PTT-CPALL ตบ-จูบรอบใหม่?

แฉทุกวันทันเกมหุ้น

เหลือเวลาอีก 6 ปี สัญญาร่วมพันธมิตรธุรกิจระหว่างยักษ์ใหญ่ค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ เซเว่นอีเลฟเว่น (7-eleven) ในนามของบริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL กับบริษัทบริหารสถานีบริการน้ำมันบริษัท ปตท.บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด ในเครือข่าของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) หรือ PTT จะหมดอายุ

ข้อมูลนี้ ไม่มีใครสงสัย แต่คำถามว่า หลังจากนั้นไปแล้ว จะมีการทำสัญญาทำธุรกิจต่อกันไปอีกหรือไม่…ยังหาคำตอบไม่ได้

สัญญาณแห่งความไม่แน่นอนโผล่มาให้เห็น เมื่อนางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด ออกมาเปิดเผยว่า ขณะนี้ทางบริษัทมีแผนการลงทุนภายในระยะเวลา 5 ปี (2561-2565) ด้วยการใช้เงินลงทุนรวม 11,000 ล้านบาท เพื่อขยายสถานีบริการน้ำมันประมาณ 70% และส่วนที่เหลือจะใช้เป็นการขยายร้านสะดวกซื้อ Jiffy เพิ่มเป็นจำนวน 200 แห่ง จากปัจจุบันมีอยู่จำนวนทั้งสิ้น 149 แห่ง…หักลบคือจะเพิ่มอีก 51 แห่งภายใน 5 ปีข้างหน้า

แผนการขยายร้านสะดวกซื้อ Jiffy แบ่งออกเป็นส่วนใหญ่ลงในสถานีบริการน้ำมันเหมือนเดิม ส่วนที่เหลือจะขยายออกไปสร้างนอกสถานีบริการน้ำมันหลังจากที่ในปี 2560 นี้ ได้เปิดทดลองให้บริการแล้วจำนวน 6 แห่ง โดยจะเปิดเพิ่มอีก 4 แห่งภายในปี 2561 และทยอยเปิดดำเนินการต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565

พูดมาแค่นี้ คงจะไม่เป็นข่าวใหม่อะไร หากไม่บังเอิญพลั้งปากออกมาว่า…แผนขยายร้าน Jiffy “เป็นการดำเนินการเพื่อให้มีความพร้อมและรองรับธุรกิจค้าปลีก หลังจากที่ร้านสะดวกซื้อ เซเว่น อีเลฟเว่น (7-eleven) ซึ่งปัจจุบันเปิดให้สถานีบริการน้ำมันของ ปตท. และมีอยู่ประมาณ 1,100 แห่ง กำลังจะหมดสัญญาลงภายในช่วง 6 ปีข้างหน้า”

นางสาวจิราพร บอกเพิ่มเติมว่า ในช่วงระยะเวลาประมาณ 2-3 ปี ก่อนที่จะหมดสัญญาลง ทางบริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด ต้องมีการเตรียมความพร้อมให้ชัดเจนว่า จะเลือกใช้วิธีดำเนินการทำสัญญากับร้านสะดวกซื้อเซเว่น อีเลฟเว่น (7-11) ต่อไปหรือไม่ หรืออาจจะเป็นการเลือกใช้บริการร้านสะดวกซื้อของทาง Jiffy

ให้ข่าวใหญ่อย่างนี้ พาดหัวรอล่วงหน้าได้เลยว่า เซเว่น อีเลฟเว่น มีความสุ่มเสี่ยงสูงที่จะถูก เขี่ย..เคียะ …กระเด็น….ออกจากปั๊มน้ำมันในเครือ ปตท.ได้

ปฏิกิริยา “เข่ากระตุก” ทันควันมาจากบรรดานักวิเคราะห์จินตนาการเหนือจริงที่ชักแม่น้ำทั้งห้ามาบอกว่า งานนี้ มีความเป็นไปได้สูง…แล้วก็ยกตัวอย่างในอดีต กรณีแฟรนไชส์ร้านกาแฟ “บ้านใร่กาแฟ” ที่เคยเป็นร้านกาแฟอันดับต้นๆ ของประเทศ มีสาขามากนับร้อยสาขาอยู่ในปั๊ม JET…ที่ปัจจุบันแทบจะกลายเป็น “ร้านหายาก” ไปเสียแล้ว

การหายไปของ “บ้านใร่กาแฟ” เมื่อกลุ่ม ปตท. ได้ซื้อปั๊ม JET แล้วแปลงกลายเป็นปั๊ม ปตท. แล้วก็เขี่ยออกไป ทดแทนด้วย Amazon Café มาเสียบแทนที่ พร้อมกับข้อสรุปว่าเมื่อพันธมิตรหมดประโยชน์จากการพึ่งพิงคู่ค้ารายใหญ่ โอกาสถูกเขี่ยก็สูงมาก…จึงเป็นปกติ

ความเสียหายจากการที่ปัจจุบัน เซเว่น อีเลฟเว่น มีสาขาในปั๊ม ปตท. มากถึง 1,400 สาขา คิดเป็น 14% ของจำนวนสาขาทั้งหมด ทั่วประเทศไทย….จึงไม่ใช่น้อย

ก่อนที่มโนนึกเรื่อง สงครามแย่ง “ที่นาผืนน้อย”…เอ๊ย…ทำเลทองเหนือปั๊มน้ำมัน…จะดำเนินต่อไป …แถลงการณ์สกัดข่าวลือของเครือ ปตท. จึงเร่งออกมากะทันหัน

นายสุชาติ ระมาศ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่การตลาดขายปลีก บมจ.ปตท. (PTT) ระบุว่า ปตท. ยืนยันเดินหน้าธุรกิจค้าปลีกในประเทศ ด้วยการจับมือกับร้านเซเว่น อีเลฟเว่น เดินหน้าร่วมกันขยายให้มีจำนวนรวมกว่า 1,700 แห่ง ในอีก 4-5 ปีนี้ ในสถานีบริการ ปตท. ในฐานะพันธมิตรทางธุรกิจที่มีความสัมพันธ์อันดีกันมายาวนาน

ทราบแล้วเปลี่ยน…เอี๊ยยยยยดดดด

ว่าไปแล้ว หากพิจารณายุทธศาสตร์ภาพรวมระยะสั้น สถานีบริการน้ำมันของ ปตท.ทั้งหมด ยังต้องการพันธมิตรอย่างเซเว่น อีเลฟเว่น ต่อไป เพราะต้อกงการ “แม่เหล็ก” เข้ามาใช้บริการต่อไป เนื่องจากรู้ดีว่า การพึ่งพารายได้จากการขายน้ำมันอย่างเดียว…ไม่เคยเพียงพอทำกำไรได้คุ้มค่าลงทุน (ที่ดินและก่อสร้าง-ดูแลรักษา) ที่ปัจจุบันต้องเริ่มต้นข้นต่ำ 30-50 ล้านบาทขึ้นไป…ไม่ต้องพูดถึง ค่าจ้าง  ค่าน้ำไฟ ค่าพนักงานอื่นๆ

โมเดลลงทุนปั๊ม ปตท.นั้น ไม่เคยธรรมดา…ราคาก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันขนาดเล็ก ประมาณ 15-20 ล้านบาท สถานีบริการน้ำมันขนาดกลาง ประมาณ 21-30 ล้านบาท ส่วนราคาก่อสร้างสถานีบริการน้ำมันสมบูรณ์แบบประมาณ 31 ล้านบาทขึ้นไป

การมีร้านสะดวกซื้อ ร้านอาหาร และร้านค้าอื่นๆ ตามความเหมาะสมจึงจำเป็นมากกว่าจำเป็น

หลายคนบอกว่า…นี่เป็นแค่การ “สร้างอำนาจต่อรอง” ตามประสาธุรกิจธรรมดา

แต่ก็โปรดอย่าลืมว่า ผู้บริหารของเซเว่น อีเลเว่นนั้น…หาใช่ธรรมดา…เซียนหมากล้อมตัวจริง

ป่านนี้ อาจจะซุ่มเงียบ…ครุ่นคิด หาทางออกที่อาจจะทำให้ตะลึง..ตึง…ตึงได้

3-5 ปียังไม่สายเกิน จะพบทางออก

อิ อิ อิ