UWC ข่าวดีจากก้นสมุทร

นักลงทุนหลายคน ที่เชื่อว่า หากหุ้นที่ราคาลงมากจนหมดสภาพ แล้วไม่ยอมถูกถอดออกจากตลาด แล้วใช้เวลายาวนานนอนนิ่งที่ราคาต่ำสุดหรือ "ก้นสมุทร" ....หากถึงเวลาที่จะได้ฤกษ์วิ่งกลับ เพราะเหตุใดเหตุหนึ่งหรือ... หลายเหตุประกอบกัน.... ก็จะทำกำไรมหาศาลให้คนซื้อแล้วถือ


แฉทุกวันทันเกมหุ้น

นักลงทุนหลายคน ที่เชื่อว่า หากหุ้นที่ราคาลงมากจนหมดสภาพ แล้วไม่ยอมถูกถอดออกจากตลาด แล้วใช้เวลายาวนานนอนนิ่งที่ราคาต่ำสุดหรือ “ก้นสมุทร” ….หากถึงเวลาที่จะได้ฤกษ์วิ่งกลับ เพราะเหตุใดเหตุหนึ่งหรือ… หลายเหตุประกอบกัน…. ก็จะทำกำไรมหาศาลให้คนซื้อแล้วถือ

นั่นด้วยปัจจัยสำคัญ 2 อย่างคือ ความอึด และการอ่านสัญญาณถูกต้อง

กรณีล่าสุด กำลังจะเกิดขึ้นกับ ราคาหุ้นของ บริษัท เอื้อวิทยา จำกัด (มหาชน) หรือ UWC ที่กำลังเริ่มมีคนจับตามองว่าน่าจะถึงเวลาเทิร์นอะราวด์เสียที…. อย่างจริงจัง ด้วยผลประกอบการ ไม่ใช่ด้วย “เจ้าภาพนักปั่น” ที่ไม่มีจักรยาน

การกลับมาทำกำไรในไตรมาสแรกในสิ้นงวดบัญชี 30 มิถุนายน 2560 หลังจากขาดทุนต่อเนื่องมาไม่น้อยกว่า 6 ไตรมาส จนต้องเพิ่มทุนเสริมสภาพคล่องใหญ่โต น่าจะยืนยันได้ดีว่า ราคาหุ้นที่จะกลับมารอบนี้ มีพื้นฐานรองรับชนิด “เสริมใยเหล็ก” แกร่งจริง …..ไม่ใช่ “สูบลมยาง”…หรือ ปะผุชั่วคราวจากวิศวกรรมการเงิน

เมื่อวานนี้ ราคาหุ้น UWC ราคาพุ่งขึ้น 7.14% มาสูงสุดของวันอยู่ที่ 0.15 บาท เพิ่มขึ้น 0.01 บาท แม้ว่าตอนท้ายสุดเมื่อปิดตลาดบ่าย ราคาจะลงไปที่เดิมคือ 0.14 บาทดังเดิม แต่มูลค่าซื้อขายที่คึกคักเป็นพิเศษ ที่ระดับ 16 ล้านบาท ด้วยจำนวนหุ้นซื้อขายในระหว่างวันมากถึง 115 ล้านหุ้น ส่งสัญญาณทางบวกที่ชัดเจน ว่า…..หมดเวลาขาลงแล้ว

นักวิเคราะห์ที่เคยมองข้ามหุ้น UWC นี้มายาวนาน หันกลับพลิกตำราแยกแยะข้อดีข้อเสียกันใหญ่ ก่อนจะฟันธง…ชนิดไม่กลัว ธงหัก หรือ มีดบิ่น…ว่า น่าจะถึงเวลาของการซื้อครั้งใหม่

เหตุผลก็ไม่เลว…. แม้งบยังไม่ออกมา ก็ช่างหัวมัน….ว่ามาจาก 1) งานเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงมี Backlog ทุบสถิติหลายพันล้านบาท ผู้บริหารบอกว่างานแน่นอย่างไม่เคยมีมาก่อน เพราะโรงไฟฟ้าเกิดขึ้นมาก และรอประมูลอีกราว 3 พันล้านบาท 2) โครงการลงทุนสร้างโรงไฟฟ้า ที่ล่าสุดเพิ่งผลิดอกออกผล หลังจากแบกภาระมายาวนานหลายไตรมาส จากการประกาศหมาดๆ ล่าสุดว่า จ่ายไฟฟ้าครบ 3 โรงไฟฟ้า รวม 22.5 MW ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ

ถือเป็นข่าวดีจากก้นสมุทรที่รอมานานจนเกร็ดพญานาคา-นาคี ตะไคร่และเพรียงเกาะแน่นเต็มที

งานนี้ คนโตตัวเล็ก อย่าง “บิ๊กป้อม” นายธีรชัย ลีนะบรรจง กรรรมการผู้จัดการ สายพัฒนาธุรกิจและกิจการองค์กร ของ UWC ในฐานะตัวแทนของตระกูล ลีนะบรรจง ออกมายิ้มเริงร่าตามถนัด เปิดเผยว่า โครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล 2 โครงการ ได้มีการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว โดยแบ่งเป็น

– โครงการโรงไฟฟ้าสตึก ไบโอแมส มีกำลังการผลิตติดตั้ง 7.50 เมกะวัตต์ (MW) ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ขนาดกำลังผลิต 6.50 MW ซึ่งเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบตั้งแต่เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. 2560

– โครงการโรงไฟฟ้า ยูดับบลิวซี อำพัน ไบโอแมส ซึ่งขนาดกำลังการผลิตติดตั้งรวม 9.50 MW มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กำลังการผลิตจำนวน 8 MW เริ่มจ่ายไฟเข้าระบบตั้งแต่เมื่อวันที่ 7 ส.ค. 2560

การทำ COD เรียบร้อยในโครงการข้างต้น เมื่อรวมกับที่มีอยู่เดิมแล้ว 1 แห่ง คือโครงการโรงไฟฟ้าชีวมวล ยูดับบลิวซี โกเมน ไบโอแมส จ.นครราชสีมา ขนาดกำลังการผลิต 9.90 MW เป็นโครงการแรกที่เริ่มขายไฟฟ้า จะทำให้บริษัทมีโรงไฟฟ้าที่จ่ายไฟฟ้าเข้าสู่ระบบแล้วจำนวน 3 โครงการ (ทั้งหมดอยู่ภาคอีสาน) คิดเป็นขนาดกำลังการผลิตรวม 22.50 MW

มีการประเมินจากนักวิเคราะห์ว่า กำไรจากการจ่ายไฟฟ้าของUWC ปีนี้ควรจะเห็นถึง 150 ล้านบาท  ปีหน้าไม่ต่ำกว่า 350 ล้านบาท น่าจะทำให้ผลงานพลิกระดับ…รุนแรง

สมใจนึกของลีนะบรรจง เสียที หลังจากสมบุกสมบันมาหลายปี

พวกที่เคยนินทาว่าร้ายลับหลังว่า ลีนะบรรจง นำโดย เสี่ยขุน หรือ นายชนะชัย ลีนะบรรจง เข้าที่บริษัทไหน เตรียมลงเหวได้เลย…. จะได้หุบปาก Shut up กันสนิทแน่นไปยาวนาน

บิ๊กป้อม ธีระชัย ระบุว่า การโยกย้ายธุรกิจจากเดิมคือ เสาส่งไฟฟ้าแรงสูงที่ทำกันมายาวนานจนขึ้นชื่อลือเลื่อง แต่บางช่วงไม่ทำกำไรเลย มาเป็นธุรกิจไฟฟ้า ไม่ใช่เรื่องปอกกล้วยเข้าปาก… แต่เป็นการปลูกกล้วยเอาผล

นับตั้งแต่ปรับทิศทางธุรกิจ เมื่อปี 2558 และได้เข้าลงทุนในโรงไฟฟ้าบุรีรัมย์ทั้ง 2 โครงการจากผู้ก่อตั้งเดิม มาเป็นของบริษัทในปี 2559 ทำให้ UWC แบกภาระค่าใช้จ่ายจำนวนมากหลายด้าน ทั้งทางด้านการปรับปรุงโรงไฟฟ้า ต้นทุนทางการเงิน และค่าเสื่อมราคา ในขณะที่ยังไม่มีรายรับจากการขายไฟฟ้าจากโครงการ ต้องใช้เวลาในการปรับปรุงโครงการ และต้องรอกระบวนการด้านใบอนุญาตจากภาครัฐที่ล่าช้ากว่าที่คาดการณ์ไว้ ….ทำให้บริษัทมีผลขาดทุนในช่วงที่ผ่านมา

แม้จะยัง “แทงกั๊ก” เพราะไม่อยากพูดถึงตัวเลขทำกำไร…ที่ก.ล.ต.ห้ามเอาไว้….ได้แต่บอกใบ้ว่า จะมีรายได้ปีนี้เติบโตจากปีก่อน 30% ที่เหลือไปจินตนาการเอาเองว่าควรจะกำไรขาดทุนเท่าใด

“เอื้อวิทยา” กำหนดราคาขายหุ้นไอพีโอ 1.80 บาท เตรียมเข้าเทรดวันแรกต้นเดือน ก.ค.นี้ ด้านที่ปรึกษามั่นใจ นักลงทุนแก่ให้ความสนใจจองซื้อ เหตุราคาหุ้นมีส่วนลดให้นักลงทุนถึง 30% แนวโน้มผลประกอบการดี จากงานในมือ 520 ล้าน มีแผนประมูลงานเพิ่มกว่า 3.8 พันล้านบาท “ผู้บริหาร” ตั้งเป้ารายได้ปีนี้ 1 พันล้านบาท โตกว่า 50% จากปีก่อน 637 ล้านบาท

6 ปีก่อน UWC เข้ามาเทรดในตลาด MAI ด้วยการระดมทุนขายหุ้นจอง 99.496 ล้านหุ้น ราคาพาร์ที่ 1 บาท เสนอขายหุ้นต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) ที่ 1.80 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีค่า P/E ที่ 12 เท่า…. และมีราคาเปิดขายวันแรกที่ทำเอานักล่าหุ้นจองสะท้านสะเทือนเพราะปิดตลาดที่ราคา3.00 บาท รวยกันไม่รู้ทางกลับบ้าน

น่าเสียดาย อนาคตกลับรุ่งไม่นาน เพราะงบสิ้นงวดปี 2556 กลับขาดทุนให้เห็นเพราะธุรกิจหลักขายเสาส่งไฟฟ้าแรงสูงมีตลาดแคบและไม่ยืดหยุ่น ทำให้กำไรลุ่มๆ ดอนๆ ก่อนที่จะมีการตัดสินใจกระจายแหล่งที่มารายได้เข้าสู่ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ที่ต้องเพิ่มทุนและอดทนกับการลงทุนที่คืนผลตอบแทนล่าช้า

วันนี้ แม้รายได้เริ่มกลับมาแล้ว แต่กำไรยังไม่ประกาศ แถมราคาก็จมกับพื้นมหาสมุทร UWC จึงเปรียบได้กับ ลูกเป็ดขี้เหร่ ที่รอวันเวลากลายเป็น …นางพญาหงส์ขาว

การมองไปข้างหน้าอย่างลงทุนในกัมพูชา และ สปป.ลาวที่เพิ่งประกาศออกไปไม่นาน คือเส้นทางที่สะท้อนว่า อนาคตยังทอดยาวอีกไกล…ฝันให้ไกล ไปจะถึงหรือไม่ ต่อรอดูกันต่อไป

อิ อิ อิ

Back to top button