เข้าหนัก..เข้าเร็ว
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยพุ่งกระฉูดโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า จนผู้เล่นเกิดอาการวี้ดว้ายกระตู้วู้กันยกใหญ่นั้น “โมนิก้า” มองเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน นักเล่นถึงพากันโดดใส่กันอย่างเมามัน จนสุดท้ายดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,614.14 บาท บวกไป 28.35 จุด ด้วยมูลค่า 9.48 หมื่นล้านบาท แถมเป็นการวิ่งทะลุแนวต้าน 1,600 จุดแบบชิวๆ มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติเกินไปหน่อยไหมจ๊ะ
เจาะกระดาน : โมนิก้าและทีมงาน
*วานนี้เป็นอีกครั้งที่ตลาดหุ้นไทยพุ่งกระฉูดโดยไม่ได้นัดหมายล่วงหน้า จนผู้เล่นเกิดอาการวี้ดว้ายกระตู้วู้กันยกใหญ่นั้น “โมนิก้า” มองเป็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดมาก่อน นักเล่นถึงพากันโดดใส่กันอย่างเมามัน จนสุดท้ายดัชนีวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1,614.14 บาท บวกไป 28.35 จุด ด้วยมูลค่า 9.48 หมื่นล้านบาท แถมเป็นการวิ่งทะลุแนวต้าน 1,600 จุดแบบชิวๆ มันเป็นเรื่องที่ผิดปกติเกินไปหน่อยไหมจ๊ะ
*งานนี้จริงเท็จไม่มีใครรู้ เพราะของจริงต้องดูกันว่า วันนี้หุ้นยังบวกต่อได้อีกไหม? หลังตัวเลขวานนี้รายงานว่า กองทุนตัวแสบเก็บหุ้น 5.23 พันล้านบาท บวกกับฝรั่งตาน้ำข้าวกระโดดใส่อีก 4.82 พันล้านบาท ผสมโรงกับปอบผีฟ้าวิ่งเข้าใส่อีก 2.80 พันล้านบาท โดยแมงเม่ายืนในทิศทางเดียวกันว่า ขอลงจากดอยก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง วานนี้ถึงเห็นเม่าปล่อยหุ้นออกมา 1.23 หมื่นล้านบาทเจ้าค่ะ
*ถามว่า หุ้นตัวไหนน่าลงทุน และตัวไหนควรมีติดพอร์ต “โมนิก้า” ขอตอบว่า นักลงทุนชอบหุ้นลักษณะไหนมากกว่ากัน หุ้นเติบโตสูง หุ้นทนแรงเสียดทาน และหุ้นปันผลดี เพราะหุ้นทั้งหมดที่กล่าวถึงน่าจะปรับตัวขึ้นอีก(ของจริงต้องเล่นต่อ) จึงไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้ออกของ หลังผู้รู้หลายท่านเม้าท์เหมือนกันว่า ตลาดหุ้นไทยอั้นมานาน พอถึงเวลาปลดปล่อย เลยขึ้นเร็วและแรงพะยะค่ะ
*ฉะนั้นการลงทุนหลังจากนี้ต้องเน้นหนักไปที่หุ้นรายตัว และต้องเลือกเฉพาะหุ้นที่มี Growth สูงๆ หรือหุ้นที่มี Dividen สูงๆ เพราะจะเป็นหุ้นที่มีแก๊ปให้วิ่งเยอะมากกว่าใครเพื่อน ขณะเดียวกันยังเป็นการเปิดโอกาสให้นักลงทุนสถาบันได้ไล่เก็บของใส่พอร์ตเพิ่มเติมแบบนี้ “โมนิก้า” ถึงเชื่อว่า หากไม่มีอะไรกระเทือนจิตใจอย่างรุนแรง พวกกองทุนในประเทศและต่างประเทศจะเข้ามาเก็บของเพิ่มเติมไงล่ะค่ะ
*ดาวเด่นที่เชียร์มาแต่ไหนแต่ไร และยังเป็นหุ้นในดวงใจของเดี๊ยนก็คือ PTT โบรกเกอร์มองผลประกอบการปี 60 ยังโดดเด่นเหมือนเดิม นักวิเคราะห์ก็เลยแนะนำให้นักลงทุน “ซื้อสุดซอย” ราคาหุ้นก็เลยไต่ระดับสูงขึ้นอย่างที่เห็น ล่าสุดหุ้นขึ้นมายืนอยู่ที่ 400 บาท บวกไป 6 บาท ด้วยมูลค่า 8 พันล้านบาท โดยมูลค่าการซื้อขายคิดเป็น 8% ของทั้งตลาดแบบนี้..มันมีความหมายในตัวของมันเองนะคะ
*อีกรายที่ต้องกองทุนเม้าท์เป็นเสียงเดียวกันคือ PTTEP พร้อมกับยกให้เป็นสุดยอดหุ้นแกร่ง จึงเป็นอีกหนึ่งหุ้นที่ต้องต้องเฝ้าดูให้ดีๆ หากวันนี้หุ้นฝ่าแนวต้านบริเวณ 89 บาทขึ้นไปอย่างง่ายดาย รอบนี้มองฐานเก่าที่บริเวณ 95 บาทได้ทันที ต่อจากนั้นค่อยขยับไปมองเป้าด้านบนที่ 100 บาท ซึ่งเป็นเรื่องที่ทำให้ “โมนิก้า” เกิดอาการเคลิบเคลิ้มในทันที หลังหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดแค่ 87.50 บาท บวกไป 1.75 บาท ด้วยมูลค่า 1.71 พันล้านบาทเจ้าค่ะ
*ส่วนกลุ่มหุ้นดาวงรุ่งที่มีข่าวดีคอยซับพอร์ต และมีแนวโน้มจะไต่ระดับขึ้นไปเรื่อยๆ อย่าง BGRIM วิเคราะห์จากมุมไหน ด้านไหน ก็เป็นหุ้นที่เดี๊ยนอยากให้นักลงทุนที่มีใจรักตะลุยเข้าใส่เต็มที่ แถมมีข่าวดีเรื่องรายได้ในอนาคตจะเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 20.20 บาท บวกไป 1.10 บาท หรือขึ้นไป 5.75% ด้วยมูลค่า 1.73 พันล้านบาท เม้าท์ได้แค่ว่า หากหุ้นขึ้นต่อ ต้องรีบใส่ทันที หากหุ้นอ่อนตัวลงมา ต้องหาจังหวะเก็บ..หากให้พูดรวมๆ ก็คือ น่าซื้อเก็บ..เจ๊คอนเฟิร์ม!
*เหมือนกับในรายของ TOP อาศัยกำลังภายในบวกกับกำลังภายนอก ราคาหุ้นก็เลยกระชากขึ้นต่อเนื่อง บวกกับวานนี้มีเงินทุนไหลเข้ามาสมทบ หุ้นเลยวิ่งขึ้นมาปิดที่ 94.50บาท บวกไป 2.75 บาท หรือขึ้นไปอีก 3% ด้วยมูลค่า 1.39 พันล้านบาท พร้อมกับมีคำถามตามหลังมาว่า “เว่อร์หรือเปล่า!” “โมนิก้า” ในฐานะคนกลางไม่อยากจะพูดอะไรมากไป เดี๋ยวคนจะหาว่า เข้าข้างมากไป จึงขอให้แฟนคลับหันไปดูค่า P/E 9 เท่า มันต่ำเกินไหมจ๊ะ
*เหมือนกับการลงทุนในหุ้น KTB ต่อให้ทุกคนรับรู้กันอย่างหมดไส้หมดพุ่งว่า หุ้นตัวนี้มีดีกว่าที่คิด? แต่เหตุการณ์เมื่อ 3-4 เดือนก่อน มันทำให้ขาลุยยังขวัญผวาไม่หาย แรงซื้อถึงมีเข้ามาอย่างกระท่อนกระแท่น ขณะที่เที่ยวนี้มันมีอะไรมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 18.90 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3.85% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาท จึงกลายเป็นจังหวะที่ต้องไหลตามน้ำ หลังหุ้นวิ่งทะลุเส้นแนวต้านได้หมดทุกเส้นเจ้าค่ะ
*ตรงกันข้ามในรายของของ TRUE พอหุ้นเริ่มตั้งหลักได้เป็นที่เรียบร้อย สถานการณ์หลายอย่างก็ดีขึ้นเป็นลำดับ และพวกกองทุนเริ่มเห็นของดีที่แฝงไว้อยู่ข้างใน วานนี้ถึงเห็นราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.55 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 5.70% ด้วยมูลค่า 1.70 พันล้านบาท “โมนิก้า” วิเคราะห์จากมุมไหน ด้านไหน ก็ต้องบอกว่า น่าจะถึงเวลาทยอยเก็บหุ้นเข้าพอร์ตได้แล้ว เพราะแพตเทิร์นของหุ้นมาค่อนข้างดีนะซี
*ตบท้ายกันที่ในรายของ BJC รายนี้ถือเป็นหุ้นที่บวก 3 วันติด จนทำให้รูปแบบการเคลื่อนตัวของหุ้นเป็นลักษณะขาขึ้น พ่วงด้วยปัจจัยพื้นฐานที่บรรดาแมงเม้าท์เชื่อในทิศทางเดียวกันว่า น่าเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น และควรไม่ลืมว่า ยอดเก่าอยู่แถว 50 บาท ต่อจากนั้นขยับขึ้นไปถึง 55 บาท แถมรอบนี้ได้แรงหนุนกองทุนเป็นหลัก ส่งผลให้การขึ้นมาปิดที่ 48.50 บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.65% ยังเหลือแก็ปให้หุ้นวิ่งอีกเยอะนะค่ะ