พาราสาวะถี

ชักธงรบเต็มที่อดีตแกนนำระบอบสนธิ-จำลองออกแถลงการณ์ มอบหมาย วีระ สมความคิด เป็นหัวหน้าทีม ยื่นหนังสือต่อป.ป.ช.วันนี้ให้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ยกฟ้อง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พร้อมพวก โดยยกเอาคำวินิจฉัยของ 3 องค์กรทั้งศาลปกครองกลาง ป.ป.ช.และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ชี้ว่าจำเลยทั้งหมดมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จงใจกระทำต่อผู้ชุมนุมด้วยการละเมิดต่อผู้ชุมนุม


อรชุน

ชักธงรบเต็มที่อดีตแกนนำระบอบสนธิ-จำลองออกแถลงการณ์ มอบหมาย วีระ สมความคิด เป็นหัวหน้าทีม ยื่นหนังสือต่อป.ป.ช.วันนี้ให้อุทธรณ์คำพิพากษาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองที่ยกฟ้อง สมชาย วงศ์สวัสดิ์ พร้อมพวก โดยยกเอาคำวินิจฉัยของ 3 องค์กรทั้งศาลปกครองกลาง ป.ป.ช.และคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน ชี้ว่าจำเลยทั้งหมดมีความผิดฐานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จงใจกระทำต่อผู้ชุมนุมด้วยการละเมิดต่อผู้ชุมนุม

เป็นมุมต่อสู้ทางด้านกฎหมายทั้งหมดขึ้นอยู่กับกระบวนการพิจารณาของป.ป.ช.ว่าจะดำเนินการตามที่ม็อบมีเส้นรุ่นแรกเรียกร้องหรือไม่ ที่แน่ๆ วิชา มหาคุณ อดีตป.ป.ช.ฟันธงฉับ การยื่นอุทธรณ์ในกรณีนี้จะเป็นบทพิสูจน์ความมี ความเป็น ความอยู่ของรัฐธรรมนูญ 2560 ว่า ใช้บังคับได้จริงหรือไม่ แต่ก็ออกตัวว่าต้องไปดูคำพิพากษาก่อนว่าจะยื่นอุทธรณ์ได้หรือไม่ และยื่นในประเด็นใด

ส่วนที่มีเสียงวิจารณ์สำนวนของป.ป.ช.ชุดก่อน ประกอบกับการใช้ทนายความจากสภาทนายความทำให้ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางของม็อบระบอบสนธิ-จำลอง เป็นเหตุให้พ่ายในคดี วิชายืนยันหนักแน่น สำนวนไม่ได้อ่อน คณะกรรมการทำงานกันเต็มที่ ทนายความที่ดำเนินคดีแทนก็ทำหน้าที่อย่างสุดความสามารถ ดังนั้น ต้องไม่มองใครในแง่ร้าย เพียงแต่ความเห็นอาจไม่ตรงกันได้

เหมือนจะรู้ตัวว่าถูกคนของระบอบสนธิ-จำลองเจาะยางตั้งข้อกังขาต่อการทำหน้าที่ของป.ป.ช.ชุดเก่า วิชาจึงบอกต่อว่า อย่าไปคิดว่ามันเป็นเรื่องของการเสนอความเห็นที่ไม่ถูกต้องหรือไม่ เรื่องของความยุติธรรมมองได้หลายแง่หลายมุม แต่ต้องยุติโดยคำพิพากษาของศาล เมื่อเปิดโอกาสให้อุทธรณ์ได้ ต้องมาดูว่า ประเด็นไหนควรโต้แย้งหรือไม่โต้แย้ง

แน่นอนว่า ท่วงทำนองของแกนนำระบอบสนธิ-จำลองก็ต้องเดินไปในแนวทางนี้ เพราะเห็นท่าทีของมวลชนผู้ผิดหวังหลังฟังคำพิพากษาแล้ว มันคงจะปล่อยผ่านไปไม่ได้ ทว่าในฐานะแกนนำม็อบมีเส้นเหมือนกัน สุเทพ เทือกสุบรรณ ออกมาสะกิดได้อย่างน่าสนใจ ขอให้ประชาชนเชื่อมั่นไว้วางใจศาลไม่ว่าจะพิพากษาตัดสินคดีอย่างไร ก็ต้องเคารพการพิจารณาของศาล

ประชาชนที่เป็นกองเชียร์ของแต่ละฝ่าย จะมีความคิด ความรู้สึกอย่างไร ก็เป็นสิทธิของแต่ละคน แต่ต้องไม่ก้าวล่วงอำนาจศาล และต้องเคารพคำพิพากษา ไม่เพียงเท่านั้น เทพเทือกยังมองไปถึงมวลชนที่จะมาให้กำลังใจ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ในวันพิพากษาคดี 25 สิงหาคมนี้ด้วยว่า ประชาชนที่จะออกมาให้กำลังใจ ต้องทำตามกฎหมาย และเชื่อว่าจะไม่กระทบกับความปรองดอง

สมกับที่บวชเรียนหลังเสร็จภารกิจม็อบชัตดาวน์มาแล้วจริงๆ มองโลกความเป็นจริงอย่างเข้าใจ แต่จะให้ดี ควรที่จะไปสะกิดคนที่ตัวเองเชียร์อย่าไปตื่นตูมกับการมาของคนให้กำลังใจอดีตนายกฯหญิงจนเกินเหตุ ออกหมายเรียกแม้กระทั่งรถตู้ที่รับจ้างพาคนมาให้กำลังใจ อย่างที่บอกไว้ปล่อยให้มันเป็นไปตามธรรมชาติ แล้วทุกอย่างจะดีเอง

พากันไปประชุมนอกสถานที่เปลี่ยนบรรยากาศการทำงาน แต่ มีชัย ฤชุพันธุ์ และ กรธ.ทั้งคณะก็ไม่ได้ไปใช้จ่ายงบประมาณให้สูญเปล่า เพราะหิ้วเอาร่างกฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับไปพิจารณาด้วย นั่นก็คือ ร่างกฎหมายว่าด้วยป.ป.ช. ร่างกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.และร่างกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ไม่เสียเที่ยวเพราะมีบทสรุปแล้วทั้ง  3 ฉบับ โดยเฉพาะในส่วนของร่างกฎหมายป.ป.ช.น่าจะสะเด็ดน้ำกว่าเพื่อน

ที่ตั้งคำถามกันมากคือ คุณสมบัติของกรรมการป.ป.ช.ชุดปัจจุบันจะเป็นอย่างไร ในที่ประชุมกรธ.มีข้อสรุปคือให้ดูคุณสมบัติตามข้อห้ามของคณะกรรมการองค์กรอิสระในรัฐธรรมนูญ เพราะอำนาจในบางส่วนเพิ่มขึ้น การปราบปรามการทุจริตที่เข้มข้นขึ้นตามหลักการใหม่ มุ่งเน้นการปราบปรามการทุจริตเป็นหลัก ส่วนเรื่องประพฤติมิชอบของข้าราชการมีหน่วยงานต้นสังกัดดูแลอยู่แล้ว

ถ้ายึดตามแนวทางนี้ดูท่าว่าจะมีกรรมการป.ป.ช.หลายรายจะขาดคุณสมบัติและต้องพ้นจากตำแหน่งไป ดังที สมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ชายเดี่ยวคนดังเคยได้แจกแจงไปก่อนหน้านี้ว่า ป.ป.ช.มีคนที่ดำรงตำแหน่งข้าราชการการเมืองในตำแหน่งรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ฝ่ายการเมืองและพ้นตำแหน่งมาไม่ถึง 10 ปี 1 คน และมีคนที่เคยดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระอื่นมาก่อน 1 คน

ด้วยคุณสมบัติเบื้องต้นของสองคนนี้จะต้องพ้นจากตำแหน่งทันที จากนั้นจะต้องมีการพิจารณาลงลึกในรายละเอียดอีก อาจจะมีคนที่ต้องพ้นสภาพเพิ่มเติมอีก แต่สิ่งที่น่าสนใจมากไปกว่านั้นคือ จากนี้ไปกรรมการป.ป.ช.จะต้องแสดงทรัพย์สินก่อนรับตำแหน่งด้วย โดยให้ยื่นต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินหรือสตง. ประเด็นนี้ต้องรอดูว่าจะมีเสียงทักท้วงจากคนดีที่ไม่อยากโชว์บัญชีให้สาธารณะได้รับรู้หรือเปล่า

นั่นเป็นสิ่งที่จบจากที่ประชุมกรธ. แต่หลังจากส่งร่างกฎหมายไปให้สนช.พิจารณาแล้วไม่รู้ว่าจะมีอะไรปรับเปลี่ยนอีกหรือเปล่า เหมือนอย่างร่างกฎหมายที่ว่าด้วยกสม.และผู้ตรวจการแผ่นดินที่มีการปรับแก้ในชั้นของคณะกรรมาธิการ จนสมชัยทนไม่ได้ถึงกับระบายผ่านเฟซบุ๊คว่า สามองค์กรสามมาตรฐาน กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญขององค์กรอิสระ 3 แห่ง อาจมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของกรรมการแตกต่างกันถึง 3 แบบ

กกต.ถูกเซตซีโร่ ส่วนกสม.ในการลงมติวาระแรกของสนช.ให้เซตซีโร่ แต่ในวาระ 2 และ 3 กรรมาธิการกำลังเสนอให้สามารถอยู่ต่อไปอีกครึ่งวาระและสามารถกลับมาสมัครใหม่ได้ ขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน สนช.ลงมติวาระ 3 ให้ผู้ตรวจการชุดปัจจุบันดำรงตำแหน่งต่อไปจนครบวาระ ด้วยเหตุผลว่ามาจากรัฐธรรมนูญปี 2550 จึงไม่ควรไปลิดรอนสิทธิบุคคลดังกล่าว และมีท่าทีจากกรธ.ในฐานะผู้ร่างกฎหมายที่เสนอหลักให้ดำรงตำแหน่งต่อเฉพาะผู้มีคุณสมบัติครบอาจจะไม่ทำความเห็นแย้ง

น่าขีดเส้นใต้ ต่อความเห็นของสมชัยที่อ้างผู้เชี่ยวชาญทางการเมืองวิจารณ์ว่า กระบวนการออกกฎหมายเป็นกระบวนการทางการเมือง มิใช่ยึดหลักของกฎหมาย และเป็นการเริ่มส่งสัญญาณถึงองค์กรอิสระที่เหลือให้วางตัวให้เหมาะสม มิเช่นนั้น อาจมีชะตากรรมเช่นองค์กรแรกๆ แดกดันถึงใครไม่ทราบ แต่ที่แน่ๆก็ทำให้เห็นว่า กระบวนการร่างกฎหมายลูกนั้นทำไปทำมา ดูท่าว่าจะมีหลายเรื่องปรับเปลี่ยนไปตามสถานการณ์มากกว่าจะยึดโยงกับหลักการในรัฐธรรมนูญเป็นหลัก

Back to top button