รู้หรือยัง?โมนิก้าและทีมงาน

*ซึม เศร้า เหงา หงอย ไปตามๆ กัน เมื่อปัญหาหนี้ฝั่งยุโรปยังคงตามหลอกหลอนตลาดหุ้นทั่วโลก ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนหดหู่ลงเรื่อยๆ หุ้นบลูชิพหลายตัวสร้างความผิดหวังให้กับเหล่านักเล่น ในขณะที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวทางจิตวิทยา ทุกอย่างถึงดูอึมครึมต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เว้นเสียว่า เหตุการณ์บางอย่างเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ก็มีสิทธิ์เห็นหุ้นรีบาวด์แรงนะจะบอกให้


 *ซึม เศร้า เหงา หงอย ไปตามๆ กัน เมื่อปัญหาหนี้ฝั่งยุโรปยังคงตามหลอกหลอนตลาดหุ้นทั่วโลก ส่งผลให้บรรยากาศการลงทุนหดหู่ลงเรื่อยๆ หุ้นบลูชิพหลายตัวสร้างความผิดหวังให้กับเหล่านักเล่น ในขณะที่หุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กก็ได้รับผลกระทบจากเรื่องดังกล่าวทางจิตวิทยา ทุกอย่างถึงดูอึมครึมต่อไปอย่างไม่มีกำหนด เว้นเสียว่า เหตุการณ์บางอย่างเริ่มคลี่คลายไปในทางที่ดีขึ้น ก็มีสิทธิ์เห็นหุ้นรีบาวด์แรงนะจะบอกให้

*ในระหว่างที่เฝ้ารอข่าวดีปรากฏให้เห็น “โมนิก้า” ขอแนะนำแฟนคลับหันมามองแรงเทขายที่ทำให้ดัชนีอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1,519.88จุด ลบไป 6.86 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4 หมื่นล้านบาท ล้วนเป็นผลมาจากกองทุนเทขายหุ้นออกมา 1.40 พันล้านบาท เพื่อลดสัดส่วนการถือครองหุ้นในภาวะหน้าสิ่วหน้าขวาน ซึ่งเป็นลักษณะเดียวกับนักลงทุนสถาบันรายอื่นๆ ไงล่ะค่ะ

*วานนี้ถึงเป็นอีกหนึ่งวันที่นักลงทุนรายย่อยรับหุ้นเข้าพอร์ตเต็มๆ และเหตุผลในการเข้ารับหุ้นเที่ยวนี้มาจากความเชื่อที่ว่า ได้เวลารับของ อีกทั้งเมื่อบวกลบคูณหารแบบละเอียดยิบจะเห็นว่า ความเสี่ยงในการเข้าเล่นลดลง และเมื่อชำเลืองเงินสดที่มีอยู่เต็มกระเป๋า จึงกระโดดเข้ารับหุ้นแบบชิวๆ และเหตุการณ์นี้น่าจะดำเนินต่อไปอีกระยะหนึ่ง..รู้ไหมจ๊ะตัวเอง

*ไหนๆ เม้าท์ถึงเรื่องรายย่อยขึ้นมาทั้งที่ “โมนิก้า” เลยถือโอกาสเผือกเรื่องของ NMG สักเล็กน้อย(จริงๆ ไม่อยากยุ่ง แต่เห็นอาการของผู้ที่เกี่ยวข้องพยายามชิงหนี จึงต้องลุกขึ้นทวงถามความเป็นธรรมกันสักหน่อย) เพราะปัญหาดังกล่าวเกิดขึ้นมาตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้ามาไกล่เกลี่ย จึงบังเกิดความทุเรศทุรังในวันประชุมผู้ถือหุ้นประจำปีไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่อยากจี้ไปที่หน่วยงานใดเป็นกรณีพิเศษ เพราะอยากให้รู้ไว้ว่า สังคมกำลังจับตามองเรื่องทุเรศๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 29 เม.ย. 58 ซึ่งเป็นวันประชุมผู้ถือหุ้นเนชั่นฯ จะมีการชี้แจงว่าอย่างไร? ในเมื่อตลาดหลักทรัพย์ฯ สั่งให้มีการชี้แจงอย่างเป็นทางการในวันนี้! ผู้คนที่เกี่ยวข้องก็ควรได้รับรู้ถึงกระบวนการถัดไป เพราะในช่วงที่ผ่านมาโดนลิดรอนสิทธิแบบซึ่งหน้า แต่ ตลท. กับ ก.ล.ต. ดันเงียบเป็นเป่าสาก..แล้วรายย่อยจะพึ่งใครได้?

*สรุปสั้นๆ วันนี้คือ หากคนที่ทำตามกฎระเบียบเป็นฝ่ายผิด ส่วนคนที่ฝ่าฝืนเรื่องกฎกติกามารยาทเป็นฝ่ายถูก “โมนิก้า” ก็อยากถามที่ไปยังท่านเลขาฯ กลต. คนใหม่สดๆ ซิงๆ อย่างคุณพี่ “รพี สุจริตกุล” จะกล้าออกโรงทำในสิ่งที่ควรจะทำหรือไม่? และที่น่าแปลกใจอย่างหนึ่งคือ ปฏิกิริยาของหน่วยงานดังกล่าวค่อนข้างเอื่อยเฉื่อย เลยทำให้คำว่า ธรรมาภิบาลเป็นเพียงแค่วาทกรรมที่สวยหรู เพราะในทางปฏิบัติมันไม่มีอะไรเกิดขึ้นให้เห็นเป็นรูปธรรมเลยนะซี

*เม้าท์ถึงเรื่องแย่ๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับหันมามองหุ้น KBANK กับ KTB เพราะเป็นหุ้นแบงก์ที่โดนเทขายหนักตั้งแต่เช้าจรดเย็น เสมือนธนาคารกำลังจะเจ๊งไม่กี่วันข้างหน้า? มันเป็นการกระทำของกองทุนล้วนๆ ไม่ต้องไปโยนขี้ให้คนอื่นๆ และเหตุผลที่พรายกระซิบได้ยินมาก็มีแค่เรื่อง “เอนพีแอลสูงขึ้น” กับ “กำไรจะลดลงเรื่อยๆ” วานนี้ถึงเห็นหุ้นลงมากองอยู่ที่ 201 บาท ลบไป 9 บาท หรือลงไป 4.30% ส่วนรายหลังปิดที่ 19.50 บาท ลบไป 0.50 บาท หรือลงไป 2.50% เดี๊ยนเม้าท์ได้แค่ว่า กองทุนทำตัวเหมือนต่างชาติเข้าไปทุกที อีกหน่อยก็คงเทขายหุ้นโดยอ้างเหตุผลข้างๆ คูๆ อีกแหละ

*เช่นเดียวกับในรายของ TRUE ยามรักน้ำต้มผักยังว่าหวาน พอถึงยามชังน้ำตาลยังว่าขม “โมนิก้า” ถือเป็นมุมมองของผู้เล่นรายใหญ่ แมงเม่าไม่มีความจำเป็นต้องไปแสดงความคิดเห็น เพราะเรื่องนี้เป็นแค่การซาวเสียงคนเข้ามารับของแทน และดูเหมือนว่าจะไม่มีใครเข้ามารับของเสียด้วย วานนี้ถึงเห็นหุ้นทิ้งดิ่งลงมาปิดที่ 11.60บาท ลบไป 0.60 บาท หรือลงไป 5% บอกได้แค่ว่า วันนี้ต้องรีบาวด์เพื่อไม่ให้เสียฟอร์มนะจ๊ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของ TFD หลังจากโดนถล่มจนเสียศูนย์ ขาแข้งสั่นไปหมด ล่าสุดเริ่มตั้งลำอ่อนๆ ได้ประมาณ 2 วันแล้วกระมั้ง บวกกับสัญญาณเทคนิคหลายตัวช้อนใต้แท่งเทียนอย่างชัดเจน โมนิก้า” ถึงมองราคาปิดที่ 4.72บาท บวกไป 0.22บาท หรือขึ้นไป 5% ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่หนาแน่น กำลังเป็นขาขึ้นรอบใหม่ของหุ้นที่มีข่าวดีเรื่องพัฒนาที่ดินเป็นนิคมอุตสาหกรรมนะจะบอกให้

*ตบท้ายกันที่หุ้นน้องใหม่ SLP ซึ่งว่ากันว่า เป็นหุ้นที่อนาคตสดใส ทำกำไรสม่ำเสมอ ปีนี้ยังมีทีเด็ดที่จะโชว์อีกเยอะแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ต้องกระโจนเข้าใส่ในทันทีบวกกับฝีมือของ “ป๋าชู” ในช่วงหลังๆ ทำหุ้นน้องใหม่รุ่งหลายตัวด้วยกัน พรายกระซิบถึงมั่นใจเหลือว่า น่าจะขึ้นไปยืนเหนือ 5.50 บาทได้สบายๆ( IPO ราคา 2.16 บาท) งานนี้จริงเท็จอย่างไรไม่รู้ แต่ขอเอาใจช่วยแล้วกัน..อิอิอิ

Back to top button