เล่นหุ้นปันผล
วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 2,244 ล้านบาท
ลูบคมตลาดทุน : ธนะชัย ณ นคร
วานนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิในตลาดหุ้นไทยอีก 2,244 ล้านบาท
หรือขายเป็นวันที่ 6 ต่อเนื่องกันแล้ว
ที่หนักสุดคือเมื่อวันจันทร์ที่ 31 กรกฎาคมที่ผ่านมา ขายสุทธิ 7,158 ล้านบาท
หรือหากรวมตัวเลขการขายของต่างชาติในช่วง 7 วัน จะอยู่ที่ประมาณ 1.20 หมื่นล้านบาท
แต่หากดูตัวเลขในตลาดภูมิภาคทางเอเชียด้วย ก็จะพบว่า ขายต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 แล้ว และประเทศในกลุ่ม TIP ที่มีไทย ฟิลิปปินส์ และอินโดนีเซีย ต่างก็ถูกขายทั้งหมดเช่นกัน
หากย้อนกลับไปดูตัวเลขฟันด์โฟลว์ช่วง 1 ม.ค.–2 ส.ค. 60
ก็ยังดีนะที่ต่างชาติยังเหลือซื้อสุทธิอีก 4,152 ล้านบาท
ทว่า ทิศทางไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่นัก
เท่าที่คุยกับนักวิเคราะห์หลายคน
ต่างส่ายหน้ากันเป็นแถว และไม่สามารถบอกได้ว่า ต่างชาติจะยุติการขายเมื่อไหร่
ในประเทศไทยเองก็มีประเด็นร้อนๆ หลายเรื่องที่สร้างความกังวลให้กับพวกเขา
มาถึงตอนนี้ผ่านไปแล้ว 1 คดี
นั่นคือ คดีสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ เมื่อปี 2551
ปรากฏว่าทั้ง สมชาย-ชวลิต-พัชรวาท และสุชาติ ต่างรอดกันหมด เพราะศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้องจำเลยทั้ง 4 คน
ก็พอช่วยคลายความกังวลไปได้
ที่เหลือก็จะมีวันที่ 25 ส.ค. คดีทุจริตโครงการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ ฟ้องนายบุญทรง เตริยาภิรมย์
วันที่ 25 ส.ค. ฟ้องนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กรณีละเลยไม่ดำเนินการยับยั้งโครงการรับจำนำข้าว
ประเด็นเหล่านี้ ต่างยังคงกดดันตลาดหุ้นไทย และสร้างความกังวลให้กับนักลงทุนต่างชาติ นอกเหนือจากปัจจัยภายใน นอกประเทศที่เข้ามาเป็นระยะด้วย
นักลงทุนจึงชะลอการลงทุนเพื่อรอคำตัดสินคดีจากศาล
ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์ เองต่างก็ยอมรับนะ
ว่ากรณีที่ต่างชาติขายหุ้นไทย มาจากปัจจัยภายในมากกว่าภายนอก
หุ่นในกลุ่มที่ต่างชาติขายมากสุดคือ ธนาคารพาณิชย์ เช่น KBANK ทั้งๆ ที่เป็นหุ้นที่ต่างชาติชื่นชอบมากสุด ทำให้ราคาตอนนี้ลงมาเหลือ 190 บาท
ขณะที่ก่อนหน้านี้ หรือเมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคม ราคายังอยู่เหนือเกิน 200 บาท
BBL ก็เป็นหุ้นอีกตัวที่ต่างชาติขายออกมามาก
กดดันราคาหุ้นลงมาเหลือ 180 บาท จากที่เคยขึ้นไป 189 บาท เมื่อช่วงกลางเดือนกรกฎาคมเช่นกัน
ส่วน SCB ราคาลงมาเหลือ 145 บาท จากระดับ 158 บาท ก่อนหน้านี้
หุ้นแบงก์ที่ปรับลง ข่าวว่ามีกองทุนผสมโรงขายกันออกมาด้วย ก่อนที่จะเข้ามารับวานนี้ หลังจากราคาปรับลงมาค่อนข้างมาก
ทำให้ราคาหุ้นแบงก์เริ่มพลิกกับเป็นบวก ทั้ง BBL และ KTB
ส่วน KBANK กับ SCB ยืนราคาทรงตัวได้
ทำให้ดัชนีหุ้นประคองตัวปิดตลาดในแดนบวกได้เมื่อวานนี้
คำแนะนำของนักวิเคราะห์ต่างให้จับตาตัวหุ้นที่คาดว่าผลประกอบการไตรมาส 2/60 จะออกมาสวยงาม
แต่หากจะเอาให้ชัวร์ ก็เล่นหุ้นปันผลกันไป
โดยเฉพาะกลุ่มหุ้นปันผลระหว่างกาล ซึ่งวันก่อนหน้านี้ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ก็มีการนำเสนอไปแล้ว เช่น BCP, BH, BAY, SPCG และ LH
นอกนั้น ก็ยังมี QH, KKP, SIRI และ INTUCH
หุ้นเหล่านี้ น่าจะปลอดภัยสุดในยามนี้