อย่าโลกสวย

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาจั่วหัวแรงๆ เพราะสถานการณ์ของบริษัทจดทะเบียนในยามที่คละคลุ้งไปด้วยข่าวลือ ผสมปนเปกับผลงานที่ออกทะเลกันเป็นแถบ รวมถึงปัจจัยลบที่ถาโถมต่อเนื่อง ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้นักเล่นต้องตั้งการ์ดสูงเพื่อทำให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัยนั้น มันเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้ทุกคนได้รู้ว่า อย่าทำตัวเป็นพวกโลกสวยให้มากนักนะตัวเอง


เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน

*สาเหตุที่ทำให้ “โมนิก้า” ต้องออกมาจั่วหัวแรงๆ เพราะสถานการณ์ของบริษัทจดทะเบียนในยามที่คละคลุ้งไปด้วยข่าวลือ ผสมปนเปกับผลงานที่ออกทะเลกันเป็นแถบ รวมถึงปัจจัยลบที่ถาโถมต่อเนื่อง ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้นักเล่นต้องตั้งการ์ดสูงเพื่อทำให้ตัวเองอยู่รอดปลอดภัยนั้น มันเหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้ทุกคนได้รู้ว่า อย่าทำตัวเป็นพวกโลกสวยให้มากนักนะตัวเอง

*เนื่องจากข้อมูลของหุ้นหลายตัวที่ปรากฏให้เห็นในเวลานี้มีแต่เรื่องชวนปวดหัว จึงเห็นหุ้นจำนวนมากโรยตัวลงมาเรื่อยๆ จนมองไม่เห็นจุดเด้งกลับอยู่ตรงบริเวณไหน แม้ในระหว่างทางจะมีอาการฮึดฮัดให้เห็นตลอดเวลา แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครเข้ามาดันหุ้นแบบสุดตัว ผลลัพธ์ที่ปรากฏออกมากลายเป็นว่า เละเป็นโจ๊กกันอย่างถ้วนหน้า ไม่มีแมงเม่ายิ้มออกสักรายพะยะค่ะ

*ฉะนั้นการที่ดัชนีฟื้นมาจากบริเวณ 1,562.01 จุด ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 1,566.53 จุด ลบไปแค่ 2.42 จุด ด้วยมูลค่า 3.22 หมื่นล้านบาท น่าจะเป็นการซื้อเวลาเพื่อไม่ให้ทุกอย่างแย่ลงไปกว่าเดิม “โมนิก้า” ถึงมองการเล่นหุ้นต่อจากนี้จะยากขึ้นไปอีกขั้น ผสมโรงกับวันที่ 25 ส.ค. จะมีการตัดสินคดีจำนำข้าวของอดีนายกฯ “ปู” ย่อมเป็นอีกหนึ่งแรงกดดันที่ทำให้นักเล่นเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงไงล่ะจ๊ะ

*ด้วยเหตุนี้อย่ามาถาม “โมนิก้า” ควรทำตัวอย่างไร? เพราะสิ่งที่เห็นในเที่ยวนี้มีแต่เรื่องแย่ๆ ขนาดหุ้นดาวเทียม(ชื่อก็บอกอยู่แล้วว่า ไม่ใช่ของแท้) THCOM ยังโดนเทขายอย่างหนักหน่วงเป็นเวลานาน จนล่าสุดลงมาทำ new low ในรอบ 5 ปี ที่บริเวณ 14.80 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 5.10% ด้วยมูลค่า 116 ล้านบาท น่าจะเป็นการส่งสัญญาณให้รู้ว่า ไม่มีใครกล้าเข้าไปรับของ จึงมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะลงอีกนะคะ

*เหมือนกับในรายของ BIG โดนกดลงมาอย่างหนัก จนไม่มีทีท่าจะผงกหัวขึ้นได้ ทั้งหมดเป็นผลมาจากผีตัวหนึ่งที่ชื่อ วช. ยังตามหลอกหลอนนักเล่นหุ้นไม่เลิก แถมทุกครั้งที่มีการเม้าท์มอยด์ถึงผีตัวนี้ขึ้นมาทีไร ก็ไม่มีใครอยากเข้ามายุ่งกับหุ้นตัวนี้อีกเลย “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่เดินไปไหน มาไหน มีแต่คนเบนหน้าหนีหุ้นตัวนี้กันอย่างดาษดื่น จึงเป็นอีกวันที่หุ้นไหลลงไม่หยุด จนสุดท้ายปิดที่ 3.22 บาท ลบไป 0.24 บาท  หรือลงไป 6.90% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 191 ล้านบาท ก็ยังไม่ใช่จุดรับของอยู่ดีไงล่ะค่ะ

*ส่วนรายที่อยู่ในอาการโคม่า ยากเกินจะเยียวยา “โมนิก้า” คงต้องหันไปมองเสือสิ้นลายอย่างหุ้น GL หลังจากสะดุดขาตัวเองล้มไม่เป็นท่า แถมกองทุนใหญ่พากันจับไต๋ได้ว่า ไม่มีอะไรในก่อไผ่ นอกจากหน่อไม้สด ราคาหุ้นก็ร่วงลงแบบไม่มีทางฟื้น แฟนคลับข่าวหุ้นถึงได้เห็นหุ้นลงมายืนต่ำกว่า 20 บาทอีกครั้งนั้น เดี๊ยนกล้าพูดทันทีว่า ทั้งหมดมาจากวิศวกรรมการเงินล้มครืนไม่เป็นท่า ราคาหุ้นถึงลงมานอนแอ้งแม้งที่ระดับ 19.30 บาท ลบไป 0.80 บาท หรือลงไป 4% ด้วยมูลค่า 171 ล้านบาท เพราะทุกคนเห็นว่า ไม่ใช่ของจริงนะซี

*สำหรับในรายของ SAWAD พยายามประคองตัวเกาะแนวรับ 50 บาทอย่างเหนี่ยวแน่น พอเอาเข้าจริงกลับโดนกระหน่ำเทขายอย่างหนัก จนหุ้นรูดลงมายืนอยู่ที่ 47.50 บาท ลบไป 2.25 บาท หรือลงไป 4.50%  ด้วยมูลค่า 540 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นอาการแพนิกมากกว่าประเด็นอื่นอย่างแน่นอน เพราะวันก่อนเพิ่งจะมีประเด็นเรื่องหนี้ตั๋ว B/E กับอีกเจ้าหนึ่งมาหยกๆ (บางกระแสบอกขายทำกำไร) การร่วงลงของหุ้นในครั้งนี้ก็คงไม่ต่างกันหรอกค่ะ

*อีกรายที่น่าจับตามองอย่างใกล้ชิด “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่ SAMART หลังหุ้นเคลื่อนตัวในลักษณะ w-shape ในกรอบ 12-17 บาท มาตั้งแต่ต้นปี 60 ขณะที่ราคาล่าสุดยืนอยู่ที่ 12.50 บาท ลบไป 0.40 บาท หรือลงไป 3.10% มันเป็นช็อตที่นักเล่นต้องเริ่มคิดก่อนจะทำการเคาะขวา เดี๊ยนถึงขอนำเสนอหุ้นตัวนี้ไว้เป็นทางเลือกของการลงทุนเที่ยวนี้นะจะบอกให้

*ส่วนคนที่ชอบความเสี่ยงเป็นชีวิตจิตใจ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้หันมามอง CWT หลังหุ้นกระชากขึ้นแบบไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 3.08 บาท บวกไป 0.18 บาท หรือขึ้นไป 6.20% ด้วยมูลค่า 120 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่มองได้ทั้ง “ไปต่อ” และ “หมดรอบ” ซึ่งขึ้นอยู่กับเจ้ามือจะเอาอย่างไร? และภาวะลงทุนเป็นใจให้ขนาดไหน? งานนี้ต้องตามไปดูกันเอาเองนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ ERW  กระชากขึ้นแรงวันแรก ต่อจากนั้นก็ขยับขึ้นได้อีกนิดหนึ่ง ก่อนจะลงเอ่ยที่ระดับ 6 บาท บวกไป 0.15 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 190 ล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นการเล่นตามน้ำที่หาดูได้ทั่วไปจากตลาดหุ้น แต่ตัวนี้ต่างกันนิดหนึ่งตรงที่ผลประกอบการกลับมาโตอีกครั้ง บรรดาแมงลือถึงขยับราคาเป้าหมายเบื้องต้นไปที่ระดับ 7 บาทพะยะค่ะ

Back to top button