แทงหวยวันพิพากษายิ่งลักษณ์

วันที่ 25 ส.ค. 2560 ที่จะถึงในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้านี้ จะกลายเป็นบันทึกหน้าสำคัญอีกวันหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย


ขี่พายุ ทะลุฟ้า : ชาญชัย สงวนวงศ์

วันที่ 25 ส.ค. 2560 ที่จะถึงในอีก 1 สัปดาห์ข้างหน้านี้ จะกลายเป็นบันทึกหน้าสำคัญอีกวันหนึ่งแห่งประวัติศาสตร์ชาติไทย

มันจะเป็นครั้งแรกที่ศาลก้าวล่วงเข้ามาตัดสินถูกผิดในนโยบายรัฐบาล

ครับ นโยบายรับจำนำข้าว เป็นนโยบายที่รัฐบาลพรรคเพื่อไทย ประกาศเป็นนโยบายตอนหาเสียงเลือกตั้ง ซึ่งจารีตในประเทศประชาธิปไตยทั่วไป ยึดถือเสมือนว่าเป็น “สัญญาประชาคม”

ผ่านกระบวนการแถลงเป็นนโยบายตามขั้นตอนทางรัฐสภาก่อนเข้าบริหารงานทุกประการ และก็ลงมือปฏิบัติไปตาม “สัญญาประชาคม” และถ้อยแถลงนโยบายที่ได้ให้ไว้ต่อรัฐสภานั้น

คำตัดสินของป.ป.ช.และคำฟ้องของอัยการต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ก็ไม่มีการระบุว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีกระทำการทุจริตคอร์รัปชั่นในนโยบายจำนำข้าว

แต่ปล่อยปละละเลยให้มีการทุจริต อันเป็นการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ตามมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา

ครับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ค่อนข้างจะโชคร้ายนะครับ ที่ต้องมาลุ้นใจเต้นกับชะตากรรมที่อาจจะต้องติดคุกและอาจจะโดนยึดทรัพย์ หากศาลฎีกาฯตัดสินว่าเป็นความผิด

นายกรัฐมนตรีปัจจุบัน คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โชคดีกว่ามาก ที่ในกรณีนโยบายระบายข้าวเวลานี้ เกิดการร้องเรียนทั้งกรณีขายข้าวเน่าพื่ออุตสาหกรรม ที่ไม่ยอมขายให้ผู้ประมูลที่ให้ราคาแพงกว่า แต่กลับไปขายให้ผู้ประมูลที่ขาดคุณสมบัติ ไม่มีใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานหรือที่เรียกว่าใบร.ง. 4

รวมทั้งเรื่องการขายข้าวเสื่อมคุณภาพที่คนกินได้ กลับไปขายในราคาอาหารสัตว์ ซึ่งราคาแตกต่างกันกว่าเท่าตัว และเจ้าของโรงสีผู้เก็บรักษาข้าวต้องรับผิดชอบในส่วนต่างราคา

ทั้ง 2 เรื่อง มีผู้ร้องเรียนที่มีตัวตนชัดเจน และก็ยืนยันความสุจริตใจว่า ไม่มีเรื่องการเมืองเข้ามาแอบแฝงแน่นอน พร้อมกับเชิญชวนให้หน่วยงานรัฐเข้ามาตรวจสอบสภาพข้าว แต่หน่วยงานรับผิดชอบคือกรมการค้าต่างประเทศ ก็ยืนกรานไม่กลับมาตรวจสอบอีก

นายกฯประยุทธ์ในฐานะผู้รับผิดชอบสูงสุดทางนโยบายก็ไม่มีทีท่าว่าจะให้มีการตรวจสอบตามคำร้องเรียนใหม่ ทั้งที่เรื่องนี้มีการแฉโพยโด่งดังไปทั่วประเทศ

นายกฯประยุทธ์ค่อนข้างจะโชคดีกว่าอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์มาก เพราะใช้ความเป็นรัฏฐาธิปัตย์ ออกกฎหมายคุ้มครองตัวเองให้ไม่มีความผิดในการกระทำใดทั้งปวง

ความจริงจะสั่งให้ตรวจสอบสักหน่อยก็ยังได้ ผลจะออกมาทางใดไม่ว่าบวกว่าลบก็ยังสง่างามอยู่ดี แต่ก็ยังไม่คิดจะทำ เพราะถือดีว่า ทำอะไรก็ไม่ผิดอยู่แล้ว

เรื่องของคำพิพากษาอดีตนายกฯยิ่งลักษณ์ เท่าที่คาดเดากันก็อาจจะครอบคลุมใน 3 แนวทาง อันได้แก่

หนึ่ง.ผิด รับโทษจำและปรับ สอง.ผิด แต่รอลงอาญา และสาม.ไม่มีความผิด

แนวทางใดจะเป็นจริงมากที่สุด ก็สุดแท้หลักนิติรัฐ นิติธรรมอันเป็นที่พึ่งได้จากศาลสถิตยุติธรรมแล้ว

แต่ถ้าตัดสินจากผลลงประชามติรัฐธรรมนูญ 60 ที่มีสถิติรับกับไม่รับในอัตราส่วน 61:38% ก็สงสัยว่ายิ่งลักษณ์คงจะติดคุก

Back to top button