ สุดท้ายเมื่อสงครามจบลงอย่างเป็นทางการ ผู้เล่นรายใหญ่กลับหนีทัพกันเป็นแถว พร้อมกับปล่อยให้หุ้น 7.35 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 6.40% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 51 ล้านบาท พร้อมกับทำ new low มันเป็นเกมที่เดี๊ยนพยายามพร่ำบอกให้ระวังมาตั้งนานแล้ว..จำได้ไหมค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SIRI พยายามยกตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องก็จริง แต่ทันทีที่หุ้นมีอาการทรงตัวไม่ไหว แรงซื้อขาดหายไปเป็นจำนวนมาก หุ้นก็เริ่มเปลี่ยนเป็นทิศทาง “ไซด์เวย์ดาวน์” เดี๊ยนถึงต้องกลับมาถามบรรดาผู้เล่นจะเอาอย่างไรกับเรื่องนี้ หลังราคาหุ้นไหลลงมาปิดที่ 2.08 บาท ลบไป 0.06 บาท หรือลงไป 2.80% ด้วยมูลค่า 245 ล้านบาทไงล่ะค่ะ

*ส่วนในรายของ KCE ไม่ค่อยมีประเด็นที่น่าเป็นห่วงสักเท่าไหร่? เนื่องจากแมงเม่าจริงๆ ไม่นิยมเล่นของสูง เพราะเมื่อเทียบผลตอบแทนต่อหน่วยออกมาเป็นเปอร์เซ็นต์ หุ้นขนาดกลางที่มีราคาต่ำกว่า 10 บาท ก็ให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าพอกัน “โมนิก้า” ถึงรู้สึกเฉยๆ เมื่อเห็นราคาหุ้นทรุดตัวลงมายืนที่ 86.50 บาท ลบไป 2.75 บาท หรือลงไป 3% ด้วยมูลค่า 725 ล้านบาท  เพราะรู้ดีว่า คนที่สาดหุ้นออกมาหนักๆ ก็พวกนักลงทุนสถาบันตัวดีนั่นแหละค่ะ

*ส่วนที่ไม่ต้องคิดอะไรมากมาย เพราะเกมถูกเซ็ตมาเป็นเวลานานอย่าง ORI  เดี๊ยนมองเป็นหนังเรื่องเก่า เอามาเล่าใหม่ บวกกับได้กุนซือคอยทำหุ้นให้อย่างแนบเนียน แถมคอยกำกับการเคาะขวาตลอดเวลา วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 15.10 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 3.40% ด้วยมูลค่า 297 ล้านบาท”โมนิก้า” มองเป็นเกมที่ยืดเยื้อแน่ๆ เพราะเกมไม่ได้ถูกเซทให้จบตรงนี้..จริงไหม?

*เหมือนกับในรายของ ASAP กระชากขึ้นมายืนอยู่ที่ 8.95               บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 10.50%  ด้วยมูลค่า 132 ล้านบาท มันเป็นเกมดันหุ้นค่อนข้างชัดเจน แต่เผอิญมีคำอธิบายที่น่าเชื่อถือเข้ามาผสมโรง บวกกับกระแสความเชื่อเกี่ยวกับกำไรปี 60 น่าจะออกมาดีกว่าคาด หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ แถมบางคนมองค่า P/E 65 เท่า เดี๋ยวก็ลดลงเมื่อเห็นกำไรในไตรมาส 2 แบบนี้..บอกได้คำเดียวว่า มันพะยะค่ะ

*ไหนเม้าท์ถึงหุ้นที่สตอรี่ดีๆ “โมนิก้า” ขอย้อนกลับมาดู BCPG เพื่อเสนอไว้เป็นทางเลือกสำหรับคนที่ชอบลุ้นเป็นชีวิตจิตใจ และเหตุผลที่ทำให้มาพูดถึงก็มาจากท่าทางการขึ้นของหุ้นมาแน่นเหลือเกิน แถมแผนงานก็เป็นไปตามที่เคยลั่นวาจาไว้เสียด้วย “โมนิก้า” ถึงมองรูปแบบการขึ้นเที่ยวนี้มีนัยพอสมควร ล่าสุดเห็นหุ้นขึ้นมายืนที่ 15.50 บาท บวกไป 0.10 บาท ด้วยมูลค่า 856 ล้านบาท ต้องเล่นตามน้ำแล้วล่ะ

Back to top button