มาทรงเดิม(อีกแล้ว)
*เดิมที “โมนิก้า” จะพูดถึงเรื่องดีๆ เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่สถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นเหมือนกับที่คาดคิดไว้ จึงต้องย้อนกลับมาพูดถึงเรื่องเทคนิคมากขึ้น และต้องอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ด้วยสัญญาณเทคนิค เพราะนักลงทุนหันมาซื้อขายหุ้นด้วยวิธีดังกล่าวมากขึ้น แถมเรื่องดังกล่าวมักใช้ได้ดีในจังหวะที่ตลาดหุ้นแกว่งตัวผันผวนเสียด้วยนะจ๊ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*เดิมที “โมนิก้า” จะพูดถึงเรื่องดีๆ เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่นนักลงทุน แต่สถานการณ์หลายอย่างไม่เป็นเหมือนกับที่คาดคิดไว้ จึงต้องย้อนกลับมาพูดถึงเรื่องเทคนิคมากขึ้น และต้องอธิบายปรากฏการณ์ต่างๆ ด้วยสัญญาณเทคนิค เพราะนักลงทุนหันมาซื้อขายหุ้นด้วยวิธีดังกล่าวมากขึ้น แถมเรื่องดังกล่าวมักใช้ได้ดีในจังหวะที่ตลาดหุ้นแกว่งตัวผันผวนเสียด้วยนะจ๊ะ
*โดยประเด็นที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากเป็นพิเศษก็คือ นี่เป็นอีกครั้งที่ดัชนีไม่สามารถวิ่งทะลุแนวต้าน 1,580 จุด และนี่เป็นอีกครั้งที่ดัชนีน่าจะอ่อนตัวลงมาทดสอบแนวรับ 1,560 จุด เดี๊ยนถึงอยากให้นักลงทุนยอมรับความจริงที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกันก็อยากให้ดูข้อมูลเก่าๆ ที่สื่อให้เห็นว่า “หุ้นลงลึกเท่าไหร่ ก็ดีดกลับขึ้นแรงเท่านั้น” มันเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหลายครั้งพะยะค่ะ
*สิ่งที่เดี๊ยนเห็นอีกอย่างก็คือ สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยไม่ได้มีอะไรเลวร้าย และไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงมากมายสักเท่าไหร่ เพราะตัวเลขที่เคยนำเสนอไปก่อนหน้านี้บอกไว้อย่างชัดเจนว่า บมจ.ไทยยังประคองตัวได้ค่อนข้างดี แถมมีอัตราการจ่ายเงินปันผลอยู่ในระดับที่น่าพอใจ ”โมนิก้า” ถึงเชียร์ให้ซื้อหุ้นเมื่ออ่อนตัวลงเป็นประจำทุกครั้ง เพราะดัชนียังเคลื่อนตัวในลักษณะ W-Shape ทราบแล้วเปลี่ยน!!
*สำหรับความเคลื่อนไหวของหุ้นบลูชิพ คงไม่มีอะไรตื่นเต้นไปมากกว่านี้อีกแล้ว “โมนิก้า” ขออนุญาตลัดคิวพูดถึงหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็กเพื่อกระตุ้นความมันในอารมณ์ดีกว่า วันนี้ขอเริ่มต้นกันที่ DIGI ก่อนหน้านราคาหุ้นแกว่งตัวลงลูกเดียว พอสบช่องได้โอกาสของการตะลุยรอบใหม่ ขาลุยทั้งหลายก็ช่วยกันดันสุดลิ่มทิ่มประตู จนหุ้นขึ้นมาปิดที่ 0.85 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 13% ด้วยมูลค่า 135 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทะยานขึ้น 2 วันติดแบบนี้..มันพะยะค่ะ
*เหมือนกับในรายของ TFG ผู้รู้ในวงการตลาดหุ้นต่างรับทราบกันเต็มทรวงว่า ของดีต้องราคาสูงกว่านี้!!..จึงชอบเชียร์ให้มิตรรักแฟนคลับเข้าซื้อหุ้นตลอดเวลา พร้อมกันนั้นก็ขอให้คุณท่านหลานเธอยอมรับความจริงที่ว่า แพตเทิร์นของหุ้นถูกสร้างขึ้นมาเพื่อเป็นทางเลือกของการลงทุน จึงน่าจะมีทีเด็ดออกมาโชว์ให้เห็นเรื่อยๆ หลังหุ้นกลับตัวเป็นขาขึ้นอีกครั้ง ก่อนจะมาปิดที่ 5.90 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ถือเป็นจังหวะ follow buy เจ้าค่ะ
*เช่นเดียวกับในรายของ ASAP ได้ชื่อเป็นหุ้นดีที่ไม่น่ามอง เพราะราคาหุ้นแกว่งตัว “ขึ้นแรง ลงแรง” จนเกินงาม จนมีคำพูดหลุดจากปากขาใหญ่ว่า ใครจะลากจะจูงหุ้นไปทางไหนก็ได้!! ถึงแม้ตัวบริษัทจะทำกำไรได้อย่างยอดเยี่ยม แต่พิจารณาจากองค์ประกอบรอบข้างแล้ว “โมนิก้า” ต้องปล่อยให้พวกมือไวใจกล้าเล่นกันเอง ส่วนปลาซิวปลาสร้อยคอยนั่งดูอยู่ห่างๆ จะดีกว่า หลังหุ้นขึ้นมาปิดที่ 7.60 บาท บวกไป 0.20 บาทนะค่ะ
*ยกเว้นต้องการเล่นจริงๆ “โมนิก้า” ขอแนะนำหุ้นดาวรุ่งอย่าง PPS เป็นลำดับแรก เพราะตั้งแต่เริ่มเห็นวอลุ่มอัดแน่นเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ก็มั่นใจว่ารอบนี้ต้องขึ้นไปยืนอย่างต่ำ 2 บาท ซึ่งเป็นโอกาสทองของนักลงทุนที่นิยมซื้อหุ้นเก็งกำไรข่าวผลประกอบการโตก้าวกระโดด ล่าสุดราคาหุ้นปิดที่ 1.90 บาท บวกไป 0.02 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 154 ล้านบาท..วันนี้เล่นกันต่อแน่ๆ เจ้าค่ะ
*ถ้าพูดกันจริงๆ ก็ต้องยอมรับว่า แพตเทิร์นการเคลื่อนตัวของ GCAP ก็มีรูปแบบการเคลื่อนตัวเหมือนกับรายข้างต้นที่กล่าวถึงทุกประการ ต่างกันตรงหุ้นตัวนี้เริ่มขยับก่อน และสามารถยกฐานแนวรับใหม่ที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนเซียนหุ้นหลายรายมองว่า หุ้นมีโอกาสไปต่อค่อนข้างสูง แม้หุ้นจะขึ้นมาปิดที่ 5.10 บาท บวกไป 0.12 บาท ด้วยมูลค่า 75 ล้านบาท แต่ในมุมของเดี๊ยนมองว่า ขายทำกำไรเพื่อความปลอดภัยก่อนดีกว่า หลังกำไรไตรมาส 2 ไม่แจ่มนะซี
*สำหรับนักลงทุนที่ชอบของช้าแต่ชัวร์ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้เหลือบมอง SQ เป็นลำดับแรก เพราะเป็นหุ้นที่ทำกำไรได้อย่างสม่ำเสมอ และยังมีสตอรี่ดีๆ ผุดขึ้นในอนาคตอีกมากมาย จึงเป็นช็อตที่ต้องตามไปดูอย่างใกล้ชิด บวกกับวันนี้หุ้นเทรดบนค่า P/E 12 เท่า เดี๊ยนถึงกล้าฟันธงว่า การขึ้นมาปิดที่ 6.45 บาท บวกไป 0.25 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 241 ล้านบาท น่าจะเป็นจุดที่ลงทุนได้สบายๆ นะจะบอกให้
*ส่วนหุ้นอีกหนึ่งตัวที่น่าจับตามากสุดในยามนี้คือ EA หลังราคาหุ้นเริ่มขยับขึ้นอีกครั้ง “โมนิก้า” ไม่สามารถมองเป็นเรื่องอื่นได้ นอกเสียจากผู้เล่นบางคนเริ่มเก็บของรอบใหม่ หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 35 บาท บวกไป 1 บาท ด้วยมูลค่า 276 ล้านบาท มันทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า หุ้นจะไต่เพดานขึ้นไปทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 38 บาทเป็นครั้งที่ 3 และมีแนวโน้มที่จะฝ่าขึ้นไปได้สบายๆ ก่อนจะปักหลักสร้างฐานที่บริเวณ 40 บาทนะคะ
*เช่นเดียวกับในรายของ TU เป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ชื่นชอบมาเป็นเวลานาน เพราะมีการจ่ายเงินปันผลที่สม่ำเสมอในอัตราร้อยละ 3 บวกกับหุ้นทรุดตัวลงมาค่อนเยอะ และเริ่มมีการไล่ซื้อหุ้นรอบใหม่ จึงเป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำ ประกอบกับราคาปิดที่ 19.60 บาท บวกไป 0.20 บาท ด้วยมูลค่า 97 ล้านบาท เป็นการเทรดหุ้นบนค่า P/E 17 เท่า ย่อมเป็นจุดที่เหมาะต่อการเทรดสั้นๆ เพราะจุดที่เล่นกันเป็นประจำอยู่แถว 20-22 บาทนะซี